Tags:
Node Thumbnail

ธนาคารไทยพาณิชย์ ภายใต้การดำเนินการของดิจิทัล เวนเจอร์ส ผู้ทำการลงทุนและค้นคว้านวัตกรรมการเงิน ประกาศเพิ่มงบลงทุนในสตาร์ทอัพทั่วโลกอีก 50 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,750 ล้านบาท เน้นลงทุนด้าน AI, ความปลอดภัยไซเบอร์, บล็อกเชน, Big Data เป็นต้น เพื่อต่อยอดการบริการของธนาคารไม่ว่าจะเป็น บริการสินเชื่อ การบริหารความมั่งคั่ง เอสเอ็มอี ธุรกิจประกัน

การลงทุนรอบใหม่นี้ จะลงทุนในรูปแบบ Corporate venture capital หรือ CVC คือ การที่บริษัทลงทุนในสตาร์ทอัพโดยตรง โดยไม่ผ่านกองทุน โดยบริษัทอาจเสนอผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยสตาร์ทอัพด้วย ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการ การตลาด เพื่อสร้างความได้เปรียบ ในขณะที่ การลงทุนแบบเก่าหรือ VC เป็นการลงทุนผ่านกองทุนอื่น หรือลงทุนผ่านบุคคลที่สาม

ดร. อารักษ์ สุธีวงศ์ รองผู้จัดการอาวุโส ธนาคารไทยพาณิชย์ บอกว่ารอบการลงทุนก่อนหน้านี้ได้ลงทุนไปแล้ว 50 ล้านดอลลาร์ รวมกับรอบนี้อีก 50 ล้านดอลลาร์ เป็น 100 ล้านดอลลาร์ โดยตลอดสองปีที่ผ่านมา มีทั้งการลงทุนในสตาร์ทอัพโดยตรง และลงทุนใน VC เช่น Golden Gate Ventures, Nyca Partners (ลงทุนฟินเทค), Ripple ผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านการชำระเงินจากสหรัฐฯ เป็นต้น

ดร. อารักษ์ ระบุเพิ่มเติมว่า การลงทุนในรอบใหม่นี้จะเน้นลงทุนที่สตาร์ทอัพโดยตรงมากขึ้น โดยไม่ผ่าน VC และเน้นลงทุนตามเทคโนโลยีที่มีประโยชน์ต่อไทยพาณิชย์ ไม่ว่าบริษัทนั้นจะอยู่ที่ไหนของโลก โดยเฉพาะเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างควอนตัมคอมพิวเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ บล็อกเชน

No Descriptionพลภัทร อัครปรีดี กรรมการผู้จัดการ ดิจิทัล เวนเจอร์ส และ ดร. อารักษ์ สุธีวงศ์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารไทยพาณิชย์

ด้าน Financial Return หรือกำไรจากการลงทุน ในขั้นนี้ ดร.อารักษ์ ระบุว่า ไม่ได้คาดหวังมาก แต่ตามปกติของการลงทุนทั่วโลกแล้ว บริษัทจะคาดหวังผลตอบแทนกลับคืนมา 25-30% ในอนาคตเราก็คาดหวังจะได้ผลตอบแทนกลับคืนมาในระดับเดียวกัน

Get latest news from Blognone