โรงพยาบาลในประเทศฝรั่งเศสเริ่มทดลองให้ผู้ป่วยในห้องฉุกเฉินสวมใส่แว่น VR เพื่อให้ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดแทนการใช้ยา โดยการใช้งานระบบ VR จะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของผู้ป่วยออกจากอาการบาดเจ็บทำให้รู้สึกเจ็บน้อยลง
ผู้ป่วยจะได้รับชมภาพวิวทิวทัศน์ในบรรยากาศผ่อนคลาย และถูกพาท่องไปในโลก VR เพื่อให้รู้สึกเพลิดเพลินจนลืมเจ็บ โดยสิ่งที่ผู้ใช้สามารถทำได้ภายในโลก VR นั้นจะไม่จำกัดเพียงแค่การมองภาพวิวบรรยากาศโดยรอบ แต่จะมีระบบที่โต้ตอบกับผู้ใช้ ให้ผู้ใช้เล่นเกมปริศนา, เล่นดนตรี หรือวาดรูปได้ด้วย
ว่าด้วยเรื่องของแนวคิดการเบี่ยงเบนความสนใจทำให้ผู้ป่วยเพลิดเพลินจนลืมเจ็บนี้ เป็นหลักการที่เรียกว่า Gate Control Theory ซึ่งมีงานวิจัยที่นำเอาระบบ VR มาทดลองใช้ประโยชน์ตามหลักการนี้รองรับหลายงาน เช่นงานวิจัยจากประเทศสเปนในปี 2012 ซึ่งทดลองใช้ระบบ VR กับผู้สูงอายุให้ผลบวกต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิต, งานวิจัยจากญี่ปุ่นในปี 2016 ซึ่งพบว่าการใช้ระบบ VR ช่วยให้ผู้ป่วยที่มีอาการปวดเรื้อรังรู้สึกทุเลาอาการปวดลงได้ รวมทั้งงานวิจัยจากสหรัฐอเมริกาที่เผยแพร่เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งใช้ระบบ VR กับผู้ป่วยที่เข้ารับการบำบัดแผลไฟไหม้ โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ระบุว่ารู้สึกถึงอาการปวดน้อยลงเมื่อได้ใส่แว่น VR
สำหรับระบบแว่น VR ที่ถูกนำมาทดลองใช้กับผู้ป่วยห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาลฝรั่งเศสนี้ ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยสตาร์ทอัพที่มีชื่อว่า "Healthy Mind VR" ซึ่งหัวหน้าแผนกห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล Saint-Joseph ในปารีสก็ยืนยันผลการทดลองใช้งานระบบ VR ว่าช่วยให้ผู้ป่วยรับมือกับความเจ็บปวดและคลายความกังวลลงอย่างเห็นได้ชัดในระหว่างที่รับการรักษาอยู่ในห้องฉุกเฉิน
ทั้งนี้ทีมผู้ก่อตั้ง Healthy Mind VR เตรียมการจะนำผลการทดลองใช้งานระบบ VR เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดนี้ไปนำเสนอต่อ Microsoft ที่สำนักงานใหญ่ใน Seattle ประเทศสหรัฐอเมริกาเร็วๆ นี้
ที่มา - Interesting Engineering, CNBC
Comments
แล้วก็เข้าพรฮับเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือดด้วย
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
สมอง และอารมณ์ของคนเราถ้าได้รับการกระตุ้นอย่างถูกต้อง มันก็ช่วยบรรเทาอาการหลายๆ อย่างได้ อย่างน้อยก็ให้ผู้ป่วยมีกำลังใจ สู้กับโรคร้ายได้ ส่วนตัวมองว่าเทคโนโลยี VR น่าจะช่วยด้านนี้ได้เยอะ ที่น่าสนใจคือผู้ป่วยซึมเศร้า ถ้ามี Content ที่ช่วยให้เขาลืมเรื่องร้ายๆ กลับมาสู่โลกความเป็นจริงได้ หรือเข้าถึงจิตแพทย์ได้ โดยไม่ต้องเดินทางผ่านเทคโนโลยี VR + AI ก็น่าสนใจดี เช่น เป็น Avatar แบบ 3D ให้คำปรึกษาด้านจิตวิทยา โดยใช้คลังข้อมูลการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาตอบคำถามหรือให้คำแนะนำที่ถูกต้องมากกว่าปล่อยให้พวกเขาคิดไปเอง หรือหาข้อมูลเอง เราคงลดการสูญเสียบุคลากรที่มีคุณค่าหลายๆ คน ที่อยู่ในวงการที่มีความกดดันสูง มีความเสี่ยงกับโรคซึมเศร้า
inspire by sword art online แน่เลย
ถ้ามี SAO ผมยอมนอนเป็นผักอยู่บ้านก็ได้ 5555
เป็นความใฝ่ฝันเลยว่าแก่ไปจะได้นอนเป็นผักเล่น SAO อยู่บ้าน
ถ้าแก่แล้ว คงเปลี่ยนจากบ้าน เป็นโรงพยาบาลแทนครับ 555
ฝันจะเป็นคิริโตะ แต่ด้วยความที่เป็นผักอยู่รพ. เลยเทพเป็นยูกิแทน
สมัยก่อนคงแค่ตกแต่งห้อง wallpaper กรอบรูป จอทีวี สมัยนี้เอาไปติดตาคนใช้งานเลย