เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Visa ประสบปัญหาล่มบางส่วนทั่วยุโรป ทำให้การจ่ายเงินสำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง ตอนนี้ทาง Visa ก็ได้ส่งจดหมายชี้แจงสาเหตุให้สภาผู้แทนแห่งสหราชอาณาจักรทราบสาเหตุ
Visa ชี้แจงว่าระบบสำรองมีหลายชั้น ทั้งอุปกรณ์สำรองในแต่ละศูนย์ข้อมูล และศูนย์ข้อมูลสำรองที่ความสามารถเพียงพอที่จะประมวลผลทั้งหมดเหมือนระบบหลัก โดยในกรณีนี้ปัญหาเกิดที่คอร์สวิตช์ที่มีสองตัวในแต่ละศูนย์ข้อมูล
ปรากฎว่าเมื่อเวลาเกิดเหตุ คอร์สวิตช์หลักเริ่มล้มเหลว แต่กลับไม่ทำงานเพียงบางส่วน ทำให้สวิตช์สำรองไม่สามารถขึ้นมาจัดการข้อมูลแทนที่ได้ เมื่อเน็ตเวิร์คเริ่มมีปัญหา แต่ระบบในศูนย์ข้อมูลหลักก็ยังคงพยายามซิงก์ข้อมูลไปยังศูนย์ข้อมูลสำรองต่อไปแต่กลับทำได้ช้า ดึงให้ทั้งระบบทำงานช้าลงเรื่อยๆ
ทาง Visa ต้องตัดสินใจปิดระบบที่ศูนย์ข้อมูลหลัก จากนั้นเคลียร์ข้อมูลที่ซิงก์ไม่สำเร็จด้วยระบบอัตโนมัติและด้วยมือบางส่วน รวมเวลาเกือบ 5 ชั่วโมงหลังระบบเริ่มมีปัญหาจึงโอนงานทั้งหมดไปยังศูนย์ข้อมูลสำรองเสร็จสิ้น และค่อยเคลียร์งานจนกลับมาเป็นปกติในอีกชั่วโมงต่อมา
Visa ยอมรับว่าระยะเวลาที่ระบบมีปัญหากว่า 6 ชั่วโมงนั้นเป็นเรื่องที่รับไม่ได้อย่างชัดเจน (clearly unacceptable) อย่างไรก็ดีทางบริษัทชี้แจงว่าตลอดช่วงเวลาดังกล่าว รายการจ่าย 91% สามารถจ่ายได้ตามปกติ มีปัญหาประมาณ 9% รวมผู้ที่พยายามจ่ายซ้ำ โดยช่วงที่มีปัญหาหนักๆ แบ่งเป็นสองช่วง คือช่วงแรก 10 นาที และช่วงที่สอง 50 นาที นอกจากนี้ยังชี้แจงข้อมูลผลกระทบต่อผู้ใช้ในสหราชอาณาจักรอย่างละเอียด โดยช่วงเวลาที่มีปัญหา บัตร 1.7 ล้านใบได้รับผลกระทบ หากลบจำนวนรายการที่จ่ายครั้งที่สองแล้วสำเร็จจะเหลือ 1.1 ล้านใบ รวมเป็น 2.4 ล้านรายการ จากรายการทั้งหมดในช่วงเวลาที่มีปัญหา 27.6 ล้านรายการ
ตอนนี้สวิตช์ที่เสียหายกำลังอยู่ระหว่างการหาสาเหตุร่วมกับผู้ผลิต และในแง่การชดเชย Visa กำลังทำงานร่วมกับธนาคาร คืนเงินที่เกิดปัญหาการจ่าย พร้อมกับคืนค่าธรรมเนียมให้ร้านค้าที่สั่งจ่ายไม่สำเร็จ
จดหมายชี้แจงยาว 11 หน้าระบุรายละเอียดมากพอสมควร อ่านแล้วอดเทียบกับจดหมายชี้แจงตอน PromptPay ล่มไม่ได้
ที่มา - The Register
Comments
อ่อนมาก สู้วากันด้าไม่ได้เลย ล่มเป็นวัน ไม่แจ้งอะไรทั้งนั้น แก้ไขเสร็จแล้วก็ไม่บอกว่าปัญหาจริง ๆ คืออะไร มีแนวทางการแก้ปัญหายังไง ไม่ยอมรับด้วยว่าแก้ช้าแบบรับไม่ได้ ไม่มีตัวเลขความเสียหายอะไรออกมาด้วย ไปดูงานที่วากันด้านะครับว่าทำยังไงถึงทำแบบนี้ได้
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
มีบอกยี่ห้อสวิตช์ด้วยมั้ย
อ่านดูแล้วน่าจะจงใจไม่บอกครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ส่วนใหญ่ลูกค้า น่าจะมี MasterCard อยู่ในมือนะ
ยกเว้นพวกตัดบัตรอัตโนมัติ
+1
ผมว่าคนที่มีกำลังทรัพย์ที่จะใช้จ่ายขนาดใช้เดบิต/เครดิต ยิ่งอยู่เมืองนอกเนี่ยสามารถจ่ายเพื่อมีบัตรที่มากกว่า VISA ใบเดียวอยู่แล้ว เพื่อแลกกับเสถียรภาพทางการใช้จ่ายในเมืองนอก ไปด้วยใบเดียวนี่เสี่ยงมากๆ ผมมีมันทั้ง VISA , Mastercard และ Union Pay เลย
ได้ข่าวว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่คนซื้อครับเพราะมีบัตรหลายใบ
แต่ความซวยดันไปตกที่คนขายที่บางเครื่องผูกกับระบ master card แล้วมันรวนจนรูดไม่ได้ทำให้รับบัตรไม่ได้เลย...
ของเขามาตรฐานสูงครับ ทำพลาดไม่ว่าจะเพราะเครื่องจักรหรือมนุษย์ ก็รายงานออกมาให้ละเอียด กรณีของVisaนี่จัดถึงเป็นยักษ์ก็ยังพลาด โดนเข็มตำเท้าให้เจ็บตัวได้
คงเอาเทียบกับพร้อมเพย์บ้านเราไม่ได้แน่นอน ทำเหมือนผักชีโรยหน้าไม่พอ ยังปัดความรับผิดชอบ แทนที่จะยืดอกรับผิดเท่ๆแมนๆ ที่นอกจากจะดูดีแล้วยังดูน่าเคารพไว้วางใจด้วย
ล่มแต่ไม่ยอมตาย...
โหดร้ายกับชีวิต (คนแก้ปัญหา) พอดูเลยล่ะครับ มันเหมือนมีความหวัง แต่มันก็เหมือนหมดหวังเช่นกัน
Jusci - Google Plus - Twitter
เจอแบบนี้รื้อหาปัญหากันเหงือแตกอ่ะ
"ตายๆไปซะยังจะดีกว่า"