นักโทษในคุกสามารถอ่านหนังสือที่คนบริจาคเข้าไปได้ แต่หนังสือก็อาจสามารถแทรกยาเสพติดหรือของผิดกฎหมายได้ ล่าสุดหน่วยงานราชทัณฑ์ในเพนซิลวาเนีย หรือ PADOC (Pennsylvania Department of Corrections) ประกาศจะไม่รับหนังสือแล้ว แต่จะเปลี่ยนเป็นอีบุ๊คแทน ซึ่งญาติๆ สามารถซื้อได้ผ่านบริษัทเครือข่าย GTL เท่านั้น
ดูแล้วเป็นความเคลื่อนไหวที่ดี เพราะสามารถลดการจัดการทรัพยากรลงไปได้ แต่การเปลี่ยนเป็นอีบุ๊คนั้นดีสำหรับนักโทษจริงหรือ?
ภาพจาก PADOC
ที่ผ่านมา หนังสือในเรือนจำได้มาจากองค์กรการกุศลบริจาค ญาติๆ นักโทษบริจาคเข้ามา แต่อีบุ๊คนั้นต้องมีการจ่ายเงินซื้อถึงจะมีเข้ามาได้ และเครื่องอ่านอีบุ๊คของ GTL นั้นราคาสูงถึง 147 ดอลลาร์ สามารถอ่านหนังสือ เล่นเกม ส่งอีเมลได้ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายจะไปตกอยู่กับญาตินักโทษที่ส่วนใหญ่มีรายได้น้อย
มีหนังสือที่เป็นที่นิยมมากมายแต่ถูกจำกัดสำหรับนักโทษ เช่น The Diary of Anne Frank, ดิกชันนารี, หนังสือกฎหมาย ในเรือนจำมีห้องสมุดแต่ก็มีหลายเหตุผลที่ไม่ได้ใช้ เช่นเวลาจำกัด ทำหนังสือหายต้องถูกลงโทษหนัก เป็นต้น
Wanda Bertram จากกลุ่มผู้สนับสนุนนโยบายในเรือนจำให้ความเห็นว่า อีบุ๊คควรจะเป็นการนำโลกภายนอกเข้าไปในเรือนจำ แต่นี่ดูเป็นการตลาดของผู้ให้บริการเครือข่ายของเรือนจำมากกว่า
ปัจจุบันมีข่ายโทรศัพท์ของเรือนจำที่มีเจ้าใหญ่ครองตลาดอยู่สองรายคือ GTL และ Securus Technologies ที่สามารถทำเงินจากค่าบริการใช้จ่ายพวกค่าส่งอีเมลราว 47 เซนต์ต่ออีเมล ค่าวิดีโอคอล 30 ดอลลาร์ต่อการคุย 20 นาที
ที่มา - Quartz
Comments
เหมือนเอาเงินมาละลายแม่น้ำ กับขี่ช้างจับตั๊กแตนมารวมกันเลย ไม่คุ้มค่าเลย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เอา LSD ฉาบ ไบเบิ้ล ลงไปซัก 20 หน้าแล้วส่งเข้าเรือนจำไป ใครจะรู้
Coder | Designer | Thinker | Blogger