Hypermiling คือวิธีการขับรถให้ได้ระยะทางมากที่สุดจากปริมาณเชื้อเพลิงเต็มถังของรถคันหนึ่งๆ ซึ่งมักจะตัดการใช้งานส่วนต่างๆ บนรถที่ไม่จำเป็นออกเพื่อประหยัดพลังงานที่สุด ซึ่งล่าสุดมีผู้ใช้ Model 3 ทดสอบ Hypermiling สามารถทำระยะทางได้ทั้งหมด 606.2 ไมล์ (975 กม.) จากการชาร์จเพียง 1 ครั้ง ซึ่งเป้าที่พวกเขาตั้งไว้คือราว 1,086 กิโลเมตร
ความเร็วที่ใช้จะอยู่ที่ประมาณ 32-48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับวนอยู่ในเส้นทางราว 1.6 กิโลเมตร มีหยุดบ้างบางช่วงเพื่อเข้าห้องน้ำและหาอะไรกิน สรุปใช้เวลาทั้งหมดราว 32 ชั่วโมงโดยไม่เปิดแอร์ ซึ่งผู้ทดสอบทวีตบอกด้วยว่าบางช่วงอุณหภูมิในรถขึ้นไปสูงถึงราว 42 องศาด้วยซ้ำ ซึ่งการทดสอบนี้มี Live บน YouTube ด้วย
อย่างไรก็ตามหลังสร้างสถิตินี้ขึ้นมาจนแบตเตอรีเหลือ 0 รถยนต์ Model 3 คันดังกล่าวไม่สามารถชาร์จไฟเข้าไปได้จากสถานี SuperCharger หลังถูกเสียบไว้ข้ามคืน จนต้องเรียกรถลากไปเข้า Service Center ซึ่ง ณ ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบสาเหตุและแก้ปัญหาไม่ได้ โดยเจ้าของรถยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหาแบตเตอรีมาก่อน แต่ก็ใช้งานแบตเตอรีจนหมดเหลือ 0% ไป 3 ครั้ง
สถิตินี้เป็นสถิติ Hypermiling ครั้งแรกบน Model 3 ขณะที่สถิติ Hypermiling บน Model S 100D ทำไว้ที่ 1,078 กิโลเมตรในอิตาลีเมื่อกลางปีที่แล้ว
ทรี่มา - The Verge, @seanmmitchell
Final #Model3 hypermile numbers from @teslainventory and I: 606.2 miles (975 km), 66 kWh, and 110 wh/mi, and 32 hours of driving. At its peak it was 108F in the cabin with no a/c running. Thank you @Tesla and @elonmusk for making such an incredible piece of machinery! pic.twitter.com/Z1LJk4Ligk
— Sean M Mitchell (@seanmmitchell) May 27, 2018
Getting our hypermile #Model3 towed to the Service Center. After leaving it charged overnight at a Supercharger it is still not taking a charge. @teslainventory pic.twitter.com/QicQbnnWrF
— Sean M Mitchell (@seanmmitchell) May 27, 2018
Update on hypermile Model 3 charging: Tesla has been investigating today - good communication. No resolution yet. Will add that I’ve run out of battery in my S three times and have never had issue with charging once at charger. Model 3 behavior that night was very unusual.
— Sean M Mitchell (@seanmmitchell) May 28, 2018
Comments
606.2 กิโลเมตร <<<< 606.2 ไมล์
อ่านหัวข้อแล้วตกใจ นึกว่าไปเทียบกับรถใช้น้ำมันแล้วชนะ
เอาจริงๆขับปิดแอร์ งี้พี่อีสุสุ เราก็ชนะได้ ถังนึงวิ่งได้พันโลสบายๆ
หรือ civic ตัวใหม่ๆ ถังนึงวิ่งทางไกล 80-100 เปิดแอร์ตลอดก็ได้แถวๆ 750-800km ได้แล้วนะ ถ้าเอา 40 คงแตะพันได้แบบเขา
Civic ใหม่ได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ เห็นเพื่อนผมเคยบอกได้ 4-500 เอง ตัวเทอร์โบ
ตัวเครื่อง 1800 ทำได้ตั้งแต่สมัย FD FB ก่อนหน้าแล้วล่ะครับครับเติมโซฮอล 95 วิ่งทางไกลสัก 90-100(ไม่ถึงกับช้ากีดขวางกระแสรถ แต่ก็ไม่เสี่ยงกล้องจับความเร็ว) 15-16โลลิตรสบายๆ(มีเวบนึงทดสอบวิ่ง 110นิ่งๆได้ 15โลลิตรเศษ) ถังนึงวิ่งจนไฟแดงขึ้นก็เติมกลับได้ 50ลิตร(specถัง 57ลิตรแต่ไฟมันจะแดงก่อน เผื่อสำรอง) ก็ 700++ โลแล้วล่ะ ถ้าเติม e85 ก็หายไปราวๆร้อยกิโล (ขับแบบเดียวกันได้แถวๆ 13-14 โลลิตร) สิ่งสำคัญคือขับทางไกลนิ่งๆนี่แหละ ถ้าวิ่งในเมืองก็เปลืองตามสภาพรถติด
ส่วนตัว 1.5 turbo ก็เปลืองตามความแรงล่ะมั๊งครับ ไม่แน่ใจ spec ปริมาตรถังน้ำมันลดลงด้วยหรือเปล่า
FC 1.5 ประหยัดกว่า 1.8 พอตัวเลยครับ
วิ่ง cruising เนี่ยมัน light load ตัว turbo ยังไม่ทันได้บูสเลย มันก็กินน้ำมันเท่าเครื่อง 1.5 นั่นแหละครับ
อันนี้ยังไม่เคยขับตัว 1.5turbo เอง เลยไม่กล้ายืนยันน่ะครับ
แต่ R18A ใน civic FD FB FC อันนี้ทำได้พอๆกัน วิ่งทางไกลประหยัดจนรถเล็กคันอื่นอายจริงๆ
อีซูสุ ถังน้ำมัน 80 กว่าลิตรนะครับ วิ่งเปลืองๆ 10 โลลิตรยังได้ 800 โล
ขออภัย "ทำสถิติ" ครับ ไม่ใช่ทำลายสถิติ
ชื่อรถนี่ Nerd มากฮะ
nerd จนต้องฆ่าด้วยปืนอวกาศ