Vern Unsworth ให้สัมภาษณ์กับ CNN ระบุถึงเรือดำน้ำจิ๋วของ Elon Musk ว่าไม่มีทางใช้งานได้เลย แม้แต่ 50 เมตรแรกหลังเริ่มดำน้ำก็ไม่น่าจะผ่านไปได้แล้ว เขาระบุว่าตัวเรือดำน้ำจิ๋วยาว 5 ฟุตครึ่ง (ราว 165 เซนติเมตร) วัสดุแข็งตลอด ไม่มีทางผ่านมุมหรืออ้อมสิ่งกีดขวางในถ้ำไปได้ และมันเป็นแค่การประชาสัมพันธ์ (PR stunt)
ประเด็นหนึ่งที่เขาพูดถึงคือตัว Elon Musk ถูกขอให้ออกไปจากถ้ำหลวงหลังจากเข้าไปได้ไม่นาน
ก่อนหน้านี้ Elon Musk ยืนยันว่าเรือดำน้ำจิ๋วของเขาสามารถใช้งานได้ จากการดูวิดีโอการดำน้ำและพูดคุยกับทีมงาน
Unsworth เป็นชาวอังกฤษที่อาศัยอยู่ในเชียงราย ได้สำรวจถ้ำหลวงมานาน 6 ปีแล้ว และเป็นผู้ที่ขอให้ทางการไทยติดต่อหน่วยกู้ภัยถ้ำของอังกฤษ เขายังระบุว่าไม่ใช่ความผิดของเด็กๆ ที่เข้าไปในถ้ำช่วงนั้นเพราะปีนี้น้ำมาเร็วกว่าปีที่แล้ว 3-4 สัปดาห์ และการติดถ้ำครั้งนี้ก็เป็นแค่ความโชคร้าย
ที่มา - CNN
Comments
อ่าว เฮีย...
เริ่มอีกแล้ว ข่าว Discredit คนอื่น น่าเบื่อ อยู่เฉยๆ ไม่เป็นกันหรือไง ชอบหาเรื่องใส่ตัวอีกแล้ว
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
คนทำงานหน้าพื้นที่ เป็นคนเริ่มปฎิบัติการคนแรกๆ ออกมาให้ความเห็น
เป็น "ข่าว discredit"?????
lewcpe.com, @wasonliw
มันเป็นการ Discredit ตรงไหน เขาพูดความจริง รับไม่ได้ตรงไหน????? เขามีประสบการณ์มานาน แล้วMini submarine นี่มันเล็กแคบขนาดนี้เด็กตกใจมาระหว่างภารกิจมันจะอันตรายเอามากๆด้วยนะ มันแข็งจะรีบเอาเด็กออกมาก็ลำบาก
เด็กคงไม่ตกใจหรอกครับ เขาให้ยากับเด็กไว้แล้ว หิ้วเลยออกง่ายๆ
คิดว่าเป็นยาอะไรครับ ยาเป็นสิ่งที่ช่วยลดหรือคลายความวิตกกังวล ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิด
เดานะว่าหมอดมยา ให้ยากล่อมประสาท ก็มึนๆงงๆ เกือบจะหลับแล้วล่ะครับ ปกติผ่าตัดเล็กเขาก็ใช้ยาแบบนี้
ที่บอกว่าเดา เพราะข่าวล่าสุดแม้แต่ผู้ว่าก็ไม่รู้ว่ายาชื่ออะไร ลุงตู่ก็พูดออกมาเองว่าเป็นยาคลายเครียดใช้ตอนยิงปืนซึ่งฟังดูไม่น่าใช่ เพราะยาที่ใช้ยิงปืนมันลดการเต้นหัวใจลง แต่ไม่ได้ทำให้เกือบหลับ
น่าจะยาตัวนี้
http://narcotic.fda.moph.go.th/welcome/?p=2518
ในวีดีโอก็หิ้วเปลออกมา แล้วก็เช็คสภาพกันตอนเอาออกมาที่แห้ง น้ำก็ขุ่นมากแคบด้วย
http://www.dailymail.co.uk/news/article-5943879/Thai-youngsters-given-sedatives-stop-panicking-footage-underwater-mission-released.html
โดยทั่วไปเป็นกลุ่ม BZD (benzodiazepines) ที่นิยมใช้กันบ่อยก็ Valium (Diazepam), Ativan (Lorazepam) ใช้คลายความวิตกกังวล, รักษาโรคซึมเศร้า, ช่วยนอนหลับ… ยกตัวอย่างทางทันตกรรมให้แล้วเด็กจะซึมๆ ไม่กังวล ไม่กลัว
ต้องเข้าใจก่อนว่าความกังวลแบ่งเป็นหลายระดับ เป้าหมายไม่ใช่=0 (ดูเพิ่มเติม depth of sedation) แต่ต้องการให้เด็กนอนนิ่งๆ อย่างน้อยก็ 6 ชั่วโมง ซึ่ง degree ที่ทีมงานต้องการ ใช้แค่ BZD เหมาะสมแล้วครับ
ปล1 แพทย์ไม่อยากทำให้สลบ (GA) เพราะ complication เยอะครับ วุ่นวายและอันตราย ไม่มีความจำเป็นเลย
ปล2 ketamine มักใช้เป็นยานำสลบ (ใช้น้อย) ไม่ก็เป็นยาสลบในกรณีที่รับผลข้างเคียงของ gas ไม่ไหว (ใช้น้อย ใช้เพราะ ketamine side effect ตรงข้ามกัน)
ข่าวออกมาสรุปว่าเป็น ketamine จริงครับ
ใช่ครับ อยู่เฉยๆ เถอะครับ...
คุณน่ะ
ผมว่าพอดีกว่านะ มองว่าทั้งคู่เนี่ยสละเวลามาช่วย ทั้งที่ไม่ใช่ธุระอะไรของเขาเลย (ผมมองว่าเราควรมีมาตรการและพึ่งพาช่วยเหลือได้เองโดยไม่ต้องให้ต่างชาติมาช่วยเลยด้วยซ้ำ เพราะผมก็เริ่มได้ยินข่าวเสียในภายหลังมาว่าเราที่ช่วยเหลือทำอะไรเองไมได้ ้ต้องให้ต่างชาติมาช่วยตลอด) และเป็นเรื่องที่ดีด้วย
คนนึงเป็นผู้มีประสบการณ์อยู่ในพื้นที่มาหลายปี อึกคนก็เป็นเจ้าของธุรกิจ เขาใจว่าทำเพื่อเอาหน้าหรือโปรโมตตัวเองกลบข่าวลบ แต่สิ่งที่เขาทำก็มีการลงทุน ทั้งเสียสละแรงงานคนและสมองมาช่วย ผลิตยานช่วยเหลือส่งมาที่ไทย แถมยกให้กองทัพฟรีด้วย ผมว่าก็เป็นน้ำใจและได้ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมด้วย
แต่ผมไม่เห็นด้วยที่ไปกล่าวโจมตีคนอื่นในลักษณะแบบนี้ออกสื่อ โดยเฉพาะผู้เชี่ยวชาญด้วยต้องระวังการให้สัมภาษณ์ที่กล่าวถึงคนอื่นอีก ยิ่งช่วงนี้สื่อเล่นกับ Elon แรงด้วย (ผมเข้าใจว่าเล่นตามกระแสและข่าวลือด้านลบที่ออกมาในช่วงนี้ แต่ควรที่จะให้ทำการสอบสวน ตรวจสอบข่าวลือ แล้วเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการอีกทีก็ไม่สาย)
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ผมว่าเป็น Fact กลายๆ จากคนที่ทำงานในพื้นที่และท่าทีท่าทางก็น่าจะเป็นเช่นนั้นอยู่ในทีนะครับ ปกติแล้วการ support ด้วยของที่ไม่ practical เท่าที่ควร มันจะทำให้การทำงานโดยรวมช้าอยู่มากแล้ว (ie; เกะกะ) (คือต้องเตรียมการ ต้องรับรอง ต้องประสานงาน ต้องสารพัด)
ที่สำคัญ ประเด็นจะไม่แรงขนาดนี้ถ้าก่อนหน้านั้น ไม่มี twitter reply ที่กระทบคนทำงานโดยตรง (รวมไปถึงหัวหน้าชุดปฏิบัติการ อย่างผู้ว่าด้วย) ... ในเมื่อ Elon เปิดประเด็นมาแรงขนาดนั้นเอง (ถึงจะบอกว่า BBC ชงไปแรง) มันก็ไม่แปลกที่คนในนั้นจะแรงตอบ
แต่อีกมุม Elon ก็จับพลัดจับผลูซวยนั่นแหล่ะ คือมีคนไปถาม จะทำเงียบก็ไม่ได้ ... อย่างไรก็ตามส่วนตัวคิดว่า สิง่ที่ประดิษฐ์ออกมาดูมีแนวโน้มจะมีประโยชน์ในสักงานอยู่ดี
แต่ว่าถ้าจะให้ฟันธงฉับๆว่า PR Stunt ไหม ผมคิดว่าก้ำกึ่งนะ เจ้าตัวก็ไม่จำเป็นต้องโผล่มาก็ได้ แต่ก็โผล่มา
--- reply ที่ตอบนี้ไม่ได้แสดงความเห็นว่าสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนใดๆกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แค่ดูท่าทีเฉยๆ
ถ้าจะลำดับเหตุการณ์เฉพาะ Elon
1) BBC เปิดประเด็นว่า "ผู้ว่าฯ บอกว่าเรือดำน้ำ Elon ใช้ไม่ได้จริง"
2) Elon อัดกลับว่า "ผู้ว่าฯไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ"
3) CNN เลยไปถาม Unsworth ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ
แล้วก็ได้คำตอบอย่างที่เห็นซึ่งมันเป็น fact จริงๆที่แท่งตันของ Elon มันใช้กับงานนี้ไม่ได้จริงๆ
ก็เข้าใจว่าแกออกแบบตอนที่ข่าวยังเป็น
เด็กว่ายน้ำไม่เป็น ต้องดำน้ำยาวเป็นกิโล และอาจต้องติดอยู่ในนั้น 3 เดือน
ภาพผังถ้ำในข่าวก็ชวนนึกว่า แคบแบบตรงๆ
แต่หน้างานจริง เด็กว่ายได้ ถ้ำมีดำน้ำสลับเดิน มีช่วงแคบ+หักศอก
จริงๆ Elon เองก็ไม่น่าหัวเสียอะไรขนาดนั้น เพราะแกทำดีที่สุดของแกแล้ว
การพร้อม fight เกินเหตุ จะทำให้ image แกดูเหมือนเป็นคนวุฒิภาวะต่ำเอา
และถ้าจะว่า เสี้ยม หรือ Discredit มันก็มาตั้งแต่ BBC / CNN ละครับ
(แต่ส่วนตัวก็ได้กลิ่นเสี้ยม หวังก่อดราม่าเหมือนสื่อไทยจริงๆแหละ)
แต่ไม่เกี่ยวอะไรกะ Blognone ที่แค่แปลข่าวนี้มานะครับ
เด็กไม่ได้ดำน้ำออกมาเองครับ หมอให้ยากล่อมประสาท แล้วขนขึ้นเปลสนามแบกออกมา
แต่แน่นอนว่ามันเบากว่าของElon แน่ล่ะ
เอิ่ม ยาวเลย = ='
ถ้าไม่เห็นด้วยก็พิมพ์แค่ว่า
"ผมไม่เห็นด้วยที่ไปกล่าวโจมตีคนอื่นในลักษณะแบบนี้ออกสื่อ"
ก็ได้ครับ เม้นแบบแรกที่คุณเม้นไปมันไม่ค่อยดีนะ...
ในข่าวเค้าจะบวกกันก็ปล่อยเขาไปเถอะอย่าอินมากเล้ย
ถ้าไม่เห็นด้วยก็เวลามีโอกาสเป็นผู้เชี่ยวชาญเองก็สามารถงดให้สัมภาษณ์ได้ครับ หลายคนทำแบบนั้น
แต่โลกมันไม่ต้องเป็นแบบนั้น หลังเกิดเหตุมันมีการ follow up ตามปกติ ว่าเกิดอะไรขึ้น อะไรเวิร์คอะไรไม่เวิร์ค ความผิดพลาดมีอะไรบ้าง ทั้งหมดควรถูกรายงานให้คนได้เรียนรู้เวลามันเกิดเหตุครั้งต่อไป
เราไม่ควรอยู่ในโลกที่พอเหตุการณ์มันดูจะจบลงได้ดีแล้วทุกคนก็ลืมๆ ความผิดพลาดไปเสียหมด อย่างเหตุการณ์นี้มันก็มีคำถามที่เราควรต้องเรียนรู้หลายอย่าง
กระบวนการทำงานพวกนี้มันมีความไม่เข้าใจ มีความไม่พอใจกันเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะเรียนรู้จากมันไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเราควรปิดหูปิดตาตัวเองไม่เรียนรู้มัน
lewcpe.com, @wasonliw
หายไปเลย สงสัยหมดโควต้า
โควต้าผมมีอยู่ครับ ไม่ต้องว่าผมแบบนี้ก็ได้ครับ แค่ผมไม่เห็นด้วยที่เขาพูดแบบนี้ ทั้งที่คนที่ถูกกล่าวหาเขามาช่วยเหลือคุณ แต่คุณกลับตอกหน้าใส่เขาแบบนี้ เป็นใครก็โกรธครับ ผมก็ด้วย มีทะเลาวิวาทมาเยอะแล้วครับ พูดแบบนี้เนี่ย ไม่ถนอมน้ำใจ แถมพูดแนวด่าเขาอีก แม้คุณจะพูดอยากที่จะช่วยเหลือหรือวิจารณ์ให้กลับไปแก้ไขก็ตามที
ลองคิดว่าคุณเข้าไปช่วยเหลือเด็กออกมาจากบ้านที่โดนไฟไหม้ แต่โดนพ่อแม่ของเด็กตบหน้าแล้วด่า คุณได้กระทืบแน่ครับ อุตสาห์ช่วยไม่หวังผลตอบแทน แต่กลับโดนตอบสนองอย่างกับคนทำความผิด เป็นผมไม่เอาไว้แน่ครับ และจะไม่ช่วยเหลืออีกถ้าเกิดขึ้นอีก เมื่อรู้ว่าช่วยแล้วส่งผลลบแบบนี้ อยู่เฉยๆ ยังจะดีซะกว่า
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ผมว่ามัสก์รับได้นะ เพราะที่เวิร์นพูดมันไม่ใช่ fact มันเป็นความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และถึงแม้ว่ามันจะใช้งานไม่ได้จริง แต่มัสก์ก็ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในมุมของแกแล้ว
ผมว่าแกรับฟังได้ ส่วนเวิร์นก็พูดตามความเห็น และความเห็นของผม คือ ทุกคนก็ลงมือตามความถนัดของตัวเอง และให้ความเห็นตามมุมมอง ทักษะ แลัประสบการณ์ของตัวเองแล้วล่ะครับ
คนที่ทำผิดที่ผิดเวลาสำหรับผม คือ อิอิ ตำรวจท่านนึง นักบวช นักพรต คนเอาของมาขาย นักข่าวเจ๋อๆ ส่วนนึงครับ
ผมยังไม่ได้ไปว่าอะไรคุณเลย ไปหัวร้อนมาจากไหนเนี้ย
ส่วนประเด็นช่วยเหลือ รู้อยู่แล้วว่ามาช่วย แต่อุปกรณ์มันไม่เหมาะ มันใช้ไม่ได้ ก็แค่นั้นเอง
แถมตอนแคปซูลมาถึง เด็กก็ใช้วิธีดำน้ำออกมาแล้วด้วย มันไม่จำเป็นที่จะต้องเสียงเปลี่ยนวิธีการ เพื่อถนอมน้ำใจใคร ถ้าคิดได้แค่นี้เด็กน้อยมาก
แน่นอน คนที่ส่งของไปให้ (และทีมงานที่ทำ) คงเสียความรู้สึกเล็กน้อย ถ้าถูกพูดตรงๆ แบบนี้ (นิสัยพูดกันตรงๆ คนไทยไม่ถนัด) แต่สิ่งประดิษฐ์ที่ทำออกมา คงไม่เสียเปล่า อย่างน้อยถ้าใครมีปัญหาคล้ายๆ กัน ก็สามารถส่งความช่วยเหลือไปได้เร็วขึ้น
พูดความจริงดีแล้ว อาจจะเสียความรู้สึก แต่ก็ได้โอกาสปรับปรุงให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป
และที่สำคัญ "ทำ" ดีกว่า "พูด" เสมอครับ
ดูพี่แกจะมีศตรูเยอะกว่าที่คิดแหะ
ถือว่าแปลข่าวได้นุ่มนวลมาก เพราะดูคลิปแล้วก็ดุเดือดพอสมควร
แรงกว่า "not practical" แน่นอน แรงกว่าทุกอันก่อนหน้านี้
lewcpe.com, @wasonliw
คุณเชื่อไหมว่า หลังจากกรณี เรื่อง "not practical" ที่ผมว่าไม่แรง ผมถามเพื่อนที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ 4 คน ทุกคนยืนยันว่า "not fit" แรงกว่า "not practical" และผมถามต่อว่า ถ้าคุณไม่อยากสร้างศัตรู แต่จะพูดอย่างไรว่าไม่อยากใช้ไอ้นี่ เพระาว่า operation ดำเนินไปแล้วมีเด็กออกมาแล้วจำนวนหนึ่ง operation ที่ทำไปไม่มีข้อผิดพลาด จะใช้คำที่มันดีกว่า "not practical" มีไหม ไม่มีใครคิดออก ทุกคนบอกว่า ในสถานการณ์แบบนั้น not practical เหมาะสมที่สุดแล้ว ในการถนอมน้ำใจ
เดิมผมก็ใช้ not practical ในความหมายแบบที่คุณบอก จนกระทั่งผมไปอ่านความเห็นในกระทู้ก่อน หลายคนออกความเห็นประหนึ่งเป็น native หรือ เคยไปเรียนต่างประเทศมาหลายปี ทำความมั่นใจผมหายมากจนต้องไปถาม native speaker อีกหลายครั้ง ทุกคนตอบตรงกัน ว่าที่ผมเจ้าใจนั้นถูกแล้ว และกรณีนี้การตอบแบบนี้ถือว่า ถนอมน้ำใจ
ไม่ได้จะตำหนิใคร แค่อยากเตือนตัวเองไว้ว่า อย่าออกความคิดเห็นถ้าเราไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ นอกจากไม่ informative แล้ว ยัง mislead คนอื่นอีก
บริบทการสนทนาเวลาคุยมันหายไปครับ (ทวิตเตอร์มันสั้น)
สื่อไหนดีๆ จะใช้คำว่า not practical for .....
โดยไม่ใส่ quote เน้นคำว่า not practical
ตา Elon แกเป็นนักประดิษฐ์ เจอคำว่าใช้ไม่ได้จริงในเชิงปฏิบัติ แบบลอยๆ มันดูหยามไปนิด
...... อย่างไรก็ตาม ผมว่า not suitable for this situation น่าจะดูซอฟท์สุด
(ตามหลัก-ที่ผมเชื่อว่า-ที่ว่า คำยิ่งกระชับ ยิ่งรู้สึกว่าเป็นคำแรง)
ผมเข้าใจมาตลอดว่า Elon เป็นนักธุรกิจ และ คนออกไอเดียแต่ไม่ได้ลงมือทำ ไม่รู้ว่าปกติจะจัดคนแบบนี้เป็น "นักประดิษฐ์" หรือป่าวนะครับ
ส่วนตามข่าว ก็แค่เสียหน้ามั้งครับถ้าไม่พูดอะไรออกมาบ้างก็ดูแปลกๆ
จริงๆ ผมนับเป็นนักประดิษฐ์เพราะว่า ถ้า "มีไอเดีย" หรือ "ยอมให้ทำ" ก็มากพอสำหรับคำนี้ล่ะครับ เพราะนักธุรกิจ(เต็มรูปแบบ)โดยมาก อะไรพวกนี้มันจะมีคำว่า Not Profitable มาประกบอยู่ คือไม่ได้ออกสักอย่าง
คือคงใช้คำว่า เป็นทั้ง Investor และ Inventor แหล่ะครับ .. โดยนัยแล้ว Engineer สำหรับเมืองนอกเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ซ่อม ตามวิกิก็ใช้ engineer ส่วนพวก bio อย่าง investopedia หรืออื่นๆ ก็ใช้คำว่า inventor ตรงๆ
ส่วนเสียหน้าก็ใช่ครับ ทำไงได้ มีคนไปถาม / มีเรื่องความเป็นความตาย .... จะให้ตอบ No ก็ใช่เหตุ
โดยภาพรวมผมเน้นว่า ควรด่าสื่อนะ
ผมว่า not practical สำหรับงานนี้ .. ในสถานที่น่าจะมีการพูดกันอยู่แล้ว
และถ้าเจ้าตัวมาเอง เห็นสภาพถ้ำ ก็จะรู้ด้วยตัวเองว่ามันไม่เหมาะกับเคสนี้ (not practical for this circumstance) แต่ไม่ใช่ "not practical" แบบที่สื่อเน้นๆให้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เข้าใจได้ว่าตาอีลอนแกวอร์กับสื่อมาพักใหญ่
โอ ผมก็อาจจะผิดครับ แต่ผมอ่านในทวีตของ BBC กับไล่ไปอ่านในข่าว (ของ BBC) แล้วรู้สึกตามนั้น
ไป reply ผมไว้ในข่าวเก่าด้วยก็ดีนะครับ
lewcpe.com, @wasonliw
จริงๆก็อยากไปหนะ แต่ว่เค้าคุยกันยาวจนผมออกจาก loop ไปแล้วไงครับ พอจะไปเขียนมันก็จะเหมือนโพล่งอะไรกลับมาแบบไม่มีประเด็นไม่มีใครคุยด้วย 555
ความแรงมันอยู่ที่การตีความครับ
not fit ใช้งานได้จริง ไม่อิงทฤษฎี แต่ไม่เหมาะดับงานบางชนิด เช่น เอารถสิบล้อมาทำแท็กซี่
not practical ทำได้ดีในทางทฤษฎี แต่พอใช้งานจริงแล้วกากสัส ... ไม่ใช่แค่ไม่เหมาะดับงานใดงานนึง แต่ไม่เหมาะเอามาใช้เลย
มันก็แล้วแต่สังคม วัฒนธรรมองค์กรหรือเปล่า?
เพราะผมคุยกับ คนชาติอเมริกันที่ทำงานด้วยกันในสาขาวิศวกรรม เขากลับพูดว่ามันแรงกว่า?
เพราะ not fit คือจะเฉพาะเจาะจงในบางสถานการณ์เช่นใช้ในเหตุการณ์นี้ไม่ได้ แต่ใช้ในเหตุการณ์อื่นได้คือมีเงื่อนไขกำหนด แต่ not pratical คือเฉพาะเจาะจงว่าใช้งานไม่ได้ในสถานการณ์จริง
+1 ประเด็นคือผู้ว่าแกก็ไม่ใช่ native speaker ด้วยสิ (ฟังจากตอนแกพยายามตอบไทยปนอังกฤษ…)
ดังนั้นคำว่า ‘not practical’ ของแก ก็ไม่รู้ว่าตอนพูดแกหมายความไปขนาดไหน สื่อสารออกมาได้ตรงหรือเปล่า
แบบนี้เรียก เนื้อไม่กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ ได้ไหม
ใจผมสงสาร Elon นะ คือจริงๆ เค้าไม่ต้องช่วยก็ได้ แต่ผมมองว่าการที่ลงทุนสร้างแคปซูลนั้นขึ้นมา แล้วรีบนำมา แถมยังมาด้วยตัวเอง มันเห็นถึงความตั้งใจแล้วแหละ เรื่องโปรโมทนี่ผมโนคอมเม้นละกัน เพราะไม่รู้เจ้าตัวเค้าคิดจริงๆ ยังไง
เอาจริงๆนะ มันก็คิดได้ 2 แง่เหมือนกันครับ
ช่วยเพราะอยากช่วย กับช่วยเพื่อให้คนสรรเสริญ
ผมว่าเหตุการณ์นี้มันมีคนแบบหลังอยู่ (ไม่ได้บอกว่าเป็น Elon Musk นะ อย่าเข้าใจผิด) ยกตัวอย่างก็มหาวิทยาลัยแห่งนึงที่เสนอให้ทุนเรียนจนจบปริญญาเอก อันนี้คนก็เข้าไปด่ากันเยอะแยะ หาว่าเกาะกระแส ทั้งที่จริงๆก็สามารถมองว่าก็อยากช่วยจริงๆ ได้เหมือนกัน
อีกแง่คือ Elon Musk มีต้นทุนทางสังคมสูงครับ การที่มีคน tweet ไปหาโดยตรง “ขอให้ช่วย” หลังจากที่ปฏิเสธไปแล้ว 1 ครั้ง แล้วมีเรื่องคนเสียชีวิตมาแล้วด้วย จะให้ Elon Musk ตอบปฏิเสธรอบที่สอง น่าจะถูกด่ามากกว่านะครับ
ถ้าเอา Elon ไปผูกกับ iron Man ก็จะคิดแบบนั้นครับ แบบเดียวกับที่ต้องไผขอทุนตัน อิชิตันไปเดินสวนสนาม เค้าเป็นนักธุระกิจจะให้เค้ามีภาระกอบกู้โลกคงไม่ใช่ เค้าควร tweet ตอบแต่หากขาดอะไรที่คิดว่าเค้าทำได้ให้ขอมาก็พอ
ประสบการณ์ส่วนตัว
ผมโคตรเกลียดการบิด โดยอ้างเจตนา เลย
เหมือน คนๆนึงเขาให้ทาน
ก็มีสาระแน มากระซิบข้างหูว่า
"เนี่ยๆ มันทำดีเพราะเอาหน้า"
ซึ่งถ้าเชื่อตาม ต่อไปทุกครั้งที่เห็นคนนี้ทำดี ก็จะกาหัวไปแล้วว่า "คนๆนี้ทำดีเอาหน้า"
ทั้งที่เจ้าตัวเค้าช่วยด้วยความจริงใจ
แต่กลายเป็นทำคุณบูชาโทษ เพราะสาระแนบางคน
ดังนั้น มุมมองส่วนตัวคือ
ถ้าเห็นใครทำ/พยายามทำดี ก็คือ โอเคแล้ว
ควรยกย่องเค้าไปตามกระทำนั้นๆไปตามสมควร
ทำไมคนทำดีชอบโดนว่าสร้างภาพ มันก็เป็นแนวคิดที่ดีไหม จากคนไม่เห็นาภพาพจริง
คนตั้งใจทำ เสียความรู้สึกจริงๆ จะเป็นคนดีต้อง strong มากๆ
อย่าง Elon Musk ต้อง promote ตัวเองอีกเหรอ
ต้องสิครับ ชื่อเสียงหายไปเยอะจากกรณีรถ Tesla
ขนาดนักแสดง นักร้อง นักกีฬาดังๆยังต้องเดินสายโปรโมทเลย
คนอังกฤษนี่ขึ้นชื่อเรื่องปากจัดอยู่และ 5555
สัมภาษณ์แบบนี้รู้เลยว่าผู้ว่าปรึกษาใครก่อนตัดสินใจ แต่ผมว่าผู้ว่าตัดสินใจถูกแล้ว ส่วน Elon Musk ก็ได้แสดงถึงน้ำใจ สื่อเสี้ยมเอง แค่แกอยู่เฉยๆ ก็เป็นพระเอกไปแล้ว เดี๋ยวถ้ามีหนังเรื่อง หนัง 13 Boars อาจมีฉากใช้เรือดำน้ำตอนแรก แต่เกิดปัญหาระหว่างทางจนทำให้พระเอกตัดสินใจ ให้ต้องดำน้ำเองก็เป็นได้ ผมคิด Plot เรื่องให้เสร็จ 555
ผู้ว่าฯ บอกว่าแกมีเพื่อนที่รู้จัก ช่วยติดต่ออีลอนมัสก์ไปนี่ครับ
ผู้นำก่อนตัดสินใจตัองรวบรวมข้อมูลหหลายฝ่าย สุดท้ายจะตัดสินว่าไงก็อยู่ที่การประเมินความเสี่ยงอีกที ซึ่งผู้ว่าเลือกที่จะเชื่อผู้เชี่ยวชาญด้านดำน้ำ มากกว่าเครื่องมือที่มีความเสี่ยงสูงกว่าก็แค่นั้น ถึงมาจาก Nasa มันก็ไม่ไดพิสูจน์ว่ามันไม่มีความเสี่ยง ผมว่าเขาก็คงดูหน้างานก่อน
คือผมจะสื่อว่าคนของเราเองนี่แหละที่ติดต่อเค้าไป เค้าถึงมาช่วย เค้าไม่ได้ยื่นมือมาช่วยเอง แต่ถึงเวลากลับมีคนไปสับเค้าว่าเค้าทำดีเอาหน้า ทั้งๆ ที่โดนเรียกมาแท้ๆ
วิดีโอต้นทางเหมือนจะถูกลบไปแล้วนะครับ
ผมว่า ช่วงนี้มันเหมือนช่วง retrospective อ่ะนะ มีอะไรก็เขียนใส่การดาษโน๊ตแปะๆ เอาไว้อ่านกัน
การรับความเห็นด้านลบเป็นสิ่งที่ต้องพยายามรับกันให้ได้ การถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นส่วนนึงของกระบวนการพัฒนาอยู่ละ
แต่การวิพากษ์ควรจะส่งผ่านข้อมูล และข้อเท็จจริง ถ้าทำแบบตรงไปตรงมาปราศจากอารมณ์ส่วนตัวจะดีมากๆ
คำพูดแบบ "เอาเรือดำน้ำเสียบตูด", หรือ "ทำเพื่อเอาหน้า" มันไม่ควรเกิดขึ้น เพราะโคตรจะไม่ constructive
+1
เอาจริง ๆ วิธีที่เขาใช้ในการนำเอาเด็กออกมา ก็ใกล้เคียงกับวิธีที่ Musk เสนอนะ (แค่ไม่ได้จับเด็กใส่ถังเท่านั้น) แต่ว่ามันมีความยืดหยุ่นสูงกว่า สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดีกว่าเท่านั้นเอง
จะว่าไป คือ สิ่งที่ทางทีมต้องการจาก Musk น่าจะเป็นเทคนิคการสำรวจ + การค้นหามากกว่าจะเป็นการขนคนหรือเปล่า (ผมไม่ทราบว่าเขามีเทคนิคการค้นหาระดับไหนเหมือนกันนะเอาจริง ๆ) แต่พอหาเจอแล้วก็เลยไม่จำเป็นมากละ ประจวบกับไอเดียที่ Musk เสนอนั้นมันไปแย้งกับผู้เชี่ยวชาญ (ที่เคยดำในถ้ำจริงๆ) ก็๋เลยโดนไป
อีกอย่างผมว่าเค้าขยับตัวช้าไปหน่อย ถ้าตอบสนองตั้งแต่วันแรก ๆ น่าจะไม่โดนถล่มเละขนาดนี้ คือพอมาช่วยช้าแต่ดันมาใหญ่แบบนี้ก็เลยโดนมองว่าเอาหน้าไปเลย
เห็นล่าสุด Elon musk ขอโทษแล้วนี่ แต่ก็ยังอธิบายว่าที่โกรธเพราะอะไร
สงสัยเพราะจดหมายเปิดผนึกจากนักลงทุน มีผล