Elon Musk ซีอีโอ Tesla เขียนบล็อกอัพเดตถึงแผนการซื้อคืนหุ้น Tesla เพื่อนำบริษัทออกจากตลาดหุ้น โดยบอกว่าบล็อกนี้เน้นการตอบคำถามหลายอย่างที่มีนักลงทุนและสื่อตั้งคำถาม
เขาเริ่มต้นอธิบายว่าแผนซื้อหุ้นคืนนั้นมีการเสนอต่อบอร์ดตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา (Musk ประกาศทาง Twitter 7 สิงหาคม) และบอร์ดก็เห็นด้วยในแผนดังกล่าว จากนั้นเขาจึงได้ติดต่อผู้ถือหุ้น Tesla รายใหญ่บางราย เพื่อสอบถามความสนใจร่วมลงทุนซื้อหุ้นคืนครั้งนี้ และได้ผลตอบรับที่ดี มีนักลงทุนยินดีให้เงินทุนช่วยเหลือ
Musk บอกว่าในเมื่อเขาได้เจรจาข้อเสนอนี้กับนักลงทุนรายใหญ่ภายนอก และได้ข้อตกลงว่าได้เงินทุนแน่นอนแล้ว เขาจึงควรประกาศข้อมูลนี้ต่อสาธารณะโดยเร็ว จึงเป็นที่มาว่าทำไมเขาเลือกทวีตข้อความออกไป (funding secured) นอกจากนี้ Musk บอกว่า ในอีกด้านหนึ่งเขาเองประกาศข้อความ ในฐานะหนึ่งในผู้เสนอจะซื้อหุ้น Tesla คืนด้วย
โดยแหล่งเงินทุนหลักนั้น Elon Musk ก็เป็นไปตามข่าวลือก่อนหน้านี้ นั่นคือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของประเทศซาอุดิอาระเบีย Musk บอกว่ากองทุนฯ ได้เสนอให้ Tesla ออกจากตลาดหุ้นตั้งแต่เมื่อปี 2017 เหตุผลหลักคือประเทศซาอุดิอาระเบียต้องการกระจายความเสี่ยงธุรกิจจากน้ำมัน แต่ฝั่ง Tesla เองที่ชะลอแผนนี้ จนกระทั่งกองทุนฯ ซื้อหุ้น Tesla ในตลาดหุ้นจนมีหุ้นเกิน 5% จึงได้ขอเจรจากับ Musk อีกครั้ง จนมาสู่ประกาศดังกล่าวนั่นเอง (ในเมื่อมีแหล่งเงินสนับสนุนจริง ก็อาจไม่ผิดกฎ)
Elon Musk ประเมินว่าการซื้อหุ้นคืนที่ราคา 420 ดอลลาร์ต่อหุ้นนั้น จะมีนักลงทุนสัดส่วนประมาณ 2 ใน 3 ที่เลือกถือหุ้นต่อไป นอกนั้นจะขายหุ้น ทำให้ไม่ได้ใช้เงินสูงระดับ 7 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างที่สื่อคำนวณกัน ส่วนเงินทุนที่จะเข้ามาช่วยซื้อหุ้นคืนนั้น ผลตอบแทนจะอยู่ในรูปของหุ้นเพิ่มทุน ไม่ใช่เงินกู้เพราะ Tesla ไม่ต้องเพิ่มภาระหนี้อีก
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง: SoftBank ไม่สนใจที่จะลงทุนใน Tesla แต่ PIF จากซาอุดิอาระเบียสนใจที่จะลงทุน
อัพเดต: Elon Musk ทวีตเพิ่มเติมว่าในดีลนี้ Silver Lake และ Goldman Sachs จะเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และยังมี Wachtell, Lipton, Rosen & Katz and Munger และ Tolles & Olson เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านกฎหมาย
Comments
จะขายน้ำมันไม่ออกเพราะรถไฟฟ้า ซื้อ บ. ผลิตรถไฟฟ้าซะเลย ดีเหมือนกัน
เป็นวิธีแก้วิกฤติเป็นโอกาสของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันที่ดีมากจริงๆ เจริญรุ่งเรืองได้อีก
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
แทงไขว้ประกันความเสี่ยง
จริงๆ ซาอุ มีปัญหาก้อนมหึมาเรื่องน้ำมันอยู่ฮะ เพราะรายได้มาจากน้ำมัน 95% เลยปรึกษากับ ผู้บริหาร Softbank ได้ออกมาเป็นกองทุน vision 2020 คือจะทำให้เหมือน ดูไบ เลยแต่ทำไม่ได้อย่างเขา (ระดับมีเขตที่ใช้กฏหมายอีกฉบับหนึ่งที่เปิดกว้างระดับ ขายหมู กินหมู คิดดอกเบี้ยได้) เพราะติดกฏหมายอิสลาม เลยไปไม่สุด กั๊กๆ แก๊กๆ ล่อแล่ๆ อยู่
เห็นเวเนฯเป็นตัวอย่างแล้วหนาวกันใหญ่เลยสินะ น้ำมันเริ่มหมดความสำคัญลงเรื่อยๆ ไม่ขยายผลผลิตชาติไปทางอื่นเดี๋ยวก็ตาย
หรือหันไปลงทุนด้านการพัฒนาอย่างอื่นมาทดแทนธุรกิจน้ำมันของตัวเอง เช่น อสังหาฯ รถไฟฟ้า เป็นต้น
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
คนเมกันบอก เฮ้ย ไม่เอาสิ ซาอุมันทั้งบุกรุกประเทศอื่น ไปบอมบ์เยเมน ไปแทรกแซงการเลือกตั้ง ถ้าข่าวนี้จริง กุไม่ซื้อเทสล่า!
คนมาตอบ นี่พูดถึงซาอุหรือเมกัน 555
แต่เรื่องผิดกฏนี่ก็เหมือนยังเถียงกันอยู่เลยครับ เพราะตามบทความ ก็ใช่ว่าจะมีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรว่าซาอุจะสนับสนุนเงินแล้ว (ณ เวลาที่ทวีต)
ขอเอกสาร ยังกับข้าราชการไทย
ประเด็นมันอยู่ที่คำว่า Fund secured ครับ
ถ้ามีหลักฐานว่าเคยคุยกัน มีหลักฐานว่าจะซื้อหุ้นจริง (เช่นเคยจ้างที่ปรึกษา) ยังไงก็น่าจะรอดครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ขอบคุณครับ คือดูเว็บนอกคุยกันแล้วก็มีหลายเสียงมาก
ผมว่าแระ ว่าตามัสก์ไม่น่าจะเอาเรื่องปั่นหุ้นมาเสี่ยงให้ตกม้าตายง่ายๆแบบนี้
เอาออกจากตลาดหุ้นก็ดี จะได้รีบทำอะไรให้ได้อย่างที่โม้ไว้
คนจริง ไม่ต้องพูดมาก (กลัวจะ)เจ็บคอ อิอิ
ชื่อเสียงเฮียแกมีเครดิตสูงจริงๆ
เอาเข้า/ออกตลาดหลักทรัพย์ต่างกันอย่างไรครับ
The Last Wizard Of Century.
ตามข่าวเก่าและข่าวเดลล์ในข่าวเก่าเลยครับ
สรุปคือจะได้ทำอะไรได้ไม่ต้องแคร์ผู้ถือหุ้นที่ซื้อ/ขายกันรัวๆ
อยู่ในตลาดหลักทรัพย์กฎเกณฑ์ สิ่งที่ต้องแจ้งต้องเปิดเผย ต้องปฏิบัติตามมากกว่าครับ แต่มันเป็นแหล่งเงินทุน ถ้านอกตลาดเงินทุนต้องหากันเอง แต่เอาเข้ามาขายในตลาดจะขายหุ้นออกไปเป็นวงกว้างกว่า หลายคนกว่า โอกาสในการระดมทุนมากกว่า
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ตามความคิดของผมนะครับ ถ้าออกจากตลาดก็น่าจะสามารถควบคุมทิศทางของบริษัทได้ดีกว่า เช่นในเวลาที่ต้องออกเสียง ผู้ถือหุ้นที่ยินดีจะมาร่วมล่มหัวจมท้ายกับบริษัทยังไงก็น่าจะนึกถึงผลประโยชน์ส่วนรวมและในระยะยาวมากกว่านักลงทุนจากตลาดข้างนอกที่นึกถึงผลกำไรเป็นหลัก โดยเฉพาะนักลงทุนที่เก็งกำไรระยะสั้น
ขอบคุณทุกความเห็นครับ
The Last Wizard Of Century.