ปัจจุบันรถ Tesla Model 3 ที่กำลังผลิตออกมาเป็นรุ่นออปชันจัดเต็มล้วนๆ โดยรุ่นต่ำสุดที่เคยประกาศราคาไว้ตอนเปิดตัวว่าราคา 35,000 ดอลลาร์สหรัฐนั้นยังไม่เปิดขายจริง ล่าสุดนักวิเคราะห์จาก UBS ได้แยกส่วน Tesla Model 3 ดูแล้ว และพบว่าหากขายราคานี้จริงก็จะขาดทุนแน่
นักวิเคราะห์ Colin Langan ได้แยกส่วนรถ Tesla Model 3 รุ่น Long Range หรือแบตใหญ่วิ่งได้ไกลขึ้น เพื่อดูเทคโนโลยีข้างในและประเมินต้นทุน เขาระบุว่าถ้า Tesla ขายรถรุ่นต่ำสุดที่ราคา 35,000 ดอลลาร์สหรัฐก็จะขาดทุนที่ 5,900 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 195,000 บาทต่อคันเลยทีเดียว
จากการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าแม้ขายที่ราคา 42,000 ดอลลาร์สหรัฐก็ยังได้กำไรน้อยนิดเพียง 620 ดอลลาร์สหรัฐต่อคันเท่านั้น แปลว่าจุดคุ้มทุนของรถรุ่นนี้อยู่ที่ราว 41,000 ดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตามการวิเคราะห์นี้ขัดแย้งกับการแยกส่วนของเจ้าอื่นที่เคยระบุว่า Tesla จะได้กำไรมากกว่า 30% จากการขาย และการแยกส่วนจากเยอรมนีก็พบว่าต้นทุนของรถรุ่นนี้อยู่ที่ 28,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคัน
เมื่อกลางปี Elon Musk ก็เคยบอกเองว่า ณ ตอนนี้ถ้าขายราคานั้นบริษัทก็อยู่ไม่ได้
ที่มา – Electrek
Comments
เจอปรับกำแพงภาษี ต้นทุนเลยพุ่งไม่เหมือนเดิม
โดยเชื่อมโยงเทคโนโลยีที่มีทั้งหมดนำมาประยุกต์ใช้ในแต่ละธุรกิจ เช่นทำอย่างไรให้ได้แบตเตอรี่ที่จ่ายไฟได้นานและมีเสถียรภาพที่สุด หรือทำอย่างไรให้รถขับเคลื่อนอัตโนมัติฉลาดสุดๆ (AI => Machine Learning)
ตราบใดที่ SpaceX ยังไม่เจ้ง Tesla ก็น่าจะยังอยู่ได้ครับ
Solarcity อีกบริษัท
SolarCity ถูก Tesla Motors ซื้อไปแล้วไงครับ ควบรวมกิจการไปแล้ว
ส่วนตัวผมว่าเทสลาเป็นตัวทำเงินให้เอาไปถลุงในสเปซมากกว่าครับ แต่ต้องทำให้ขายได้และได้กำไรด้วย
ออกข่าวงี้ก็แย่งกันซื้อแย่ซิครับ 5555
ถ้ามีรุ่น 35K จริงคงปรับลดสเปคหลายอย่าง น่าจะประหยัดต้นทุนกว่านี้นะ
สงสัยต้องให้จีนกระตุ้น
ลองให้พี่จีนก็อบสิครับ ลดต้นทุนไปได้ 2-5 เท่าเลยมั้ง แต่คุณภาพที่ได้ก็เป็นอีกเรื่อง
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว