ปัจจุบันมีเจ้าของรถ Tesla จำนวนหนึ่งขับรถท่องเที่ยวและนอนในรถเลยเพราะพบว่าหากพับเบาะหลังให้ราบลงจะสามารถนำฟูกไปปูนอนได้พอดี นอกจากนี้ยังนอนแบบเปิดแอร์ได้โดยไม่มีอันตรายเพราะรถมีโหมดตั้งแคมป์ (Camper mode)
อย่างไรก็ตามโหมดตั้งแคมป์ยังใช้งานได้ไม่ดีพอ เพราะไฟในรถยังติดอยู่ Tesla จึงต่อยอดฟีเจอร์ดังกล่าวและใช้ชื่อว่า Party & Camper Mode โดย Elon Musk ระบุในทวีตว่าระบบปรับอากาศในรถจะทำงาน พร้อมสั่งเปิดเพลงและเลือกเปิด-ปิดไฟในรถได้ตามชอบ รวมทั้งชาร์จไฟให้อุปกรณ์อื่นๆ ได้นานถึง 48 ชั่วโมงหรือมากกว่า
รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model S, 3 และ X จะได้รับอัพเดตดังกล่าวเร็วๆ นี้
ที่มา – Electrek
We’re adding a “party & camper mode” soon to S/3/X, so your car can maintain air flow, temp, selective lights, music & power devices for 48 hours or more while parked. Big batteries rock …
— Elon Musk (@elonmusk) July 31, 2018
Comments
เห็นภาพรถกระบะเปิดเพลงมีโคโยตี้เต้นท้ายรถ
ยังไม่รวมเครื่องเสียงกับไฟแต่งรถ โหลดเตี้ยพร้อมสติ๊กเกอร์เด็กซิ่งและแบรนด์เครื่องเสียงอีกนะนั้น
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
Model 3 ตลาดล่าง version ?
บางครั้งผมก็อยาก จัดเต็มเครื่องเสียงรถ แล้วแอบขับเข้าไปจอดแถวๆ จุดรวมพลแว้นเงียบๆ หมุน Volume เยอะๆ แล้วเปิดเพลงแข่งกับพวกแม่มเลยครับ
ไก่ พรรณนิภา - กุหลาบแดง (ปลูกกุหลาบแดงว๊ายยเพื่อเธอร์ 9999 ดอก)
เปาบุ้นจิ้น โอเพ่นนิ่ง Original
สุนทราภรณ์ - ฟลอร์เฟื่องฟ้า
กุ้ง ตวงสิทธิ์ - ทั้งรัก ทั้งเกลียด ซรึ๊งแน่นนายยยหวัจาย สุดช๊ามมมม
ชรัส - ทั้งรู้ก็รัก
Elvis Presley - Jailhouse Rock
ศิริพร อำไพพงษ์ - โบว์รักสีดำ
ฟังแล้วควักน้ำขิงมาจิบแทบไม่ทัน
Beat ดนตรีมันจะสู้เพลงรีมิกซ์ห่วยๆไม่ได้สิครับ พวกนั้นนี่อัดเบสมาสุด เสียงนี่ตั้บๆๆๆๆกลบทุกสิ่งทุกอย่าง คือเปิดเพลงไหนก็เหมือนกันเพราะมันได้ยินแต่ตั้บๆๆๆๆๆ
เสียงเบส หมุนเป็น 100dB กว่าจะตืดดด นะครัช เจอลำโพงประกาศ Spec ใช้ใน Line ประกอบ แบบฮอร์นซัก 50V 100W ต่อพ่วงกันบนหลังรถกระบะ 4 ตัว หันหน้าไปทางเป้าหมาย นี่น่าจะสู้ได้นะครับ คือหยุดตื๊ดดดดด ก็เจอเลย ปลู๊กกุหลาบบ ตื๊ดดดดด ว๊ายยตื๊ดดดดด ก้าวพัน ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดดดตื๊ดดดดด ค่ามคืนดั่งดวงซาหวัน
โคโยตี้บนหลังรถกระบะ คุณเจอคุณตา สั่นขาแบบเอลวิส ต่อแถวขอเหมารอบรำวงแน่นอนอ่ะ
งั้นขอรอยัลสไปรท์สักเพลงครับ ลองดูว่าขาแว๊นจะดิ้นกันมั้ย
อาจได้เป็นมิกซ์ใหม่นะครับ. 555
แว๊นงงเลยครับเพลงอะไรวะไม่รู้จักอะลุง
จะว่าไป นอนเปิดแอร์ได้ เพราะรถมันไม่มีไอเสียนี่นา
ใช่ครับ
กลัวดึงไฟจากแบตต่อเนื่องมากไปจนร้อนและไฟไหม้แทน?
แอร์นี่ใช้ไฟน้อยกว่า motor ที่ขับเคลื่อนรถอีกนะครับ ไม่น่าร้อนอะไรขนาดนั้นหรอกครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
มันมีระบบระบายความร้อนครับ
แอร์กินไฟน้อยกว่ามากๆครับ ไม่เคยขับไฟฟ้าล้วนแต่ hybrid มอเตอร์เหยียบแรงๆครั้งเดียวแบตเกลี้ยงแอร์ติดไฟแดงแทบไม่ลดเลย
แล้วตอนขับรถไม่ยิ่งแย่กว่าเหรอ เปิดทั้งแอร์ทั้งขับมอเตอร์รถ
ขอตอบรวมๆ
รถจอดอยู่เฉยๆ ระบบระบายความร้อนทำงานหนักกว่า ขับรถไปเรื่อยๆนะครับ อย่าลืมเรื่องลมที่พัดเข้าใส่รถด้วย เป็นแบบนี้ตั้งแต่เครื่องยนต์แบบ ICE แล้วล่ะ
ที่เป็นห่วงคือการใช้ต่อเนื่องหลายๆชั่วโมง โดยที่จอดเฉยๆ นี่น่ากลัวกว่าขับรถหลายชั่วโมงอยู่นะ
แต่ไม่แน่ใจว่าแอร์แบบนี้ใช้ไฟฟ้าแค่ไหน เห็นท่านข้างบนบอกใน hybrid กินน้อย ก็อาจจะมีปัญหาน้อยกว่าการใช้งานแบบอื่นๆ
อีกเรื่องก็คือเมืองนอกกับบ้านเราอากาศต่างกัน เอามาเปิดแอร์ทั้่งคืนบ้านเรา อาจจะกินแบตโหดกว่าเยอะก็ได้ ยิ่งถ้าเจอ 40C++ ตอนหัวค่ำหน้าร้อน อาจจะไม่รอด จากประสบการณ์เคยทิ้งมือถือในรถ กลับมาเครื่องเตือน temp ร้อนเกิน 50c เลยหยุดทำงาน ทั้งๆที่จอดในอาคารในร่มด้วยซ้ำ...
ป.ล. บ้านเรามีข่าวรถ hybrid ไฟไหม้ตอนชาร์จอยู่เลย โทษกันระหว่างคนซื้อกับบ.ว่าติดตั้งชาร์จไม่ถูกต้อง
ผมใช้ hybrid ของ Toyota ปัญหาเรื่องชาร์จยังไม่ทราบ แต่หน้าเครื่องคืออุณหภูมิต่ำกว่ารถ ICE ปกติมากนะครับ ขับติดๆในเมืองมา 3 ชั่วโมงกลางวัน เปิดฝามามือจับส่วนใกล้ๆเครื่องได้สบายเลย (ส่วนที่เป็นเหล็กตัวเครื่องเลยไม่เคยลองไม่กล้า) นี่ขนาดมีเครื่องสันดาปด้วย อุปกรณ์สำหรับรถมันไม่ได้ออกแบบมาอ่อนแอขนาดนั้นไม่งั้นคงมีข้อห้ามวิ่งตอนกลางวันมาแล้วแหละ
ส่วนแบตอยู่ข้างหลังมีช่องดูดแอร์ออกไประบายให้แบตอีกที อุณหภูมิถ้าแค่เปิดแอร์ไม่รู้สึกร้อน จะมีไอร้อนให้รู้สึกได้ไม่เยอะตอนวิ่งมากกว่า แค่แอร์มันก็คงอุณหภูมิขึ้นแหละแต่ไม่สามารถรู้สึกได้ถ้าไม่จับตรงๆ
เรื่องการกินแบตก็เป็นได้ แต่ประเทศที่เค้าขายก็ไม่ได้เย็นทุกประเทศนะครับ อเมริกาก็กว้างมากๆอากาศไม่ได้มีลักษณะเหมือนกันทั้งประเทศ รถก็ขายนานแล้วเค้าน่าจะมีสถิติอยู่ว่ามันพอไหวไหม
ขอบคุณผมอาจจะคุ้นเคยแต่เครื่องยนต์แบบเก่า เลย suffer กับการความร้อนจากขับรถในเมืองแบบกทม.มาก รถยุโรปนี่เจอรถติดกทม.พอเก่าไประบบแอร์และระบบระบายความร้อนเดี้ยงกันหมด รถญี่ปุ่นเองก็ต้องแค่ยี่ห้อเจ้าตลาดถึงแอร์เย็นดีเย็นไว ยี่ห้อนึงผลิตแอร์เองแต่แอร์ติดรถเย็นช้ากว่าเจ้าอื่นซะงั้น(นอกเรื่อง)แต่ไม่ว่าคันไหน ขับรถในกทม.เจอรถติดๆแล้วจอดนี่มือจับฝากระโปรงแล้วอุ่นๆทุกคัน
ถ้าต้องจอดรถ start เครื่องมันระบายความร้อนได้ช้ากว่าจริงๆ โดยเฉพาะถ้าเจออากาศร้อนๆแบบบ้านเรา ที่เคยเจอ start รถมาเจอหน้าจอในรถบอกtemp 45C และมือถือที่ทิ้งไว้ในรถเตือนความร้อนเกิน ทั้งๆที่จอดในที่จอดในร่มนี่แหละ คือมันอาจจะไม่ถึงเท่ากับทะเลทราย แต่ก็โหดน่าดู
อีกอย่างที่ห่วงเรื่องแบต เพราะเคยเห็น clip พวก test drive ของ tesla แบบโหดๆ แล้วtemp แบตมันพุ่งสุดๆ จนตัดกำลัง ตรงนี้ผมว่ามีความเสี่ยงไฟไหม้อยู่ เลยกลัวว่าถ้าจอดเฉยๆ แล้วใช้ไฟหนักๆ ก็อาจจะมีความเสี่ยงเช่นกัน เห็นข่าวแวบๆว่าอัตราไฟไหม้ยามเกิดอุบัติเหตุหนักก็ไม่ได้ดีไปกว่ารถICE (แต่อีลอน เขาก็เคลมว่า ก็รถ ICE ยังไหม้ได้เลย ทำไมต้องกังวล?)
ส่วนเคสรถhybrid ไฟไหม้ขณะชาร์จเห็นข่าวแวบๆ เป็นรถนำเข้าครับน่าจะporche หรือไง ไม่ได้ค้นข่าวตรวจอีกที
ปรากฎตื่นมาอีกทีแบตหมด
7 กิโลต่อชั่วโมง ต้องนอนเป็นวันถึงจะหมด
แค่เปิดแอร์แบตหมด แล้วรถจะวิ่งได้ยังไง