Dyson แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่โด่งดังจากพัดลมไร้ใบพัดและเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย (อ่านประวัติ Dyson คร่าวๆ ได้ที่นี่) ได้เปิดตัวเครื่องดูดฝุ่นรุ่นล่าสุดอย่าง Dyson V8 ที่มีความโดดเด่นทั้งในแง่ของความสะดวกในการเคลื่อนย้าย (mobility), ระบบทำความสะอาดถังเก็บฝุ่นและอุปกรณ์เสริมสารพัดที่ครอบคลุมแทบจะทุกสถานการณ์ในการทำความสะอาด
ผมมีโอกาสได้ใช้งานมาซักระยะ เลยขอเขียนถึงสักเล็กน้อยครับ
ดีไซน์ของ Dyson V8 แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนหน้า กลไกในการทำงานคล้ายๆ กับไกปืนที่บริเวณด้ามจับ ด้านบนจะเป็นมอเตอร์ ส่วนด้านบนถังเก็บฝุ่นจะเป็นแผ่นกรองฝุ่นขนาดเล็ก
ด้านท้ายของมอเตอร์มีแผ่นกรอง HEPA ให้บริเวณด้านท้ายด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าลมที่ออกมาจากมอเตอร์เป็นลมสะอาด
ส่วนอุปกรณ์เสริมมีมาให้หมดทั้ง 12 ชิ้น ซึ่งค่อนข้างครอบคลุมรูปแบบและพื้นที่การทำความสะอาด
บริเวณฐานของด้ามจับจะมีช่องสำหรับเสียบที่ชาร์จ ขณะที่ปริมาณแบตเตอรี่จะถูกแสดงออกมาผ่านหลอดไฟ 3 ดวง ตามปริมาณที่เหลือ
ความโดดเด่นของ Dyson V8 คือ mobility ที่สูงจากความที่ไม่มีสายไฟระโยงระยาง แถมตัวเครื่องดูดฝุ่นก็สามารถถือได้มือเดียว น้ำหนักไม่มากเกินจนรู้สึกหนักหรือเมื่อย ขณะที่อุปกรณ์ต่างๆ ก็สามารถต่อเข้ากับตัวเครื่องดูดฝุ่นได้โดยตรง และด้วยความหลากหลายของอุปกรณ์ ทำให้สามารถทำความสะอาดได้แทบทุกสถานที่ ทุกสถานการณ์
อย่างไรก็ตามเมื่อใช้งานตัว V8 กับก้านยาวสำหรับการทำความสะอาดในที่สูงหรือพื้น รู้สึกได้ว่าน้ำหนักเพิ่มขึ้นและใช้แรงเยอะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ตัวด้ามจะน้ำหนักไม่มาก เพราะผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ก็ตาม
V8 ปรับความแรงได้สองระดับคือแรงกับเบา ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วแบบเบาก็ยังถือว่าแรงอยู่เหมือนกัน เช่นเดียวกับเสียงรบกวนที่ถึงแม้จะเบากว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบลากสาย แต่ก็ยังถือว่าดังและสร้างความรบกวนอยู่เหมือนกัน
จุดที่ชอบที่สุดของ V8 ไม่เพียงแต่เรื่อง mobility แต่ยังมีเรื่องของการทำความสะอาดถังเก็บฝุ่น ที่เราไม่ต้องสัมผัสกับฝุ่นเลย เพียงแค่ดึงสลักด้านบนบริเวณมอเตอร์ ฝาปิดถังเก็บฝุ่นด้านล่างก็จะเปิดออกอัตโนมัติ ทิ้งฝุ่นลงสู่ถังขยะทันที แต่ที่ต้องระวังคือไม่ควรถือตัว V8 สูงจากถุงหรือถังขยะเกินไป ไม่งั้นฝุ่นอาจกระจายแล้วต้องทำความสะอาดกันอีกรอบ
ขณะที่ตัวกรอง ทั้งที่กรองอากาศบริเวณมอเตอร์และไส้กรองก็สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ แต่ต้องปล่อยให้แห้งจริงๆ ถึงจะใส่กลับเข้าไปได้อีก
จากการใช้งานมาค่อนข้างชอบ V8 มาก หลังจากใช้เครื่องดูดฝุ่นแบบลากสายเดิมๆ มา เพราะเคลื่อนย้ายง่าย อุปกรณ์เสริมเยอะ ทำความสะอาดถังเก็บฝุ่นได้โดยมือไม่เลอะ อย่างไรก็ตามปัญหาหลักของ V8 คือราคาที่ค่อนข้างสูง ขนาดที่ว่าถ้าเงินไม่เหลือจริงๆ อาจทำให้ผู้ที่สนใจหันไปหายี่ห้ออื่นเอาได้ง่ายๆ เลย
Comments
V10 เค้าจะมาแล้วนา ตอนแรกผมว่าจะรอ แต่เจอ cmg จัดลดราคาเลยเอามาตัวนึง
ที่ใช้มา ผมว่ามันดีตรงใช้งาน ดูแลรักษาง่าย ทุกชิ้นถอดล้างได้ อันนี้ออกแบบมาดีมาก
แรงดูดผมว่าเฉยๆ แต่ดีกว่า อิเล็กโทรลักส์ไร้สายอันเดิมแน่นอน แต่เทียบกับแบบมีสายผมว่าเบากว่า
แต่ mode max นี่แรงมาก แต่แบทหมดเร็วมาก จากปกติ 40 นที ถึง 1 ชัวโมง เหลือไม่ถึง 20 นาที
ข้อเสียอีกอย่างคือ หนักไปหน่อย (แม่บ้านไม่ยอมใช้ ผมเลยต้องใช้เอง)
ปล ดูดแมลงวันไปปล่อยนอกห้องได้ด้วย (ไม่ตาย)
ดูจากการออกแบบต่างๆ ผมว่าน่าจะทน ถ้ามีอะไรเสียก็ถอดเปลี่ยนเป็นชิ้นๆ ได้
อิเล็กโทรลักส์อันเก่าที่เสีย วางไว้แบบนั้น ไม่รู้จะทำอะไรกะมัน
ขายต่อสิครับ
ลองเอาไปเคลมหรือให้ศูนย์ซ่อมแล้วขายทิ้ง น่าจะดีกว่าขายของที่เสียแล้ว
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
มันเก่าแล้ว คงไม่รับเคลมแล้วมั้งครับ
รอชม v10 เหมือนกัน เห็นเคลมว่า แบตอยู่ได้เกินชม.แร่ะ
แต่ก็อยากรู้ราคาเปลี่ยนแบตเหมือนกันนะ ท่าจะเอาเรื่องอยู่ทีเดียว เห็นว่าเจ๋งกว่า Lithium Ion ด้วย
แค่ชื่อก็แพงแล้ว ww
ใช้เครื่องดูดฝุ่นแล้ว มีคนบ่นว่ามันไม่สะอาดสะใจนะครับ
ผมเลยต้องใช้ไม้ถูบ้าน จุ่มน้ำแล้วบิด แบบคนยุคต้นรัตนโกสินเหมือนเดิม
ถ้าเป็นคอนโด ที่ปูลามิเนตก็น่าใช้อยู่ครับ
เครื่องดูดฝุ่น แรกสุดเค้าใช้กับพื้นพรม และไม่ใช่การทำความสะอาดให้มันเอี่ยม
เค้าแค่เอาไว้ยืดเวลาไปซักพรมเท่านั้นเอง และหน้าที่หลักของพรมคือไว้เก็บฝุ่นเพื่อรอดูดออก
พื้นเรียบดูดยังไงก็ไม่สะอาด ได้แต่ฝุ่นที่เกาะตามหน้า ต้องใส่หัวปั่น
ซีรีส์นี้แบบเบา ดูดอะไรแทบไม่ได้ แบบแรงพอใช้ได้ แต่ก็แปปเดียวหมด แถมชาร์จอีกนานนนนน
แบตเต็ม ดูดได้แค่ห้องเดียว 4x4 ถ้าดูดแต่พื้น อย่างเก่งก็สองห้อง ไว้ใช้ในคอนโดพอลุ้น
ดูดรถที่ซอกมุมเยอะก็เกะกะ แทรกเข้าไม่ค่อยได้ ดูดรถ suv ได้แบบลุ้นๆ ว่าจะไม่หมดก่อน ตอนใกล้จะเสร็จ แล้วต้องรอชาร์จอีกเป็นชม. หมดรมย์
คงไม่คิดจะซื้ออีก ถ้าไม่พัฒนาเรื่องแบตและเวลาชาร์จ
ของผมทรายแมว ขนแมวก็ดูดได้ดีนะครับ
แต่ต้องเข้าใจว่า มันดูดเฉพาะตอนดันไปข้างหน้า (น่าจะเป็นที่หัวดูด)
ตอนดึงหาตัวมันดูดไม่ขึ้นหรอกครับ ปัจจุบันผมก็ใช้แบบเบา ดูดห้องได้หมดอยู่
เครื่องดูดฝุ่นผมมองว่าเป็นการทำความสะอาดหยาบนะครับช่วยลดความถี่ในการ
เอาไม้เปียกลง สุดท้ายก็ต้องเอาไม้ม็อบลูบลงน้ำยาทำความสะอาด
หรือเช็ดคราบอีกที่
ผมมองว่าฝุ่นบางจำพวกมันไม่เป็นคราบติดกับพื้นผิวต้องโดนน้ำชื้นๆ
หน่อยให้ชะออกจากร่อง
ที่บ้านผมก่อนถูยังไงก็ต้องดูดครับ ถูเลยนี่ผ้าแทบเป็นโคลน
การใช้เครื่องดูดฝุ่นลุยก่อน มันช่วยลดเส้นผม,ฝุ่นผงได้ระดับหนึ่งเลยครับ ช่วยลดความจำเป็นในการถูเปียกไปเยอะมากครับ
ด้วยเกียรติของพ่อบ้าน
ถ้าไม่มีเครื่องดูดฝุ่น ผมจะกวาดก่อนสองรอบแล้วค่อยถู
แต่ถ้ามีเครื่องดูดฝุ่น ก็ดูดแล้วค่อยถูซ้ำครับ
สรุปไม่ทางใดทางหนึ่งก็ย่อมต้องใช้ไม้ถูเสมอ ใส่น้ำยาหอมๆ ถูเสร็จเด็กๆก็ลงไปนอนกลิ้งกันสนุก
ใช้เครื่องนี้สิครับ ทั้งดูดฝุ่น, ดูดเศษอาหาร, ถูพื้น และเช็ดแห้งในคราวเดียว พื้นเปียกก็ไม่กลัว
BISSELL CROSSWAVE ราคาประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท
เครื่องนี้ดูเจ๋งมาก ๆ เลยครับ
That is the way things are.
เออ นี่แหละๆ แหล่มเลย รอลด 80% แล้วค่อยซื้อ
ทำไมผมดูรีวิวแล้วรู้สึกว่าไม่ต้องมีเครื่องมืออะไรก็ได้ แค่มีพ่อบ้านก็พอจบทุกอย่างละ ใช้อย่างอื่นนอกจากถูพื้นเช่นล้างจานซื้อกับข้าวให้อาหารหมาก็ได้
คุณเป็นเจ้าของช่องนั้นรึเปล่า ผมชอบมากๆ ผมสับฯ ไว้นานแล้วครับ
เป็นเครื่องที่ซื้อมาแล้วคุ้มค่าที่สุดของ dyson ละ
ถ้ายังไม่พังก็ใช้ต่อไปยาวๆ
ปล. V10 จะมาแล้ว
มันเทียบกับพวก หุ่นยนต์ดูดฝุ่นได้มั้ยฮะ อย่าง xiaomi robot ทำนองนี้
v10 จองได้ถึงวันนี้ รับของพรุ่งนี้แล้วครับ T_T