เกิดเหตุการขโมยน้ำมันกันแบบแปลกประหลาดในสหรัฐอเมริกา เมื่อหัวจ่ายน้ำมันในปั๊มถูกแฮค ทำให้มีน้ำมันโดนขโมยไป 600 แกลลอน (ประมาณ 2,300 ลิตร) คิดเป็นมูลค่าราว 1,800 ดอลลาร์
การขโมยน้ำมันที่ว่านี้ไม่ใช่เป็นการมาแฮคระบบคอมพิวเตอร์แล้วเอาถังมาขโมยน้ำมันจากหัวจ่ายไปดื้อๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ในช่วงประมาณบ่ายโมงวันที่ 23 มิถุนายน หัวจ่ายน้ำมันของปั๊มน้ำมัน Marathon เกิดอาการผิดปกติ โดยมันสามารถจ่ายน้ำมันออกได้แม้จะไม่ได้รับการชำระเงินจากลูกค้า ทำให้มีรถยนต์อย่างน้อย 10 คัน ขับเข้ามาเติมน้ำมันฟรีจากปั๊ม รวมปริมาณน้ำมันมากถึง 600 แกลลอน
แม้พนักงานประจำปั๊มน้ำมันพยายามจะสั่งตัดการจ่ายน้ำมันโดยอาศัยระบบคอมพิวเตอร์ของปั๊มแต่ก็ไม่เป็นผล เหตุการณ์แจกน้ำมันฟรีเกิดขึ้นเป็นเวลานาน 90 นาที จนกระทั่งพนักงานประจำปั๊มตัดสินใจใช้อุปกรณ์หยุดฉุกเฉินเพื่อทำการตัดระบบน้ำมันและโทรแจ้งตำรวจ
จากการตรวจสอบพบว่ามีอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อการควบคุมจากระยะไกลถูกนำเข้าไปติดตั้งไว้กับหัวจ่ายน้ำมัน แม้กล้องวงจรปิดภายนอกของปั๊มจะมีปัญหาในช่วงเวลาที่ผู้ก่อเหตุลงมือ แต่ยังดีที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งติดตั้งอยู่ในร้านค้าของปั๊มน้ำมันทำให้สามารถระบุได้ว่างานนี้มีผู้ต้องสงสัยจำนวน 2 คน
แม้รายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับเทคนิคที่แฮคเกอร์ใช้เพื่อขโมยน้ำมันจะยังไม่ได้รับการเปิดเผยออกมา แต่เป็นไปได้ว่าการก่อเหตุครั้งนี้อาศัยการช่องโหว่ในระบบซอฟต์แวร์ที่ปั๊มน้ำมันใช้งานเพื่อควบคุมหัวจ่าย โดยในบรรดาซอฟต์แวร์ที่มีการใช้งานในปั๊มน้ำมันหลายเจ้านั้น มีอย่างน้อย 1 รายที่เว็บไซต์ Motherboard เคยลงบทความตีแผ่ว่ามีช่องโหว่ที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถแฮคระบบเพื่อแก้ไขตัวเลขราคาน้ำมันรวมทั้งตัวเลขวัดปริมาตรน้ำมันได้
เหตุการณ์แฮคระบบคอมพิวเตอร์เพื่อขโมยน้ำมันนี้เริ่มเกิดขึ้นถี่ในระยะหลัง เมื่อ 2-3 เดือนก่อนมีชายคนหนึ่งถูกตั้งข้อหาว่าใช้อุปกรณ์แฮคระบบควบคุมหัวจ่ายน้ำมันเพื่อขโมยน้ำมันเป็นมูลค่า 800 ดอลลาร์ ส่วนเมื่อเดือนที่แล้วก็มีคดีของลูกจ้างบริษัท BP ทำการแก้ไขบันทึกในระบบคอมพิวเตอร์เพื่อทำการขโมยน้ำมันเป็นมูลค่ามากกว่า 300,000 ดอลลาร์จากบริษัท
ที่มา - Ubergizmo, Gizmodo, TechSpot
ภาพจาก Wikimedia
Comments
นี่มันโรบินฮู้ดชัดๆ แฮคให้คนอื่นเติมด้วย ถถถ
2300 ลิตร 1800 ดอลล่า
ตกลิตรละ 26 บาท
ก็พอ ๆ กับบ้านเรา ทำไมบ้านเราโวยวายกันจัง
หมั่นใส้ ปตท. ครับ เวลาราคาขึ้นมันขึ้นตีห้าอีกวันเลย เวลาลงเล่นตัวอยู่นาน แถมตัวแพงราคาลงปรกติ ตัวถูกเวลาลงลงจิ๊ดเดียว พูดให้เห็นภาพง่ายๆ เติม 95 วันนี้ ราคาต่างกับ 91 แค่ 30 ส.ต. สิบปีก่อน ต่างกันเหยียบ 3 บาท พอทุกคนเติม 91 มันก็ขึ้นสูง ลงต่ำ ขึ้นสูงลงต่ำ ถ้าขาย 91 แพงกว่า 95 คงทำไปแล้วหล่ะ
คือก็ไม่เข้าใจว่าเกี่ยวอะไรกับ ปตท อยู่ดี?
คือรัฐบาลมีโครงการยกเลิกน้ำมัน 91 โดยการขึ้นราคาให้เท่ากับ 95 ให้คนหนีไปเติม 95 แทน และจะได้ยกเลิกน้ำมัน 91 เพื่อผลักดัน e20, e85 แทน (ผลักดันทำไมไม่รู้ตอนนี้เพราะน้ำมันถูกกว่าเอทิล) ทุกวันนี้ผมก็เติม 95 แทนตลอด คุ้มกว่า
https://www.posttoday.com/economy/528660
ถ้าเครื่องยนต์รองรับ 91 แต่คุณดันไปเติม 95 แล้วคิดว่าคุ้มก็แปลกแล้วล่ะครับ
ในการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ 91 สามารถจุด 95 ได้ครับ แต่จะได้ไฟอ่อนกว่าเพราะการถ่ายทอดพลังงานสูงสุดเกิดขึ้นช่วงที่ลูกสูบเคลื่อนตัวออกจากศูนย์ตายบนไปแล้ว พูดง่ายๆคือแทนที่จะได้ค่าประสิทธิภาพสูงที่สุดจากน้ำมัน 91 คุณดันไปเติม 95 ที่ค่าประสิทธิภาพตกลงมาแทน สมมติให้น้ำมัน 91 และ 95 ราคาเท่ากันแล้วเครื่องยนต์รองรับ 91 คุณเติม 95 สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมาก
ตัวเลขนี้มันเป็นตัวเลขออกเทนซึ่งส่งผลต่อหน่วงเวลาของการเผาไหม้ ไม่ได้บอกถึงว่าคุณภาพอะไรดีกว่าหรือสะอาดกว่าตามที่คนไทยชอบบอกต่อกัน
คู่มือก็มีบอกประมาณว่าเติมน้ำมันให้ถูกชนิดช่วยประเทศชาติประหยัดพลังงาน แต่ไม่ค่อยมีใครอ่านกัน
รวมทั้งเครื่องยนต์ที่ไม่รองรับ E20 แล้วไปเติม E20 เพราะหลงคิดว่าราคาถูกกว่าก็เช่นกัน หารู้ไม่ว่าสิ้นเปลืองกว่าเดิมอีก
รถสมัยนี้ (10-15 ปีมาแล้ว) มี ECU กันหมดแล้วครับ เติมน้ำมันเชื้อเพลิงตัวไหนมันก็ปรับ Timing ให้จุดระเบิดได้จังหวะพอดีหมดครับ
+1 เติมผสมกันมั่ว E20 E85 95 91 มันยังคำนวนค่าจุดระเบิดออกมาได้เลยครับ(แต่อย่าไปทำนะ 555) เว้นแต่รถคุณเป็นรถเก่า เครื่องคาบู อันนั้นต้องเติมตามสเปกจริง ๆ
บ้านผมมี 2 คัน
Wave 125 อายุ14ปี กับ Wave100 11ปี
ทั้งคู่เติมแก๊ส95 ไม่ได้ทั้งสองคันเลยครับ เคยเติมช่วงแรกๆ เพราะคิดว่ามันน่าจะดีกว่า ปรากฏว่าเครื่องติดๆดับๆ อยู่บ่อยๆ พอเปลี่ยนมาเติมแก๊ส91 หายเป็นปลิดทิ้งซะงั้น
เป็นไปได้ว่าไม่มี ECU หรือมีก็เป็นแบบไม่ฉลาดเท่าไหร่ครับ อาจจะไม่มี firmware update ให้ด้วย
เท่าที่เจอมาถ้าเป็นรถยนต์ เวลาเข้าศูนย์แล้วมี firmware update มักจะได้อัปอัตโนมัติเลยนะครับ
ของอย่างนี้เทียบประเทศอื่นกับประเทศไทย มีแต่ตีกันตายครับ เพราะมันขึ้นอยู่กับโครงสร้างราคาน้ำมันขายปลีกของแต่ละประเทศ
ถ้าอยากบอกว่าน้ำมันประเทศไทยแพง ก็เอาไปเทียบกับอเมริกา ซาอุฯ เท่านี้ก็ด่ารัฐได้แล้ว
ถ้าอยากบอกว่าน้ำมันประเทศไทยถูก ก็เอาไปเทียบกับ อังกฤษ ฮ่องกง เท่านี้ก็อวยรัฐได้แล้ว
จะบอกว่าไทยถูกหรือแพง ดูแค่ราคาขายปลีกอย่างเดียวมันไม่สะท้อนความเป็นจริงเท่าไหร่
เปรียบง่ายๆ คือสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ฝั่งยุโรป ที่ไม่ค่อยถูกกว่าบ้านเราเท่าไหร่ และ VAT แถบยุโรป 17-25% (ยกเว้นพวกหนังสือ อาหาร) โดนโครงสร้างนี้ไปแถวนั้นแพงกว่าเราหมด
lewcpe.com, @wasonliw
26บาทของเรา ไม่เท่าเขานะครับ ค่าครองชีพกับเงินมันไม่เท่ากัน
ต้นทุนต่างกันขนาดนั้นเลยหรอครับ
ค่าแรงขั้นต่ำประมาณ 7-8 เหรียญ ต่อชั่วโมงครับ
วันนึง 8 ชั่วโมงก็ประมาณ 60 เหรียญ 2000 บาท(ตีเลขกลมๆแล้วกัน)
เขาน่าจะหมายถึงต้นทุนของน้ำมันหรือเปล่าครับ?
อเมริกาผลิตน้ำมันเองได้แล้วนิ Shale Oil ไง ก่อนหน้านี้ โดนโอเปคทำให้ราคาตกจนต้องหยุดการผลิตกันแต่ตอนนี้ ราคาน้ำมันขึ้นมายืนตรงจุดที่มีกำไรแล้วแล้ว จำนวนแท่นขุดเจาะเลยเพิ่มขึ้นปริมาณน้ำมันดิบก็เลยเพิ่มขึ้น เพราะงั้นเขาผลิตได้เองจนเหลือใช้ขนาดส่งออกได้ ราคามันก็ต้องถูกหล่ะ ยิ่งทรัมสนับสนุนพลังงานฟอสซิลด้วย
แต่น้ำมันเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ต้นทุนแรงงานต่ำมากครับ
เมืองไทยค่าแรงถูกก็ใช้เด็กปั๊มกัน สัดส่วนต้นทุนต่อลิตรนิดเดียว เมืองนอกค่าแรงแพงก็ self service กันหมด ไม่มีค่าแรงคนอยู่ดี
ต้นทุนเกือบทั้งหมดคือตัวน้ำมันเอง (ใกล้ๆ กันตามแต่ภูมิภาค) กับโครงสร้างภาษีและการอุดหนุน สมัยนึงมาเลนี่หนุนไปปีละหลายแสนล้านก็ถูกยาวเลย
lewcpe.com, @wasonliw