หลังจาก Bloomberg นำเสนอรายงานพิเศษที่อ้างว่าทางการจีนอยู่เบื้องหลังการติดตั้งชิปพิเศษที่เปิดทางเข้าควบคุมเครื่องบนเมนบอร์ดของ Supermicro และนำไปสู่ราคาหุ้นของบริษัทที่ร่วงกว่า 40% รวมถึงบริษัทที่มีชื่อในรายงานต่างปฎิเสธ
ล่าสุด เจ้าหน้าที่และนักการเมืองของสหรัฐจำนวนหนึ่งเริ่มให้สัมภาษณ์แสดงความกังวลกับกรณีในรายงานของ Bloomberg แล้ว
John Bolton ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงและหัวหน้าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติของรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดปัจจุบัน ระบุว่าเขาไม่สามารถแสดงความเห็นในรายละเอียดได้ เนื่องจากมีส่วนที่เกี่ยวกับข่าวกรอง อย่างไรก็ตามเขาระบุว่าความพยายามของทางการจีนในการคุกคามสหรัฐฯ ในโลกไซเบอร์ ถือเป็นสิ่งที่น่ากังวล และรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ความสำคัญมาตลอด รวมถึงพยายามปิดกั้นการโจมตีเหล่านี้ด้วย
ด้าน Adam Schiff สมาชิกสภาผู้แทนฯ ของสหรัฐฯ ประจำรัฐแคลิฟอร์เนีย จากพรรคเดโมแครต ก็แสดงความกังวลเช่นกัน โดยระบุว่าหากรายงานนี้เป็นจริง ย่อมแสดงให้เห็นว่าทางการจีนพยายามขโมยข้อมูลทั้งภาครัฐและเอกชน
ส่วนวุฒิสมาชิก Mark Warner จากรัฐเวอร์จิเนีย และหนึ่งในคณะกรรมาธิการด้านความมั่นคงของวุฒิสภาสหรัฐ จากพรรคเดโมแครต ชี้ว่ารายงานดังกล่าวเพิ่มหลักฐานว่าจีนกำลังเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ ส่วนสมาชิกสภาผู้แทนฯ รัฐนิวเจอร์ซีย์ Frank Pallone พรรคเดโมแครต ก็เรียกร้องให้ทางสภาตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ด้วย
ทางการจีนปฎิเสธว่าตนเองไม่มีส่วนในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
ที่มา - Bloomberg
อาคาร Capitol ที่ทำการของสภาคองเกรส; ภาพจาก Wikipedia
Comments
นี่คือ วัตถุประสงค์ของรายงาน
แล้วกรณี NSA แอบสอดใส้ Cisco Router หลายปีก่อน ก็ทำแบบเดียวกันนะ ผมว่าพอกันทั้งคู่เลย
ถ้าจะดี ไม่ต้องสอดแนมใครทั้งสิ้น โลกจะได้สงบ ต่างคนต่างอยู่ไป เว้นแต่เกิดเหตุบานปลาย ก็ต้องยับยั้งให้เร็วที่สุด อย่าได้รีดเลือดรีดเนื้อจากคนอื่นเป็นพอ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ผมว่ามันก็สอดแนมกันทั้งคู่ แต่ฝ่ายไหนพลาดโดนจับได้ โดนแฉ ก็จะเป็นหัวข้อที่ถูกยกมาเพื่อกดการเจรจาต่อรองนั่นแหละ
นึกถึงตอน cable's gate ที่ตอนนั้นทูตสหรัฐต้องพูดอ้อมแอ้ม ว่าเหมือนไดอารี่ส่วนตัว ไม่ได้ตั้งใจเปิดเผย
แต่นั่นแหละผลประโยชน์ของชาติตัวเองย่อมมาก่อนอยู่แล้ว ไม่ว่าประเทศไหนก็ตาม เราคนนอกก็ได้แต่เกาะกระแสเพื่อตักตวงผลประโยชน์เข้าประเทศกันไป
อย่างเคสกีดกันทางการค้าเมกาจีน ก็คาดเดาลึกๆว่า จะย้ายฐานการผลิตกลับมาแถวๆนี้แทน เพื่อเลี่ยงการกีดกันทางการค้า จากที่เคยทยอยย้ายออกไปในช่วงห้าปีนี้
ถ้าไม่รู้อะไรเลย จะไปยับยั้งอะไรได้ มันก็เป็นแบบนี้แหละ
ทำไม่ได้หรอกครับแบบนั้น มนุษย์เราห้ามตัวเองไม่ให้เอาเปรียบคนอื่นได้แต่ห้ามใจคนอื่นไม่ให้ทำไม่ได้หรอก และเมื่อมีคนทำอย่างนี้ก็จะได้เปรียบคนที่ไม่ทำมากมาย ส่วนคนที่ไม่ทำก็จะกลายเปนแค่คนทีถูกเอาเปรียบหรือไม่ทันคนไปแทน เป็นคนดีบริสุทธิ์ในทุ่งลาเวนเดอร์มันอยู่ไม่ได้หรอกครับในโลกใบนี้
ตราบใดที่เรายังคงต้องการผลกำไรหรือสิ่งของที่ฟุ่มเฟือยนอกเหนือไปจากปัจจัย 4 สิ่งที่คุณกล่าวมาในย่อหน้าสุดท้ายเรียกได้ว่าเป็นไปไม่ได้เลย
เป็นอีกหนึ่งในสงครามข่าวสารหรือไม่
ตอนนี้มีข่าวอะไรมาเลือกที่จะเชื่อแค่ครึ่งเดียว
เพราะการเมืองแทั้งสองฝ่ายมันดุเดือดเหลือเกิน
นั่นไง...
แล้วข่าวมันออกมาช่วงเวลาพอเหมาะพอเจาะกับที่ทรัมป์ทำสงครามการค้ากับจีนเลยมั้ยล่ะ
บอกว่าสงสัยจีนกำลังสะสมอาวุธนิวเคลียร์ อาวุธชีวภาพ แล้วส่งกำลังทหารบุกยึดบ่อน้ำมันก็สิ้นเรื่อง