นักวิจัยจากเกาหลีพัฒนาลำโพงที่มีลักษณะเป็นแผ่นโปร่งใสบางเฉียบที่สามารถแปะผิวหนังได้เหมือนกับเทปกาว และยังสามารถปรับปรุงมันใช้งานเป็นแผ่นฟิล์มไมโครโฟนได้ด้วย
ผลงานที่น่าทึ่งนี้เป็นงานวิจัยจาก Ulsan National Institute of Science and Technology (UNIST) ในประเทศเกาหลีใต้ ทีมวิจัยได้พัฒนาแผ่นเยื่อนาโนเมมเบรน โดยแผ่นเยื่อที่ว่านี้มีส่วนประกอบสำคัญคือเส้นลวดที่ทำจากเงินขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางระดับนาโนเมตรจัดวางเรียงกันเป็นมุมฉาก ทั้งนี้แผ่นลำโพงที่พัฒนามาได้มีความโปร่งใส อีกทั้งบางและเหนียว มีความยืดหยุ่นดีพอที่จะแปะติดไปกับพื้นผิวที่บิดงอหรือผิวหนังมนุษย์ได้แทบไม่ต่างกับรูปลอกลายน้ำ
ลวดตัวนำไฟฟ้าขนาดเล็กจิ๋วของลำโพงนี้เป็นส่วนที่ทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าที่ไหลผ่านมันให้กลายเป็นเสียงโดยเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า thermoacoustics ซึ่งแตกต่างจากกลไกการทำงานของลำโพงทั่วไป
สำหรับลำโพงทั่วไปนั้นสัญญาณไฟฟ้าที่ผ่านเข้ามายังลำโพงจะสร้างแรงทางแม่เหล็กซึ่งก่อเกิดเป็นแรงทางกลกระทำกับแม่เหล็กถาวรที่ถูกติดตั้งเอาไว้ในตัวลำโพง แรงทางกลดังกล่าวส่งผลกระทบไปยังกรวยกระดาษซึ่งทำให้กรวยกระดาษสั่นสะเทือนตามความถี่และความแรงของสัญญาณไฟฟ้า ก่อให้เกิดแรงทางกลกับอากาศด้านหน้าลำโพงจนเป็นเสียงให้ได้ยิน
แต่กลไกที่ลำโพงของทีมนักวิจัยจากเกาหลีใช้เพื่อเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้กลายเป็นเสียงซึ่งเรียกว่า thermoacoustics นั้น คือการเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าที่ไหลผ่านลวดที่ทำจากเงินให้กลายเป็นพลังงานความร้อน ผลจากการเปลี่ยนแปลงของความร้อนที่ถูกปลดปล่อยออกมาทำให้อากาศในบริเวณใกล้เคียงเกิดการขยายตัวและลอยตัว เมื่อความร้อนจากลวดเงินเปลี่ยนแปลงด้วยความถี่และขนาดที่เปลี่ยนแปลงไปตามสัญญาณเสียงที่ถูกแปลงมาเป็นสัญญาณไฟฟ้า อากาศก็ที่ได้รับผลกระทำจากความร้อนก็จะสั่นสะเทือนตามไปด้วยจนเกิดเป็นเสียงในท้ายที่สุด
ทีมวิจัยได้สาธิตการเปิดเสียงเพลงผ่านลำโพงบางเฉียบนี้ตอนที่มันถูกแปะอยู่บนผิวหนัง แม้ว่าความดังของเสียงที่ออกจากลำโพงนั้นยังเบาอยู่มากจึงต้องใช้ไมโครโฟนเข้าไปจ่อใกล้ๆ ทว่าคุณภาพก็เสียงก็ดีเพียงพอที่จะฟังออกว่าเป็นเสียงเพลงที่บรรเลงด้วยไวโอลินจากตอนหนึ่งของเพลง La Campanella
ผลงานวิจัยลำโพงบางเฉียบนี้ยังสามารถประยุกต์ดัดแปลงเพื่อใช้เป็นไมโครโฟนได้เช่นกัน โดยการเพิ่มแผ่นฟิล์มยืดหยุ่นที่มีพื้นผิวเต็มไปด้วยปุ่มทรงพีระมิดขนาดเล็กจำนวนมากมาประกบไว้ด้านล่างอีก 1 ชั้น เมื่อมีคลื่นเสียงเดินทางมากระทบกับแผ่นเยื่อนาโนเมมเบรน แรงสั่นสะเทือนของอากาศจะทำให้แผ่นเยื่อสั่นและเกิดการสัมผัสระหว่างปลายแหลมของทรงพีระมิดบนแผ่นฟิล์มยืดหยุ่นกับเส้นลวดที่ทำจากเงินบนแผ่นเยื่อ การสัมผัสที่ว่านี้ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า triboelectric effect ผลที่ได้คือสัญญาณไฟฟ้าที่ไหลออกจากตัวนำเส้นลวดเงินขนาดจิ๋วผ่านสายสัญญาณออกไป
ทีมวิจัยได้ทดลองใช้แผ่นเยื่อนาโนเมมเบรนนี้เป็นไมโครโฟนเพื่อบันทึกเสียงพูด ว่าจะสามารถเก็บรายละเอียดของเสียงด้วยคุณภาพที่ดีเพียงพอจะใช้สำหรับการวิเคราะห์เสียงเพื่อจำแนกบุคคลได้หรือไม่ ซึ่งก็พบว่ามันสามารถรับเสียงแล้วแปลงเป็นสัญญาณได้ในระดับที่ใช้แยกแยะเสียงของแต่ละคนได้ เพียงแต่มันจำเป็นต้องอยู่ใกล้แหล่งเสียงซึ่งในที่นี้ก็คือปากจึงจะได้รับเสียงที่ดังเพียงพอสำหรับการทดลอง
แม้ผลงานของทีมวิจัยจาก UNIST ชิ้นนี้จะยังไม่สามารถนำมาใช้งานจริงได้ทันที แต่นี่ก็เป็นการยืนยันแนวคิดเรื่องการใช้นาโนเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับอุปกรณ์ด้านสื่อเสียงได้สำเร็จโดยอาศัยหลักการเปลี่ยนพลังงานที่แตกต่างจากลำโพงและไมโครโฟนที่มีอยู่ทั่วไป ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการเปิดประตูบานใหม่ให้กับวงการฮาร์ดแวร์ ในอนาคตก็น่าจะสามารถออกแบบอุปกรณ์สื่อสารให้มีขนาดเล็กและบางลงได้อีก ไหนจะงานพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่ที่สามารถเลือกติดตั้งชิ้นส่วนลำโพงและไมโครโฟนด้วยวิธีการใหม่ๆ ได้ด้วย
ที่มา - IEEE Spectrum, เอกสารงานวิจัย
Comments
นะ นี่มัน ! แบบที่ใช้ในมิสชั่นอิมพอสซิเบิ้ล !!!
ล้ำมากครับ อีกก้าวที่ใกล้หนัง Sci-Fi เข้าไปอีก ชอบข่าวนี้จัง
ว้าว....อ้าปากค้าง 3 วิ สุดยอดมาก
น่าทึ่งและน่ากลัวไปพร้อม ๆ กันเลย
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เหมือนเสียงที่ได้ยินจากเข็มตอนกำลังอ่านแผ่นเสียงเลย (เสียงเข็มอ่านนะ แบบไม่ได้ต่อลำโพง)
Samsung Galaxy Andromeda เจอกันปี 2020 มือถือที่ไม่ต้องพกพา 555 เอาจริงนะผมว่าเป็นไปได้ แต่อาจต้องพกอุปกรณ์เล็กๆ ตัวนึงไว้กับตัว เชื่อมกันด้วยสัญญาณไร้สาย แต่ทั้งหมดสั่งงานด้วยเสียง อาจเอาไว้สั่งงานก่อน ส่วนเอาไว้ฟังคงต้องพัฒนากันอีกนานพอสมควร เพราะถ้าแค่อ่านสัญญาณ มันพอเป็นไปได้ โดยอ่านสัญญาณเสียงอย่างเดียว แล้วส่งไปแปลสัญญาณในอุปกรณ์ที่ติดตัว
นี่แหละของใหม่ที่แท้จริง
ไว้เข้าขั้น Hi-Fi หรือ Hi-Res ค่อยพิจารณาความอยากได้อีกครั้ง
ใส่นาฬิกา
ต่อไปก็สามารถเอาแผ่นนี้ไปแปะที่หูไว้ได้ เอาไมค์ไปติดไว้ที่ปากได้ แปะกันแบบถาวรไปเลย
แต่ก็ต้องพัฒนาเรื่องการ pair กับอุปกรณ์ว่าจะมีการ pair และ re-pair ยังไง
คิดเหมือนกันเลย
แปะไว้ที่หู กับ คอ/กราม
เหมาะตั้งแต่งานสายลับ ยันหูฟังเพลง/handfree ตอนวิ่งออกกำลังกาย
ถ้าทำเป็นสินค้าได้จริงเมื่อไรอาจมีหูทองมาต่อต้านว่า เสียงไม่ดีเท่าลำโพงกรวยกระดาษ
ยังไม่ทันมา เม้นบนก็เริ่มแล้วครับ
ผมว่ามันก็ไม่เท่าจริงๆแหละ
แต่มันก็ไม่จำเป็นต้องทำให้เสียงดีเหมือนลำโพงเทพเช่นกัน
แค่อยู่ในระหว่างพัฒนา ยังไม่ได้ทำขายจริง อนาคตเสียงอาจดีขึ้น
แต่ราคาก็น่าจะแพงหูฉีกเช่นเดียวกัน ส่วนการใช้งาน น่าจะเน้นสำหรับงานสัมมนา ประชาสัมพันธ์ และงานถ่ายทำหนัง/รายการโทรทัศน์โดยเฉพาะ ลดอุปกรณ์และน้ำหนักไปได้เยอะ อีกส่วนก็สำหรับผู้พิการแขนขา ที่ต้องการใช้โทรศัพท์หรือฟังเพลง ก็น่าจะช่วยได้
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ปิรามิด => พีระมิด
ดัง ?
เบา ?