เจ้าหน้าที่ของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยผลการสืบสวนภายในโดยระบุอ้างว่ารัฐบาลจีนได้ทำการแฮคระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทเอกชนที่เป็นคู่สัญญากับกองทัพเรือสหรัฐฯ และได้ขโมยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับระบบอาวุธของเรือดำน้ำไป 2 ครั้ง
เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ระบุว่าการแฮคขโมยข้อมูลดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ยังไม่มีการเปิดเผยว่าบริษัทเอกชนคู่สัญญาของกองทัพเรือซึ่งเป็นผู้โดนแฮคระบบคอมพิวเตอร์ล้วงข้อมูลนั้นคือบริษัทไหน
ข้อมูลที่ถูกขโมยไปได้นั้นมีขนาด 614 GB โดยเป็นข้อมูลเกี่ยวกับโครงการพัฒนาอาวุธติดเรือดำน้ำที่มีชื่อโครงการว่า "Sea Dragon" โดยในข้อมูลเหล่านั้นมีทั้งเรื่องเกี่ยวกับระบบอาณัติสัญญาณ, ข้อมูลเซ็นเซอร์, รายละเอียดห้องวิทยุสื่อสารของเรือดำน้ำ รวมทั้งระบบการเข้ารหัสข้อมูลสำหรับการสื่อสาร ตลอดจนไลบรารีสำหรับระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมการรบของเรือดำน้ำ
ข้อมูลที่ว่ามานี้แน่นอนว่าจะต้องถูกจัดให้เป็นข้อมูลปกปิดเป็นการลับ ทว่าในระหว่างการจัดเก็บอยู่บนเครือข่ายของบริษัทเอกชนผู้พัฒนาระบบอาวุธ มันกลับไม่ได้รับการจัดหมวดหมู่ตามระดับความสำคัญของสถานะการปกปิดข้อมูล เรื่องนี้สร้างความกังวลเรื่องมาตรการที่กองทัพเรือใช้ควบคุมบริษัทเอกชนในเรื่องการรักษาข้อมูลในระหว่างการทำงานให้กับกองทัพ
เจ้าหน้าที่สืบสวนยังระบุว่าการแฮคข้อมูล 2 ครั้งนี้เป็นฝีมือของหน่วยงานกระทรวงความมั่นคงของจีน ซึ่งรับผิดชอบงานปฏิบัติการด้านการข่าวทางลับทั้งในและนอกประเทศของจีน
ในขณะนี้เจ้าหน้าที่ FBI ได้เข้ามาช่วยกองทัพเรือของสหรัฐฯ ทำการสืบสวนเหตุการณ์แฮคอีกแรงหนึ่ง และถึงแม้จะรายละเอียดอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนที่บางสำนักข่าวได้รับไปเพิ่มเติมแล้วนั้น ทางสำนักข่าวก็ถูกสขอให้ระงับการเผยแพร่รายละเอียดข่าวเหล่านั้นไว้ เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อการทำงานและแผนการพัฒนาโครงการต่อไป
ที่มา - South China Morning Post
Comments
ทำไมไม่รายงานด้วยว่าอเมริกาแฮ๊คของประเทศอื่นด้วย
เวลาไปขโมยของคนอื่นจะเดินไปบอกเจ้าของบ้านไหมล่ะครับว่าเป็นคนขโมยเอง
Edit: ตอบผิด
งานปา... นี่ของถนัดอเมริกาซะแล้ว คราวนี้หวยจะออกที่บริษัทอะไรหนอ
หนที่แล้วก็บอก เรือนำน้ำรัสเซียไปป้วนเปี้ยนแถวสายเคเบิ้ลใต้น้ำ
ใน BBC ก็เล่นข่าว อาวุทเสียงที่ไร้เสียงโจมตีสถานทูต รีรันข่าวทุกเดือนติดต่อกันมาซักระยะแล้ว
จะบอกว่า อังกฤษเองก็ร่วมวงเล่นข่าวนี้กับสหรัฐเหรอครับ
จะว่าใครปาหี่ก็ควรจะมีหลักฐานนะครับว่าเขาปาหี่อย่างไร ไม่ใช่มีอคติต่อประเทศนั้นแล้วพูดไป เพราะสงครามเย็นระหว่างาสหรัฐฯ จีน และรัสเซียมันมีมานานแล้ว และตอบโต้ไปมากันตลอด สงครามไซเบอร์ทำกันมาตลอดดูจาก norse ก็รู้ครับ สามประเทศนี้ยิงทราฟฟิกกันกระจุยกระจาย จีนก็บล็อกสหรัฐไปเยอะมาก แบนแม้แต่วินนี่เดอะพู ประสาทกว่าเยอะครับ
ผมเซนเซอร์คำเกรงไม่สุภาพ จะบอกว่า ปาอุจจิ ครับ
https://www.bbc.com/thai/international-44234695
https://www.blognone.com/node/74081
จะว่าไปผมก็คงจะอคติกับข่าวพวกนี้ก็ได้ พอได้ยินข่าวประเภทนี้ึความคิดที่ผุดขึ้นมาเป็นอันดับแรกคือ "ระดับอเมริกาเหนี่ยนะโดน"
ทุกอย่างทำให้แท้ได้หมดครับ
ตอนบุกอิรักยังสร้างหลักฐานเท็จได้เลย ทุกวันนี้ไหนละอาวุธที่อ้างว่าเขามี อเมริกาทำแบบนี้ปล่อย ไม่แปลกหรอกจะมีคนบอกว่าสร้างหลักฐานเท็จเก่ง
ของพวกนี้มันขโมยกันไปกันมาอยู่แล้วนี่ จัดตั้งเป็นองกรณ์เปิดเผยเพื่อการนี้โดยตรงเลยไม่ใช่หรือไง
มันน่าอายมากกว่าที่เอามาโพทนาว่าโดนขโมยข้อมูล เสียเงินไปหลายพันล้าน ไม่มีปัญญาป้องกันได้ไง
นี่ขนาดบล๊อคหัวเหว่ยกับ ZTE ไปแล้วนะ
ก็คงจะเป็นเรื่องพวกนี้แหละครับ ที่เป็นเหตุผลหลักๆ สามารถเอามาอ้างในการแบนได้
อเมริกาเก่งที่สุดครับเรื่องนี้ ส่วนจีนเก่งด้านการก่อสร้าง
ได้ข่าวว่าขึ้นภาษีเหล็ก อลุมิเนียม รถยนต์ กับแคนาดา + กลุ่มประเทศอียู ด้วยนะครับ
คุยกับประธานคิมที่สิงคโปร์ ก็เล่นตัว นุ้งทรั๊มนี่ไม่ไหวจริงๆ
จีนบอกว่า แน่จริงก็ปีองกันสิ 555
ผมว่าเป็นความสะเพราะของฝั่ง US มากกว่า ที่สามารถให้จีนเข้าถึงข้อมูลสำคัญแบบนี้ ยิ่งเปิดเผยแบบนี้ ไม่เฉพาะจีนที่เสียเครดิต แต่ตัวสหรัฐฯ เองก็ด้วย
แล้วตอนนี้ยังเป็นแค่ข้อกล่าวหาที่ถูกประกาศด้วย จะกลายเป็นข้อกังขากับเป็นเหตุทะเลาะกันที่เอาคนอื่นมาเดือดร้อนด้วย ถ้าพิสูจน์ไม่ได้หรือพบสาเหตุเป็นอย่างอื่น เสียหน้านะครับ (แต่เพราะว่าเป็น USA เรื่องเสียหน้าจึงเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก เนื่องจากไม่มีใครกล้าหือหรือหาเรื่อง ยกเว้นรัสเซียกับจีนที่กล้าทำ ยังกุมอำนาจโลกส่วนใหญ่ได้อยู่ สักพักก็เรื่องเงียบหายไปเอง กลับมาเป็นปกติ ต่างคนต่างอยู่)
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เอาหลักฐานมาแสดงดีกว่านะUSA..ไม่อยากได้ยินบ่อย..เหมือนทำร้ายคนอื่น เพื่อประโยชน์ตน
แล้วยังไงต่อล่ะ us ฟ้องครูอังคณาเลยมั้ย?
เซ็นเซอร์ล ?