ตอนนี้ผู้ใช้งาน Google Maps บน Android Auto สามารถเห็นการรายงานเหตุบนท้องถนน เช่น ด่านตรวจจับความเร็วของตำรวจ อุบัติเหตุ หรือสิ่งกีดขวาง จาก Waze (ซึ่ง Google เคยซื้อกิจการมาเมื่อหลายปีก่อน) ได้แล้ว
นอกจากนี้ Google ยังอัปเดตให้การรายงานเหตุบนท้องถนนของ Google Maps บน Android Auto ทำได้ง่ายขึ้น และวางแผนที่จะนำฟีเจอร์นี้ ไปใช้กับ Apple CarPlay ด้วย
กูเกิลฉลอง Android Auto, Android TV และ Android Wear (ปัจจุบันชื่อ Wear OS) มีอายุครบ 10 ปี เพราะระบบปฏิบัติการทั้งสามตัวเปิดตัวพร้อมกันในปี 2014
กูเกิลเล่าว่า Android Auto เกิดจากความนิยมของฟีเจอร์ turn-by-turn navigation ของ Google Maps ที่ออกในปี 2010 เมื่อคนนำไปใช้ในรถมากๆ ก็เกิดปัญหาเรื่องความปลอดภัย ทำให้กูเกิลมองหาแนวทางที่ปลอดภัยกว่า มีการทดลองต้นแบบอุปกรณ์หลายอย่าง (ดูคลิปประกอบ) จนออกมาเป็น Android Auto ในที่สุด
กูเกิลประกาศรองรับแอพเพิ่มเติมบน Android Automotive ได้แก่แอพกลุ่มสตรีมมิ่ง Max, Peacock และเกม Angry Birds ที่สามารถเล่นได้ตอนรถจอด
ส่วน Android Auto ที่เป็นการส่งภาพจากมือถือขึ้นจอ รองรับแอพ Uber Driver สำหรับคนขับรถแล้ว เท่ากับว่าคนขับ Uber จะสามารถรับงานผู้โดยสารและดูการนำทางได้จากจอใหญ่ของรถยนต์ แทนที่จะเป็นจอมือถือแบบเดิม
กูเกิลเปิดตัวฟีเจอร์เล็กๆ ของ Android Auto พร้อมงานแถลงข่าว Galaxy S24 เมื่อคืนนี้ โดยหน้าจอแสดงผลของ Android Auto ในรถยนต์จะปรับภาพพื้นหลังและไอคอนให้เหมือนกับสมาร์ทโฟนที่มาเชื่อมต่อด้วย ตอนนี้บอกว่ารองรับเฉพาะสมาร์ทโฟนที่เป็น Samsung Galaxy เท่านั้น
ฟีเจอร์อีกอันที่ชูจุดเด่นเรื่อง AI คือสามารถสรุปข้อความยาวๆ ในแอพ Messages เพื่ออ่านให้เราฟังขณะที่กำลังขับรถได้ว่า เพื่อนในกลุ่มกำลังคุยเรื่องอะไรกัน และแนะนำคำตอบที่ให้ส่งกลับด้วย เช่น ถ้าเพื่อนพิมพ์มาถามว่าเมื่อไรจะถึงที่หมาย ระบบ AI จะสามารถเข้าใจและแนะนำให้เราตอบเป็นค่า ETA (estimated time of arrival) จากใน Google Maps ได้เลย
กูเกิลอัพเกรดฟีเจอร์ใหม่ให้ Android Auto ระบบแสดงข้อมูลบนหน้าจอรถยนต์ ฟีเจอร์สำคัญคือ Android Auto สามารถแสดงแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ของรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้แล้ว สามารถสั่งให้นำทางด้วย Google Maps แล้วพยากรณ์ได้ว่าแบตเตอรี่จะเหลือกี่เปอร์เซนต์ตอนเดินทางถึงที่หมาย รวมถึงแนะนำจุดชาร์จระหว่างทางให้ด้วย
ฟีเจอร์แสดงแบตเตอรี่จะใช้ได้กับรถยนต์ไฟฟ้าค่าย Ford ก่อนคือ Ford Mustang Mach-E และ Ford F-150 Lightning ส่วนรถยนต์รุ่นอื่นๆ จะตามมาในภายหลัง
กูเกิลประกาศเพิ่มแอพที่รองรับในรถยนต์ ทั้งผ่านระบบ Android Auto (ส่งภาพจากมือถือไปยังจอรถยนต์) และ cars with Google built-in ชื่อใหม่ของ Android Automotive (รัน Android จากคอมพิวเตอร์ในรถยนต์เลย)
Android Auto
รองรับการประชุมออนไลน์ผ่าน Cisco Webex และ Zoom จากในรถยนต์ ตามที่เคยประกาศไว้ใน Google I/O โดยยังมีแค่การประชุมด้วยเสียงอย่างเดียวเพื่อความปลอดภัย สามารถกด join ห้องประชุมได้จากหน้าจอรถยนต์เลย ไม่ต้องล้วงโทรศัพท์ให้อันตราย
ในประกาศเดิมของกูเกิลพูดถึง Teams ด้วย แต่ไม่มีกล่าวถึงในประกาศล่าสุด ส่วน Meet ของตัวเองนั้นเหมือนไม่มีตัวตนอยู่ในจักรวาลนี้
Android Auto เป็นอินเทอร์เฟซในการฉายภาพจากมือถือไปยังหน้าจอของรถยนต์ โดยการประมวลผลอยู่บนฝั่งมือถือ
ที่ผ่านมา การใช้ Google Maps บน Android Auto มีข้อจำกัดคือแสดงผลได้เฉพาะบนหน้าจอรถยนต์เท่านั้น ไม่สามารถรัน Google Maps บนหน้าจอโทรศัพท์ควบคู่ไปพร้อมกันได้ ซึ่งบางครั้งอาจเป็นปัญหา เพราะหน้าจอ Google Maps ในรถยนต์แสดงข้อมูลค่อนข้างจำกัดกว่าบนโทรศัพท์ รวมถึงการป้อนข้อมูลเพื่อค้นหาสถานที่ย่อมทำได้ยากกว่าบนมือถือจอสัมผัส
ล่าสุดมีผู้ใช้บางกลุ่มรายงานว่า กูเกิลปลดล็อคข้อจำกัดตรงนี้ให้แล้ว สามารถเปิด Google Maps พร้อมกันทั้งบนมือถือและหน้าจอรถยนต์ได้เลย ตอนนี้ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจากกูเกิล แต่ผู้ใช้หลายรายใน Reddit ยืนยันว่าใช้งานได้แล้ว
กูเกิลประกาศข่าวของระบบปฏิบัติการ Android Automotive OS ว่าจะรองรับหลายหน้าจอ (multi-screen) สำหรับรถบางรุ่นที่อาจมีจอสำหรับผู้โดยสาร จะเริ่มใช้ใน Android Automotive OS 14 ที่จะออกช่วงปลายปีนี้
สำหรับรถยนต์รุ่นที่ใช้ Android Automotive OS และมีแอพของกูเกิลด้วย (cars with Google built-in) ผู้ผลิตรถยนต์ยังสามารถเลือกติดตั้งแอพหมวดชมวิดีโอ (เช่น YouTube) และเกมในระบบหน้าจอแสดงข้อมูลของรถยนต์ได้ด้วย เกมที่ระบุชื่อได้แก่ (Beach Buggy Racing 2, Solitaire FRVR, My Talking Tom Friends) โดยแอพสองกลุ่มนี้จะใช้ได้เฉพาะตอนจอดรถ (parked apps) เท่านั้น
Google ประกาศอัพเดต Android Auto เล็กๆ เมื่อคืนที่ผ่านมาคือจะรองรับแอปประชุมออนไลน์เจ้าใหญ่ๆ แล้วทั้ง Microsoft Teams, Zoom และ WebEx (แต่ไม่มีข้อมูลเรื่อง Google Meets ของตัวเอง?) หลังจากที่ทั้ง Microsoft Teams และ Zoom รองรับบน Apple CarPlay มาตั้งแต่ 2021 และ 2018 ตามลำดับ
ที่มา - Google
จากข่าว GM ประกาศเลิกสนับสนุน CarPlay/Android Auto, เปลี่ยนไปใช้ Android Automotive ทำให้เว็บไซต์ 9to5mac สอบถามไปยังคู่แข่งเพื่อนร่วมชาติ Ford ว่ามีนโยบายนี้อย่างไร
คำตอบของ Ford คือจะยังสนับสนุน Apple CarPlay และ Android Auto ต่อไป เพราะเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า EV เนื่องจากรถ EV บางยี่ห้อไม่มีฟีเจอร์นี้
บริษัทรถยนต์เครือ GM ประกาศว่าจะเลิกสนับสนุนระบบยิงมือถือขึ้นจอภาพรถยนต์ (phone projection systems) ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ในรถยนต์รุ่นปี 2024 เพื่อไปใช้ระบบปฏิบัติการ Android Automotive ที่รันจากคอมพิวเตอร์ภายในรถยนต์แทน
รถยนต์ในเครือ GM เริ่มใช้ Android Automotive มาได้สักพักแล้ว เช่น GMC และ Cadillac ที่เริ่มในปี 2021 แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ GM ยืนยันว่าจะเลิกรองรับ CarPlay และ Android Auto ด้วย
กูเกิลเปิดตัวอินเทอร์เฟซโฉมใหม่ของ Android Auto ที่ใช้ฉายขึ้นจอภาพในรถยนต์ อินเทอร์เฟซแบบใหม่นี้ถูกนำมาโชว์ตั้งแต่งาน Google I/O 2022 แล้วเงียบหายไปนาน ในที่สุดกูเกิลก็เริ่มปล่อยอัพเดตให้ผู้ใช้แล้ว
Android Auto เวอร์ชันใหม่มี UI ที่ยืดหยุ่นขึ้น รองรับจอภาพหลายสัดส่วนทั้งแบบแนวตั้งและแนวนอนกว้างๆ ใช้ดีไซน์แบบการวาง widget ข้อมูลหลายๆ ชนิดลงในหน้าจอเดียว เพื่อลดความจำเป็นในการสลับแอพลงไป (เช่น ดูแผนที่ ฟังเพลง แสดงข้อความ ในหน้าจอเดียวกัน)
กูเกิลโชว์ Android Auto อินเทอร์เฟซสำหรับหน้าจอรถยนต์เวอร์ชันใหม่ ปรับดีไซน์ใหม่เป็น Material Design และออกแบบให้ยืดหยุ่นต่อหน้าจอทุกขนาด จะเป็นจอแนวนอนยาวๆ หรือหน้าจอแนวตั้งก็ได้เช่นกัน หากแสดงผลบนหน้าจอที่มีพื้นที่มากพอ ระบบจะแสดงแบบ split screen ให้เห็นข้อมูลอื่นๆ นอกจากหน้าจอหลัก ช่วยลดความจำเป็นในการสลับหน้าจอลงไป
ในแง่ฟีเจอร์อื่นๆ Google Assistant จะเข้ามาช่วยแนะนำข้อมูลที่เราน่าจะสนใจบนหน้าจอได้มากขึ้น เช่น บอกระยะเวลาที่น่าจะเดินทางถึงปลายทาง และเราสามารถตอบข้อความแชทผ่านปุ่มบนหน้าจอได้แล้ว โดยเป็นปุ่มพร้อมข้อความที่ใช้บ่อยๆ เช่น OK, no thanks หรือเป็น emoji เป็นต้น (ของเดิมทำไม่ได้ ต้องตอบด้วยเสียงเท่านั้น)
กูเกิลบอกว่าอัพเดตตัวนี้จะปล่อยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า (coming months) แต่ไม่บอกช่วงเวลาที่ชัดเจน
BMW แจ้งอย่างเป็นทางการว่า ผู้ซื้อ BMW ที่ผลิตในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2022 จะไม่สามารถใช้งาน Android Auto และ Apple CarPlay ได้ เนื่องจากบริษัทประสบปัญหาชิปขาดแคลน จนต้องเปลี่ยนซัพพลายเออร์ แต่ชิปที่ได้มากลับไม่รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay ในตอนนี้
ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020 ที่รถยนต์ของ BMW ไม่สามารถใช้สองฟีเจอร์ดังกล่าวได้ และการทำแบบนี้ BMW ยืนยันว่า ต้องการส่งมอบรถยนต์ให้ลูกค้าตามที่แจ้งไว้ โดยรถยนต์ที่ใช้ชิปดังกล่าวจะมีรหัสการผลิต 6P1 และส่งออกไปที่สหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศส, อิตาลี, สเปน และสหราชอาณาจักร
ในการเรียกรถแบบ ride-hailing สิ่งที่เราเห็นคือคนขับรถ กดรับคำสั่งจากผู้โดยสารจากสมาร์ทโฟนที่แขวนไว้ที่กระจกหน้าหรือแท่นบนคอนโซลหน้ารถ ข้อเสียของแนวทางนี้คือหน้าจอเล็ก มองลำบาก อาจเกิดอุบัติเหตุได้
วงการรถยนต์เองก็เริ่มใช้หน้าจอ infotainment แบบสัมผัสที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และสามารถนำมาใช้แก้ปัญหาข้างต้นได้ วันนี้กูเกิลจึงประกาศว่ารถยนต์ที่รองรับ Android Auto จะสามารถแสดงแอพของคนขับ (driver app) บนหน้าจอได้โดยตรง เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนขับมองเห็นข้อมูลได้ง่ายขึ้น
ตอนนี้แอพที่รองรับยังมีสองตัวคือ Lyft และ Kakao Mobility ในเกาหลีใต้
แม้ Android Auto จะรองรับการเชื่อมต่อไร้สายมาสักระยะแล้ว แต่รถยนต์หลายรุ่นยังเป็น Android Auto รุ่นเก่าที่ต้องต่อ USB เพื่อใช้งาน (รถยนต์บ้านเราน่าจะมีน้อยรุ่น) ทำให้ Motorola ออก Motorola MA1 มาช่วยแก้ปัญหานี้
Motorola MA1 เป็นอแดปเตอร์ USB หน้าตาเหมือน Chromecast เมื่อเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ท USB-A บนรถหรือแผงหน้าจอบนคอนโซลรถ (ที่รองรับ Android Auto) จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถสามารถเชื่อมต่อ Android Auto แบบไร้สายได้ ผ่านบลูทูธและ Wi-Fi 5GHz
Motorola MA1 วางขายที่ราคา 89.95 เหรียญหรือราว 3,000 บาท
ที่มา - XDA
Google โฆษณาไว้ก่อนหน้านี้ว่า Android 12 จะมีฟีเจอร์กุญแจรถดิจิทัล (digital car key) ให้ใช้ปลดล็อกรถยนต์รุ่นที่รองรับได้ และวันนี้ก็เริ่มปล่อยอัพเดตฟีเจอร์นี้ให้ Pixel 6, Pixel 6 Pro และ Galaxy S21 ในบางประเทศแล้ว เบื้องต้นใช้ได้กับรถ BMW รุ่นที่รองรับ (ไม่ได้ระบุว่ารุ่นใดบ้าง)
นอกจากนี้ยังเพิ่มฟีเจอร์ auto launch ให้รัน Android Auto อัตโนมัติเมื่อต่อมือถือเข้ากับรถที่รองรับ ปรับปรุง UI ของ Android Auto ให้เปิดเพลงและทำการค้นหาด้วยเสียงได้ง่ายขึ้น และในอนาคตจะปล่อยฟีเจอร์ Smart Reply ให้ตอบข้อความได้โดยใช้ Google Assistant
กูเกิลอัพเดตหน้าตาของ Android Auto เวอร์ชันบนหน้าจอรถยนต์ให้ใช้งานสะดวกขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่คือเล่นเกมง่ายๆ จาก GameSnacks ได้ด้วย (เฉพาะตอนที่รถจอดนิ่งเข้าเกียร์ P เท่านั้น)
ฟีเจอร์อื่นของ Android Auto
หลัง Google ประกาศเตรียมเพิ่มประเทศที่ Android Auto รองรับอีก 36 ประเทศ ตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะเปิดให้บริการในไทยช่วงไหน วันนี้ Google โพสต์ทวิตเตอร์ ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า Android Auto ระบบเชื่อมต่อมือถือ Android กับหน้าจอรถยนต์ เปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว
เมื่อพูดถึง Android Auto ของกูเกิล มีรูปแบบการใช้งานอยู่ 2 ประเภท คือ แสดงผลบนหน้าจอของรถยนต์ (หากรถยนต์รุ่นนั้นรองรับ) หรือแสดงผลบนหน้าจอโทรศัพท์เอง (หากรถยนต์ไม่รองรับ) แบบหลังมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Android Auto for Phone Screens และเริ่มใช้งานครั้งแรกในปี 2019
แต่ช่วงหลัง ผู้ใช้แอนดรอยด์หลายคนน่าจะเห็น Google Assistant Driving Mode เริ่มเข้ามาแทนแล้ว ล่าสุดกูเกิลยืนยันว่าเลิกทำ Android Auto for Phone Screens อย่างเป็นทางการใน Android 12 (แต่ใน OS รุ่นก่อนๆ ยังใช้ได้เหมือนเดิม) และเปลี่ยนมาใช้ Assistant Driving Mode แทน
Google ประกาศรองรับประเทศที่ให้บริการ Android Auto เพิ่มอีก 36 ประเทศ ที่สำคัญคือรอบนี้มีประเทศไทยอยู่ในลิสต์แล้ว ทำให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์น่าจะสามารถดาวน์โหลด Android Auto จาก Play Store ได้แล้ว (ถ้ายังไม่ได้ก็อาจจะเร็วๆ นี้)
ขณะที่ฝั่งแบรนด์รถปัจจุบันส่วนใหญ่จะเน้นโฆษณาไปที่ CarPlay ของแอปเปิลเป็นหลัก อาจจะเพราะมีให้บริการไม่เหมือน Android Auto แต่เท่าที่ผมทราบอย่าง Honda ที่รองรับ CarPlay ก็มี Android Auto ในตัวด้วยแค่ไม่ได้โฆษณา หากสมาร์ทโฟนมีแอปก็สามารถเชื่อมต่อได้ทันที
BMW เริ่มปล่อยอัพเดตให้ใช้งาน Android Auto แล้ว โดยเลื่อนมาจากที่สัญญาไว้ว่าจะมาเดือน ก.ค. 2020 เล็กน้อย
อัพเดตครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ BMW Operating System 7 (เลขเวอร์ชันคือ 7/20) ครอบคลุมฟีเจอร์ใหม่อื่นๆ อย่าง BMW Maps, Connected Charging, eDrive Zones ด้วย
ลูกค้ากลุ่มแรกที่จะได้อัพเดตนี้คือประเทศแม่อย่างเยอรมนี จะเริ่มอัพเดตแบบ over-the-air ในวันที่ 19 ตุลาคม จากนั้นจะเป็นคิวของยุโรป สหรัฐอเมริกา แคนาดา และจีน แล้วจึงเป็นประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
Google ประกาศขยายการรองรับแอปประเภทใหม่ ๆ บน Android Auto อย่างแอปนำทาง, หาที่จอดรถและหาที่ชาร์จรถไฟฟ้า พร้อมประกาศพาร์ทเนอร์ระดับ early access ที่พัฒนาแอปกลุ่มดังกล่าวชุดแรก
นอกจากนี้ Google ยังออกไกด์ไลน์สำหรับการพัฒนาแอปบน Android Auto เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานบนรถที่สุด โดยแอปเบต้าในกลุ่มดังกล่าวจะเริ่มปล่อยให้ทดสอบภายในสิ้นปีนี้ ก่อนจะปล่อย APIs ให้นักพัฒนาแอปทั้งหมดต่อไป
ที่มา - Android Developers
BMW ประกาศรองรับ Android Auto อย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากรองรับแต่ Apple CarPlay เพียงอย่างเดียวมาหลายปี
ถึงมาช้าแต่มาทีเดียวแบบจัดเต็ม เพราะ BMW รองรับการเชื่อมต่อ Android Auto แบบไร้สาย แถมยังแสดงผลข้อมูลจาก Android บนหน้าจอทุกอย่างในรถ ไม่ว่าจะเป็นจอภาพหลัก Control Display และจอภาพของผู้ขับขี่คือ Info Display กับ Head-Up Display ด้วย
BMW ระบุว่าจะเริ่มเปิดใช้งาน Android Auto ในเดือนกรกฎาคม 2020 เป็นต้นไป ในรถยนต์ทุกรุ่นที่ใช้ระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 7.0
เมื่อต้นปีนี้ Toyota เป็นค่ายรถใหญ่อีกค่ายที่ประกาศรองรับ Android Auto เช่นกัน
ระบบอินโฟเทนเมนต์ในรถยนต์ Ford ใช้ชื่อว่า Ford SYNC ซึ่งออกรุ่นแรกมาตั้งแต่ปี 2007 และพัฒนามาเรื่อยๆ จนปัจจุบันอยู่ที่ SYNC 3 ซึ่งใช้มาเกือบห้าปีแล้ว ล่าสุด Ford เปิดตัว SYNC 4 ซึ่งจะเริ่มใช้จริงปีหน้า
Ford SYNC 4 จะรองรับ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย ทำให้ผู้ขับขึ้นรถมาก็เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของตนได้ทันที นอกจากนี้รถยนต์บางรุ่นก็จะมีแป้นชาร์จมือถือไร้สายด้วย