ไมโครซอฟท์ปรับ Windows Defender Antivirus (WDA) ให้รันโปรเซสการสแกนไวรัสไปอยู่ใน sandbox ลดโอกาสการโจมตีที่ตัวป้องกันไวรัสเสียเอง
ตัวป้องกันไวรัสกลายเป็นจุดเสียงหนึ่งของระบบ เพราะตัวมันเองต้องรับอินพุตจำนวนมาก ทั้งไฟล์ต่างๆ ทราฟิกเน็ตเวิร์ค และตัวป้องกันไวรัสมักมีสิทธิ์ระดับสูงในเครื่อง หากแฮกเกอร์มุ่งเป้าเครื่องที่ติดตั้งต้องป้องกันไวรัสก็สามารถทำได้ เช่น กรณี Project Zero ที่ทดสอบความปลอดภัยแล้วพบว่าตัวป้องกันไวรัสเองมีช่องโหว่จำนวนมาก
เมื่อ WDA รันใน sandbox แล้ว โปรเซสตัวสแกนไวรัสจะกลายเป็น MsMpEngCP.exe
แยกออกมาจากตัวป้องกันไวรัสหลัก โปรเซสนี้จะอาศัยการป้องกันจากระบบปฎิบัติการหลายอย่าง เช่น Data Execution Prevention (DEP), Address space layout randomization (ASLR), และ Control Flow Guard (CFG) นอกจากนี้ยังจำกัดการเรียก system call นอกจากนี้ตัวโปรเซสสแกนไวรัสนี้จะมีหลายโปรเซส และการเลือกใช้โปรเซสซ้ำจะเป็นแบบสุ่มเสมอ ป้องกันการแฮกโปรเซสเหล่านี้ไปอีกชั้น
ตอนนี้ฟีเจอร์นี้สำหรับผู้ใช้ Windows Insider บางส่วนก่อน โดยไมโครซอฟท์จะดูผลที่ได้จากการทดลองวงจำกัด แต่ตัวฟีเจอร์สามารถเปิดได้เองทุกคน โดยตั้งค่าตัวแปรระบบ MP_FORCE_USE_SANDBOX 1
ได้เอง
ที่มา - Microsoft Secure
Comments
อ่านหัวข่าวแล้วงงๆ
น่าจะปรับเป็น "Windows Defender Antivirus รันใน sandbox แล้วเพื่อป้องกันการถูกโจมตี"
ปรับใหม่แล้วนะครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ผมก็เข้ามางง
เครื่องที่ติดตั้งต้องป้องกันไวรัส ?
ทำแบบนี้แล้วจะลดการใช้งาน hdd 100% มั้ยครับ
จุดเสียงหนึ่งของระบบ
จุดเสียง --> หมายถึงจุดเสีย หรือเปล่าครับ
น่าจะหมายถึงจุดเสี่ยง (risk/vulnerability) มากกว่าครับ
อ๋อ ใช่ครับๆ ตามนั้น