มีดราม่าข้อมูลส่วนตัว Facebook ระลอกใหม่โดย New York Times รายงานว่าในอดีต Facebook เปิดโอกาสให้ผู้ลิตอุปกรณ์อย่างน้อย 60 ราย เข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ Facebook ทั้งข้อมูลเพื่อน รูปภาพ สถานะความสัมพันธ์ต่างๆ และยังเข้าถึงข้อมูลเพื่อนของเพื่อนได้ด้วย คำนวณออกมาแล้วมีถึงหลักแสนราย
ที่สำคัญคือมีนักข่าวไปเจอว่าตอนนี้ก็ยังคงเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวได้ผ่านแอพพลิเคชั่นของ Blackberry ส่งผลให้เกิดความสงสัยอีกครั้ง เพราะสถานการณ์ Facebook และ Cambridge Analytica เพิ่งจะผ่านพ้นไปได้ไม่นาน
เริ่มจากเรื่องที่ New York Times รายงานก่อน ข่าวระบุว่าในช่วงสิบปีที่ผ่านมา Facebook ทำข้อตกลงแชร์ข้อมูลผู้ใช้ไปยังผู้ผลิตอุปกรณ์อย่างน้อย 60 ราย ไม่ว่าจะเป็น Apple, Amazon, BlackBerry, Microsoft, Samsung เป็นต้น เพื่อให้ Facebook มีคนใช้เยอะขึ้น (สมัยนั้นคนยังใช้ Facebook น้อย) โดย Facebook เปิดให้ผู้ผลิตอุปกรณ์เข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งาน เพื่อแลกกับการที่ให้ผู้ผลิตทำฟีเจอร์บางอย่างของ Facebook ลงมือถือ โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องลงแอพพลิเคชั่น Facebook เอง
New York Times สัมภาษณ์พนักงานใน Facebook หลายคนระบุว่า บรรดาพาร์ทเนอร์ถูกควบคุมโดยสัญญาการใช้ข้อมูลอย่างเคร่งครัด รวมถึงการจัดเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ของคู่ค้าด้วย และไม่ได้รับรายงานว่ามีพาร์ทเนอร์รายใดนำข้อมูลไปใช้อย่างผิดๆ
ภาพจาก Shutterstock โดย michelmond
Michael LaForgia นักข่าว New York Times ทดลองใช้อุปกรณ์ BlackBerry Z10 ล็อกอินเข้า Facebook พบว่า แอพพลิเคชั่น BlackBerry Hub สามารถแสดงข้อมูลเพื่อนๆ 556 คน และยังมีสถานะความสัมพันธ์ อีเวนท์ที่มีแผนจะเข้าร่วม ซึ่งจากเหตุการณ์ Cambridge Analytica นั้น Facebook ระบุชัดว่าหยุดแชร์ข้อมูลผู้ใช้ไปยังแอพภายนอก แต่ทำไมแอพ BlackBerry Hub ถึงยังมีข้อมูลนี้อยู่ และข้อมูลเหล่านี้ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้หรือไม่
และแม้จะยังไม่พบการนำข้อมูลไปใช้ผิดๆ เหมือนที่ Cambridge Analytica ทำ แต่ถ้าผู้ผลิตอุปกรณ์จะทำ ก็ถือว่าทำได้ เพราะมีข้อมูลในมือ นำมาสู่คำถามที่ว่า Facebook ไม่ได้ปิดการเข้าถึง API อย่างที่บอกไว้งั้นหรือ?
Facebook เผยแพร่บล็อกโต้ข่าวดังกล่าว (ผู้เขียนบล็อกคือ Ime Archibong รองประธาน Facebook) บอกว่าในอดีตที่ยังไม่สามารถดาวน์โหลดแอพไปใช้งานได้สะดวกเท่าตอนนี้ ทั้ง Facebook, Google, Twitter, YouTube ก็ทำงานร่วมกับผู้ผลิตระบบปฏิบัติการและอุปกรณ์เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของตนได้ไปอยู่ในมือของผู้คน
แต่วิธีดังกล่าวใช้เวลามาก Facebook จึงลดช่องว่างด้วยการทำ API ที่อนุญาตให้บริษัทต่างๆ สร้างประสบการณ์ใช้งาน Facebook สำหรับอุปกรณ์ของแต่ละราย ซึ่งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมามีบริษัทประมาณ 60 บริษัทที่เข้ามาใช้ เช่น Amazon, Apple, Blackberry, HTC, Microsoft และ Samsung
บรรดาพาร์ทเนอร์เหล่านี้ลงนามข้อตกลงเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลผู้ใช้ Facebook ถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากการสร้างประสบการณ์ใหม่ของ Facebook และไม่สามารถทำได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ใช้ จุดนี้เองที่แตกต่างจากกรณี Cambridge Analytica ที่สาเหตุมาจากการใช้ API แบบเปิดอย่างผิดๆ
อย่างไรก็ตามเมื่อแอพ Facebook สามารถดาวน์โหลดได้ผ่าน iOS และ Android ก็ไม่ค่อยมีใครต้องอาศัย API ดังกล่าว Facebook จึงปิดการเข้าถึง API แก่ผู้ผลิตอุปกรณ์ไปแล้ว 22 ราย
สถานการณ์ยังคลุมเครือและมีข้อสงสัยหลายอย่าง เช่น
ที่มา - New York Times, Facebook Newsroom, AP
Comments
ในอดีตที่ยังดาวน์โหลดแอพไปใช้งานได้สะดวกเท่าตอนนี้
->ในอดีตที่ยังไม่สามารถ...... หรือเปล่าครับ
ขอบคุณค่ะ
ผู้ลิตอุปกรณ์ -> ผู้ผลิตอุปกรณ์
Mekokung's Story บล็อกส่วนตัวที่ย้ายไป Blogger แล้วนะ
ช่วงเวลาแห่งการขุด เว็บทุกเว็บตอนนี้ต้องเจอข้อความขอใช้คุ้กกี้กันหมด -_-
จริงๆมันก็คือการเปิดให้ทำ 3rd party client สินะ สมัยก่อนที่แอพยังไม่ได้ลงทุก platform ก็ต้องทำงี้
การ เปิด api ให้ แอพภายนอก เข้าถึง ข้อมูล ผุ้ใช้ แล้วผิด มากแบบนี้ ควรจปิด ไปเลย
สมัยนี้จะตามไปตีใคร หาข้อมูลในเฟสก็ตามไปตีได้สบาย
เพราะแต่ละคนใส่ข้อมูลส่วนตัวตั้งแต่เกิดยันแก่
ประเด็นคือ Facebook ส่งต่อข้อมูลให้ผู้อื่นโดยไม่บอกผู้ใช้แบบนี้ ผิดกฎหมาย GDPR หรือไม่?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)