สหภาพยุโรป หรือ EU เตรียมศึกษาปรับแผนใหม่ เพื่อผลักดันให้ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือใช้ที่ชาร์จมือถือแบบเดียวกันทั้งหมด หลังจากข้อเสนอที่เคยทำไปก่อนหน้านี้ไม่มีความคืบหน้า
EU เคยเสนอให้ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือเปลี่ยนมาใช้ที่ชาร์จแบบเดียวกันทั้งหมดเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว (ข่าวเก่า) ด้วยเหตุผลสนับสนุน คือสามารถลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ลงได้มากกว่า 5 หมื่นตันต่อปี อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคด้วย ในตอนนั้นบริษัทมือถือรายใหญ่ รวมทั้ง โนเกีย, แอปเปิล, ซัมซุง, หัวเหว่ย ต่างลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อให้สมาร์ทโฟนใช้ที่ชาร์จแบบเดียวกันทั้งหมดภายในปี 2011 และแม้ MOU ดังกล่าวหมดอายุในปี 2012 หลายบริษัทก็ยังคงร่วมลงนามต่อไปอีก 1-2 ปี
ส่วนผลลัพธ์หลังการลงนามเป็นอย่างไร ทุกคนก็คงเห็นกันอยู่แล้ว ซึ่งทางผู้กำกับดูแลของ EU อยากให้เห็นผลลัพธ์หรือความคืบหน้ามากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ จึงเตรียมศึกษาหาแนวทางใหม่ในการผลักดันนั่นเอง
ปัจจุบันที่ชาร์จของสมาร์ทโฟนที่นิยมใช้กันมี 3 ประเภท คือ micro USB และ USB-C ในกลุ่ม Android และ Lightning สำหรับ iOS จึงอาจบอกได้ว่าถ้าที่ชาร์จต้องเป็นมาตรฐานเดียว คนที่น่าจะถูกกดดันมากที่สุดก็คือแอปเปิล
Comments
ดูแล้ว ฝั่ง android ก็คงเข้าสู่ USB-C ทั้งหมดในเร็ววันนี้ สำหรับเครื่องรุ่นใหม่ ๆ มันก็จะเป็นมาตรฐานเดียวกันหมด เพราะ micro USB ก็เริ่มร้างลาลงไปในรุ่นใหม่ ๆ
แต่ฝั่งผลไม้ ก็ยังใช้มาตรฐานแบบข้ามาคนเดียวอยู่
ถ้าแอปเปิลยอมปรับแค่เจ้าเดียว ก็คงจะเป็นไปตามมาตรฐานละ
+1
จะให้ดีมาตรฐานสำหรับชาร์จไร้สาย(หลังเครื่อง)ด้วยก็ดีนะเนี้ยะ หรือจะรวมหัวชาจแบบแม่เหล็กไปด้วยเลยนี่ยิ่งดี
Charge ไร้สายก็มีแค่ Qi กับ อีกอันนึง (จำชื่อไม่ได้)
แต่ Qi แทบจะ dominant แล้วครับ
ปล Apple ก็ใช้ Qi
apple คงยอมตรง Qi แต่จะให้ยอม ทิ้ง mfi + ค่า license lightning น่าจะยากอยู่
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
แหม่ เห็นหลายคนเป็นห่วง apple กันจริง
ถ้าโดนบังคับ apple ก็แค่ตัดออกซะเลย เขาพร้อมอยู่แล้ว
เพราะดูทรงแล้ว ถึงไม่บังคับ อีกสักพักมันก็ตัดพอร์ทออกหมด ทุกอย่างก็พร้อมไปไร้สายแล้ว
เอ.. แล้วค่า lic ของ mfi นี่มันถึง 0.001% ของรายได้เขาหรือเปล่าหว่า ถึงต้องมาห่วง
ห่วง android ราคาถูกเหอะ usb-c เนี่ย ไม่ได้ถูกนะจ๊ะ
ตะ แต่ที่ชาร์จคอมพิวเตอร์ Apple ใช้ร่วมกับโทรศัพท์ Android ได้นะครับ
ก็ออกกฎโหดมาเลยว่าอุปกรณ์ที่จะขายใน EU จะต้องชาร์จผ่าน USB-C(?) เท่านั้น นอกนั้นห้ามขายใน EU
ทำแบบนี้แล้วแอปเปิลจะเอาอะไรกิน ของขายดีของเขาเลยนะนั่น
อันที่จริง ถึง Apple ไม่ทำแบบนี้ก็มีกินอยู่แล้ว
แต่สายชาร์จนี่แค่ตะกละตะกลามมากไปหน่อย
อย่าว่าแต่ข้ามค่ายเลย
android แค่ค่ายเดียวกันบางรุ่นก็ type c บางรุ่นก็ micro usb ..... ไม่รู้จะแบ่งเกรด ไปทำมัย
Micro USB-B มันถูกกว่า USB-C เยอะเลยหล่ะครับ
ก็ใส่มาแบบไม่มีชาร์จเร็วไงครับ เอาแค่สะดวกในการใช้งาน เป็นมิตรกับผู้ใช้ แค่นั้นเองครับ
ไป USB-C ทั้งหมดเลย ทั้งมือถือทั้งคอมพิวเตอร์
ไม่ได้ผลยังไงหว่า? ทุกวันนี้เห็นเหลือแค่ type-c กับ Micro-B เอง ส่วน lightning นี่ยกไปเถอะ ลองเป็นเมื่อ 10 ปีก่อนที่ EU เพิ่งจะออกประกาศสิ ยี่ห้อเดียวกัน 10 กว่าแบบ
ปล.ลองไปดูในตลาดได้เลย จะเหลือสักกี่เจ้าที่ใช้ที่เสียบแบบหัวกลม(Nokiaสมัยก่อน)หรือจะเป็นแบบที่มีเขี้ยวยื่นออกมาเยอะๆก็ได้(ของ sony เมื่อ 12-14 ปีก่อน) ถ้าจะเอาให้เหลือแค่แบบเดียวหรือไม่เกินสองแบบ คงต้องให้มีอุปกรณ์ที่ชาร์ทไฟเหนือกว่า USB-C ขึ้นไปก่อนละ
เรา(คนนอกทวีป) ได้ประโยชน์จากข้อบังคับของ EU หลายประการนะครับ
ผมว่าเฉพาะที่บังคับเป็น Micro USB นี่ได้ผลอยู่นะ
แต่กลายเป็นว่า ตอนหลัง มาเปลี่ยนกันพัฒนาเรื่องระบบ quick charge กันแทน กลายเป็นต่างคนก็ต่างใช้หม้อแปลงของตัวเองกันไปอีก
ดูแล้วยังไงกระแสก็คงไปทาง Type C แหละ ตัว port ไม่น่าใช่ปัญหา แต่ตัวหม้อแปลงนี่แหละ
เข้าใจว่าที่ EU ออกมาตรการนี้ คืออยากให้คนซื้อมือถือแล้วได้แต่เครื่อง ส่วนสายชาร์จ+หม้อแปลง ก็ซื้อแยก หรือใช้ของเก่า จะได้ไม่ต้องแถมทุกเครื่อง แล้วก็มีเหลือใช้ กลายเป็นขยะ ฯ
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.