เว็บไซต์ The Economist เผยแพร่บทความโดยอ้างคำพูดจาก Ted Sarandos หัวหน้าด้านเนื้อหาของ Netflix ระบุว่าในปี 2018 ตัวเลขการลงทุนด้านเนื้อหาของ Netflix สูงถึง 12-13 พันล้านดอลลาร์ จากที่ปีที่แล้ว Netflix ประกาศลงทุน 8 พันล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นก้าวสำคัญของ Netflix ในการเป็นผู้ผลิตหนังและซีรีส์รายสำคัญที่สุดในโลก
จำนวนเงิน 12-13 พันล้านดอลลาร์ ถือว่ามากกว่าที่สตูดิโอหนังต้องจ่ายในการทุ่มทุนสร้างหนังเสียอีก และจนถึงตอนนี้ผู้ใช้งาน Netflix จะมีเนื้อหาให้ดู 82 เรื่องในปีนี้ และกำลังอยู่ในระหว่างจัดหาบรรดารายการโทรทัศน์ที่จะได้รับอนุญาตให้ฉายบน Netflix ถึง 700 เรื่อง รวมทั้งซีรีส์ หนัง สารคดี 100 เรื่อง
ภาพจาก Shutterstock โดย Ken Wolter
Netflix ยังได้ผู้กำกับ ผู้ผลิตมือดีมาร่วมงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Spike Lee ผู้กำกับ Do the Right Thing, Ryan Murphy ผู้สร้าง "Glee" และ "American Horror Story, Shonda Rhimes ผู้สร้าง "Grey's Anatomy" และ "How To Get Away with Murder" และยังได้ David Letterman มาทำทอล์คโชว์ กับดีลคู่สามี-ภรรยา Obama ในการทำออริจินัลโชว์ด้วย
The Economist ยังระบุด้วยว่า คนที่จะสามารถสู้กับ Netflix ในขณะนี้ได้คือ Amazon เนื่องจากบริการสตรีมมิ่งของ Amazon ก็สามารถรับชมได้ทุกที่ ทุกอุปกรณ์ Amazon เองก็ลงทุนไม่น้อยเลย คือลงทุน 4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2018 และยังมีซีรีส์ที่คนทั่วโลกคาดหวังไว้มากคือ Lord of the Rings อย่างไรก็ตาม จะสู้ Netflix ได้มากแค่ไหนต้องติดตาม เพราะสตรีมมิ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจของ Amazon แต่มันคือทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับ Netflix
ที่มา - The Economist
Comments
คู่รัก น่าจะเป็น คู่สามีภรรยาหรือเปล่าครับ
Netflix ระบุว่าในปี 2018
ผู้ใช้งาน Netflix
ในขณะนี้ได้คือ
ที่จะอัดกับ Netflix คือ Disny ไม่ไช่เหรอ ...
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
จะดูตอนไหนก็ได้ แถมดูผ่าน TV จอใหญ่ๆ ด้วยแล้ว ... จุดจบของโรงภาพยนต์แน่ๆ
ยิ่งคนซื้อของออนไลน์สะดวกเท่าใดห้างก็ยิ่งไม่มีคนเดิน
คหสต.
ปัญหาคือไม่ใช่ภาพยนต์ทุกเรื่อง ทุกค่ายจะลง Netflix นะครับ
แล้วก็ถ้าไม่ชนโรงยังไงโรงภาพยนต์ก็ไม่ตาย บางคนยอมจ่าย 100-200 เพื่อใหได้เร็วกว่า
ปล.คนเดินห้างยังไงก็มีครับ ล่าสุดผมซื้อทีวี
ออนไลน์ทุกเว็บเลย 16000 เดินห้าง 15000 ส่งฟรีเหมือนกัน
กำหนดวันได้ด้วย ออนไลน์นี่กำหนดไมไ่ด้วันไหนวันนั้น
ผมสมัคร Netflix แต่ก็เข้าไปดูหนังในโรงตลอดนะ
คนไปห้าง
เอา ลูก ไปเดิน
เอา หมา แมว ไปเดิน
ห้างไทยถ้าไม่นับ Flag Ship ของ the Mall พวก Paragon Emporium หรือ หลุดไปเลยอย่าง Siam One ยุคหลังมานี่คือ Central ที่มี the Mall ทำศูนย์อาหารกับ Supermarket อยู่ชั้นล่าง แล้วก็ไล่ร้านเช่าที่ออกเกือบทั้งหมด เดินแล้ว ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้าเหมือน ๆ กันทุกห้าง ขนาดไปเดินตากแอร์ไม่ซื้อของยังน่าเบื่อ เดินไม่มันส์เหมือนห้างมาบุญครอง ที่มีร้านเล็ก ๆ แปลก ๆ เยอะ ๆ
ช่วงแรกๆหนัง netflix นี่ดูเกือบทุกเรื่องเลย ช่วงหลังๆเหมือนหนังคุณภาพลดลง กลายเป็นข้ามหนังของ netflix ผลิตแทบจะทุกเรื่อง เห็น logo netflix แปะก็ข้ามแล้ว