มีรายงานต่อเนื่องมานานว่าแอปเปิลจะเข้าสู่ธุรกิจวิดีโอสตรีมมิ่งเต็มตัว ด้วยวิธีการผลิตคอนเทนต์ขึ้นมาฉายบนแพลตฟอร์มโดยเฉพาะ แบบที่ Netflix และ Amazon ทำอยู่ แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าแอปเปิลจะเปิดตัวเสียที ล่าสุดมีรายงานว่าสาเหตุเพราะแอปเปิลพยายามควบคุมเนื้อหามากเกินไป
โดย The Wall Street Journal รายงานว่าผู้บริหารแอปเปิล ได้ชมตัวอย่างซีรี่ส์แนวดราม่า Vital Signs ที่เล่าชีวประวัติของ Dr. Dre และแสดงความกังวล เนื่องจากมีฉากที่เขาใช้ยาเสพติดและปืน ซึ่งมองว่าเป็นเนื้อหาที่รุนแรงและไม่ควรเผยแพร่บนแพลตฟอร์ม
เรื่องนี้เป็นหัวข้อสนทนาในกลุ่มผู้ผลิตเนื้อหาในฮอลลีวู้ด ว่าแอปเปิลนั้นแม้จะพร้อมทุ่มงบมหาศาลจ้างผลิตคอนเทนต์ แต่แอปเปิลเองก็ต้องการให้คอนเทนต์เหล่านั้นมีความสะอาด ปราศจากฉากที่มีความรุนแรง การเมือง และเพศ พูดง่าย ๆ คือต้องการคอนเทนต์ที่เหมาะกับทุกคนในครอบครัว ซึ่งสัญญาณแบบนี้ ใครที่ติดตามการถอดแอปใน App Store หลายต่อหลายครั้งก็คงคุ้นเคยดี
แนวทางดังกล่าวของแอปเปิล อาจถือว่าสวนทางกับแพลตฟอร์มรายอื่นที่ผลิตเนื้อหาเอง อาทิ Netflix, Amazon และ HBO ที่เปิดกว้างทางเนื้อหามากกว่า เหตุดังกล่าวทำให้แอปเปิลประสบปัญหาในการเจรจาหาจุดร่วมที่เหมาะสมกับผู้ผลิตเนื้อหา และทำให้แผนเปิดตัวต้องเลื่อนออกไปนั่นเอง
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าแอปเปิลเตรียมผลิตคอนเทนต์น่าสนใจหลายอย่าง อาทิ Foundation ของ Isaac Asimov หรือซีรี่ส์ที่นำแสดงโดย Jason Momoa
Comments
ถูกใจคณะตรวจสอบบ้านเราแน่นอน
Apple so conservative
ซื้อ Disney ก็จบแล้ว
กลัว Disney จะซื้อ Apple มากกว่า เหมือนที่ซื้อ Pixar
ราคาต่างกันเยอะครับ ตอนนี้ Apple มูลค่ามากกว่าล้านๆดอล ขณะที่ Disney ทั้งบริษัทมีมูลค่า1แสนห้าหมื่นล้านดอล
ตอน Pixar Disney ซื้อมา 7พัน4ร้อยล้านดอลครับ
ปล. จริงๆ Apple คงไม่อยากซื้อ Disney หรอกครับ คงอยากทำเองที่ควบคุมงานได้ทั้งหมดมากกว่า
แอปเปิ้ลมีเงินสดในมือประมาณ 2.4 แสนล้านดอล
ซื้อดิสนี่ด้วยเงินสดยังเหลืออ่ะครับ
แนวทางที่ไม่มีเนื้อหารุนแรง เพศ ยาเสพติด แล้วประสบความสำเร็จก็มีให้เห็นนะครับ เช่น disney รอชมครับว่าจะออกมาเป็นยังสำหรับ apple ในอุตสาหกรรมนี้
หนังชุดของ Marvel นี่ไม่รุงแรงนิดหนึงหรอครับ ฆ่ากันเลย
มีเรื่องอะไรบ้างครับยังนึกไม่ออก
Theory of everything?
ของ disney สิครับ
Disney แม่มดใส่ไล่ฆ่าเจ้าหญิงตั้งหลายเรื่อง ขนาด Frozen เจ้าชายประเทศหนึ่งจะเอาดาบฟันองค์หญิงอีกประเทศ แต่เรตเนื้อหาเหมาะสำหรับเด็ก วิ่ง
บนทุ่งลาเวนเดอร์แปป...
เจ้าชายเงื้อดาบใส่เจ้าหญิง = พยายามฆ่า
เจ้าชายผ่านมาเจอศพเจ้าหญิง โผเข้าจูบ = อนาจารศพ
เจ้าชายจูบเจ้าหญิงขณะหลับ = ลวนลาม
เจ้าชายดีๆ ทั้งนั้น
ยังไม่นับเรื่องอายุของเจ้าหญิงที่ยังน้อยแต่พยายามตามหาเจ้าชาย
เรื่องอายุนี่ต้องเอาบริบททางสังคม ณ ตอนนั้นมาคิดด้วยครับ
No Cartoon Violence The Amazing World of Gumball
Search ใน YouTube เลยครับ แต่ WB นี่แหละ ตัวใช้ความรุนแรงเลย เอะอะก็ใช้ระเบิด ตูมตามไปหมด
Disney ทำหนังและการ์ตูนมีหลายแนวนะครับ ไม่ใช่แค่เนื้อหาสำหรับเด็กด้วย และอย่าลืมว่า เนื้อเรื่องการ์ตูนของ Disney มีด้านมืดทั้งนั้น และบางเรื่องโหดร้าย และมีแนวตลกร้ายด้วยนะ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ผมอาจใช้คำพูดไม่ถูกต้อง ขออภัยครับ ประมาณว่าฉากฆ่ากันของ disney มันไม่เลือดสาดโหดเหี้ยมจนเด็กดูไม่ได้ประมาณนั้นครับ คือมีฉากรุนแรงอยู่บ้าง แต่เหมือน 90% ก็เด็กดูได้มั้งครับ
อันนี้มาแซวครับ
เด็กน้อยที่บ้าน ไม่ค่อยได้ให้ดูการ์ตูน พอมาดูเรื่องนึงตัวการ์ตูนโดนเหยียบแบนเหมือนกระดาษลอยไปลอยมา เด็กร้องให้เลย TT
Jerry แกล้ง Tom แต่ละทีนี่ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตนะฮะ
ครับผม ถ้า rate R จริงๆสำหรับผมคือพวก GOT ของ HBO อ่ะครับ เห็นยันกะปู๋นักแสดง(แค่นมยังน้อยไป) เลือดไหล แขนขาด แบบเด็กเห็นคงกรี๊ดแตก ฮา
สมกับเป็นแอปเปิล
ไม่มีระบบ Content Rating เหรอครับ
เข้าใจถ้าจะมี apple ก็ทำได้ แต่จุดประสงค์คงไม่ใช่การแบ่งเรต
ถ้าจะพูดให้แคบลงมาหน่อย Apple คงอยากจะทำแต่เนื้อหาที่ได้เรตไม่เกินไปกว่า PG
ประมาณว่า
ฉากฆ่ากันก็ไม่ต้องเห็นระดับแขนขาด ขาขาด หัวขาด เลือดแดงๆ พุ่งเลอะเทอะไปหมด
ฉากรักๆ ใคร่ๆ ก็ไม่ต้องเห็นถึงระดับแก้ผ่าโฉ่งฉ่าง โยกกันเอี๊ยดอ๊าดบังแค่ของสงวน
ส่วนการเมืองน่าจะไม่อยากให้กระทบมุมมองของขั้นการเมืองทั้ง 2 ฝ่ายของชาติเขาล่ะมั้ง
แต่สังเกตุไหม GOT TWD ที่ดังๆ เป็นพลุแตกมันมีเรื่องพวกนี้ครบเลย
The hills are alive with the sound of music...
อยู่ๆซีนนางเอกวิ่งกางแขนบนภูเขาก็แวบมาในหัว
เรื่องนี้นี่คลาสสิคจริง ดูวนกี่ทีก็ไม่เบื่อเลย
แต่จะว่าไปหนังเรื่องนี้มันก็ไม่ได้โลกสวยตามภาพลักษณ์ซักเท่าไหร่เลยนะครับ