Elon Musk ซีอีโอ Tesla ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Recode มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ โดยมีเนื้อหาช่วงหนึ่ง เขาพูดถึงแอปเปิล โดยเริ่มจากการพูดว่าเขาต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผู้ซื้อมีความสุข ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้า Tesla กำลังทำสิ่งนั้นอยู่
เขาจึงเล่าต่อไปว่ามีสินค้าไม่มากนักที่ทำให้เราอยากซื้อแล้วมีความสุขด้วย ซึ่งแอปเปิลเคยทำได้มาเป็นเวลายาวนาน แอปเปิลเป็นบริษัทที่ผลิตโทรศัพท์ได้ยอดเยี่ยมมาก เขาเองก็ใช้ iPhone อยู่ แต่ปัจจุบันแอปเปิลไม่ได้ทำสินค้าให้คนตื่นเต้นจนรีบวิ่งออกไปซื้อมากแบบในอดีตแล้ว เขาไม่คิดว่าจะได้เห็นภาพคนแห่ไปจับจอง iPhone 11 กันมากขนาดนั้นอีก แต่การสร้างสินค้าให้คนตื่นเต้นจนอยากได้ตอนนี้ Tesla กำลังทำอยู่
ที่ผ่านมา Musk มีประเด็นพูดถึงแอปเปิลอยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่เคยบอกว่า Steve Jobs เป็นคนค่อนข้างงี่เง่า ไปจนถึงเกิดศึกชิงตัวพนักงานระหว่างกันจนเขาบอกว่าแอปเปิลเป็นได้แค่สุสานของ Tesla
ที่มา: Cult of Mac
Comments
ก็จริงนะ แต่พฤติกรรมผู้บริโภคเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เปลี่ยนรุ่นตามทั้งๆที่ของในมือก็ยังใช้งานได้ดี
+2080
+1
แกก็พูดถูกอยู่นะ
ถูกหลายส่วนครับ
ตอนนี้ด้วยเงื่อนไขหลายอย่างก็ถูกต้องตามนั้นเลยครับ ทั้งความที่ตัวเทคโนโลยีเองก็ไม่ได้มีออะไรให้ wow อีกแล้ว และช่องทางในการซื้อที่สะดวกมากมาย มี supply ที่มากเพียงพอ ไม่ได้ต้องแย่งชิง หรือรอนานๆ แบบแต่ก่อนแล้ว
ซึ่งถ้าจะพูดไปสิ่งที่ทำให้รู้สึก Wow ได้ในช่วง 5 ปีในวงการมือถือโดยรวมที่ผ่านมาก็แทบจะไม่มีเลย เท่าที่นึกออกก็มีแต่ระบบชาร์จเร็วเร็วเท่านั้นที่ยังรู้สึกว่าเอออันนี้มันคือนวัตกรรมจริงๆ
เห็นด้วยกับ Musk โดยเฉพาะ iPhone แต่ iPad Pro รุ่นใหม่ ว้าวอยู่นะ และยังคิดว่าเป็น Tablet ดีที่สุดในตลาดอยู่
ก็มีอยู่เจ้าเดียว(ที่เข้าท่า)นี่ครับ จะดีที่สุดก็ไม่แปลก (อันนี้ยอมรับ)
Android Tablet? เลิกหวังไปละ
ถ้าของฝั่งนี้ที่ดูเป็น tablet จริงๆน่าจะเป็น chrome os มากกว่าครับ หลังๆทำออกมาเข้าท่ามากโดยเฉพาะ pixel slate แต่ราคาแบบ ....
เจ้าอื่น (นอกจาก Samsung) มองว่า tablet คือตลาด budget เลยทำกันออกมาแต่แบบราคาถูก
ตามเมนท์บนครับ ผมว่ามีแค่ ChromeOS ที่พอจะสู้ได้
นั่นสิ ล่าสุดที่ว้าวสำหริบผมคือ Airpods นอกนั้นเฉยๆ
วันนี้รถยนต์ไฟฟ้าพึ่งเริ่มมันเลยมีอะไรให้ว้าว แล้วก็มีความสุขที่ได้ครอบครอง แต่วันนึงพอรถยนต์ไฟฟ้ามันอิ่มตัวมันก็จะน่าเบื่อแบบนี้ล่ะ
แต่โปรเจคเฮียเขาเยอะ พออันนึงอิ่มตัว ก็คงขยับไปทำอย่างอื่นได้เรื่อยๆ
ผมยังว้าวทุกครั้งครับ…เวลาเห็นราคาใหม่
ล่าสุดก็ Macbook air 2018 ... พอถึงสไลด์สรุปราคาก็…ว้าววววว
ว๊าว .... ไตไม่พอ
จริงมันคือราคาเดิมเมื่อสัก 5 ปีก่อนนะครับ สมัยนั้นได้แรม 4 GB ด้วยซ้ำ พอหลังจากนั้นก็ลดราคาๆ เรื่อยสเป็คก็กากๆ อยู่ จนออกอัพเดตชุดใหญ่
เครื่องผมซื้อมา 5 ปีก่อน และอัพแรม 8 GB ถอยมาราคาไม่ถึงสี่หมื่น
น่าจะจำราคาผิดรึเปล่าครับ?
ราคาคงไม่ผิดครับ ตอนผมอัพแรม แปด ก็บวกไปอีกราวสามพัน ปีคงคาดเคลื่อน
เครื่องผมรุ่น Mid 2012 คง 6 ปี ผมจำได้ผมหลังจากนั้น ราคาลงหวบเลยเหลือสามหมื่นกว่า
ผมขุดในเมล์ไม่เจอ invoice เจอแต่ iPad mini รุ่นแรก ที่ซื้อช่วงใกล้ๆ กัน สงสัยพลาดลบเมล์ไป
ส่วน statement ธนาคารก็ได้แค่หกเดือนย้อนหลัง
ของผม mid 2013 11” อัพ i7 ram 8 ssd 256GB 43,900 สังผ่านออนไลน์สโตร์
Confirm ครับ ว่าคือราคาเดิมเมื่อหลายปีก่อน
Macbook Air 42,900 ผมจำเลขนี้ได้
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ จริง แต่ก่อนกำตูด เดี๋ยวนี้กุมไต
ได้แต่บนบานไม่ให้ยี่ห้ออื่นแพงตามครับ
"แต่ก่อนกำตูด" Apple ที่ได้ แลกกับอะไรมา ถึงต้องกำตูด อู้ววววววววว
ต้องสูญเสียเอกราชไปเท่าไหร่ กว่าจะได้มา
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
กำตูดเพราะหมดตูดครับ
Gap ของประสิทธิภาพยุคนี้หนีไม่ห่างกันมาก ต่างจาก 3-5 ปีก่อน
ดังนั้น ความพึงพอใจของผู้ใช้ที่มีรุ่นเก่า ไม่ได้รู้สึกแตกต่างมาก
ถ้า Tesla ปล่อยให้สามารถควบคุมรถได้ทั้งหมดทางซอฟ์แวร์ผมก็จะว้าว เร็วๆนะผมเขียนโปรแกรมรอแล้ว ร้อนวิชาอยากลองของ
พอรถเกิดอุบัติเหตุจะไปว่า Tesla ก็ไมได้นะแบบนี้
เสียวเลย พอมีคนพูดแบบนี้ ขอให้ลองในสนามนะครับ 555+
ขอบคุณครับที่เตือน ผมเห็นมันโปรแกรมง่ายๆเอง เลยร้อนวิชา คงไม่เก่งถึงขนาด self-driving ครับ
สมัยนี้การทำสินค้าให้ว้าว โดยเฉพาะอุปกรณ์พกพานี่ ยากมากเลยนะ นอกจากว่าจะเปลี่ยนรูปแบบไปเลย เช่น โปร่งแสง เหมือนหนัง sci-fi และเชื่อว่า ทิม คุก เขาไม่ใช่เจ้าพ่อนวัตกรรมอีกแล้ว แต่เป็นเจ้าพ่อการทำยังไงให้กำไรสูงสุด หรือด้าน marketing มากกว่า
เพราะงั้นจะไม่ได้เห็นนวัตกรรมแบบนี้อีกนาน
เอาจากความรู้สึกมันก็อาจจะจริง แต่ดูจากตัวเลข เอาไตรมาสล่าสุดก็ขายได้ระดับ 46 ล้านเครื่องพอๆ กับของเดิม มันเข้าสู่ยุค goldilocks ของ iPhone แล้ว พฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนไปแล้วเพราะเราชินแล้ว มันเลยดูตื่นเต้นน้อยลง
เรื่อง FACE ID ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีมือถือแบรนด์อื่นๆทำตามได้ แบบ 100% ยังคงใช้ การตรวจสอบลายนิ้วมือกันอยู่ หรือไม่ก็สแกนม่านตา ไอ้ที่ว้าวจริงๆ คือชิปประมวลผล Apple A12X ใน iPad Pro ใหม่ ที่กำลังขยับความสามารถและประสิทธิภาพใกล้ชิป Core i7 ของอินเทล ในอีก 2 ปี MacBook Pro อาจจะใช้ชิปของ Apple เองก็ได้ ไม่ต้องง้อ Intel อีก การออกแบบชิปขึ้นมาใช้เองของApple A12Bionic นี่แหละคือนวัตกรรม และหัวใจสำคัญของอุปกรณ์ Mobile ทั้งหมดของ Apple
ผมเดาว่าปีหน้า สาย MacBook อาจเปลี่ยนยกแพงเลย เพราะ face ID นี่ล่ะ
ตอนดูพรีเซ้นตอน iphone x ผมเฉยๆนะ แต่พอมาได้ใช้จริงรุ่น xs เออมันว้าวจริง ยอดมากๆ ประสบการณ์การใช้งานดีมาก แบบใช้อล้วอยากบอกต่อเลยอะ
ราคามันว๊าวมากเลยครับ พอบวกกับ iPad Pro ยิ่งว๊าว ผ่อนต่อเดือนนี่ผ่อนรถได้เลย สรุปยังไม่ได้ซื้อครับ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
ผมนี้เกลียดบากจอมากเลย
แต่ปีนี้โดนไปสองตัว Xs Xr อ่านข่าวนี้แล้วเครียดเลย ผมควรจะเอาสองเครื่องนี้ไปขายแล้วรีบไปซื้อ Tesla ไม๊ 55
เข้าใจว่ามันเป็นสิทธิบัตรของ apple หรือป่าวครับ face id
ค่ายอื่นเลยทำตามไม่ได้
เรื่งเทคโนโลยี่ ไม่น่าจะไช่ครับ เพราะ microsoft ทำมาก่อนกับ kinect (และก่อนหน้านั้นกับ motion capture)
แต่ถ้าเป็นยี่ห้อ "face id" น่าจะเป็น Trademark อยู่
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เทคโนโลยีนา น่าจะคนละแบบนะครับ
ฝั่ง Apple ใช้ IR เหมือนกันแต่ปล่อยออกเป็นจุดตารางด้วย
ฝั่ง Microsoft ไม่แน่ใจใช้เทคนิคอะไรแต่มี IR ยิงด้วย ทำให้เป็นคนจริงๆ เคยเจอคนมาแชร์ลิงค์ใน blognone นานแล้วไม่ได้อ่านละเอียด
ต้องแบบ tech มาจาก PrimeSense ซึ่งเป็นต่นแบบของ kinect 1 ต่อมา apple ซื้อ บ. นี้ จากนั้น ทั้ง Ms และ Apple ก็พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ออกมาเป็น เป็น kinect 2 และ faceid
ขอบคุณครับ เจอบ่อย tech ฝั่งอิสราเอล แปลกๆ ล้ำๆ หลายตัว
+1
เข้าใจว่ามันเป็นสิทธิบัตรของ apple หรือป่าวครับ face id
ค่ายอื่นเลยทำตามไม่ได้
เรื่อง Face ID มีแหล่งอ้างอิงไหมครับ หรือคิดเอาเอง
FACE ID คงไม่มีค่ายอื่นทำได้แน่นอนครับ เพราะแอปเปิ้ลจดลิขสิทธ์ไว้
แต่ถ้าเป็นระบบสแกนใบหน้านี่ เดี๋ยวนี้มากันหลายเจ้าแล้วนะครับ
ผมชอบ FACE ID นะในรอบหลายปีที่ผ่านมา แต่เรื่องชิปรู้สึกเฉย ๆ อาจจะเพราะมันเกินความจำเป็นของมือถือแท็บเล็ตแล้ว แต่ถ้าไปแทน core i7 แล้วร้อนน้อยกว่าหรือเร็วกว่านี่จะว้าวจริงว่ามาได้ไง (แต่คงใช้กับ windows ที่เป็น os หลักไม่ได้อีก)
FACE ID น่าจะไม่ไมีใครทำได้ เพราะ เอเปิล น่าจะจดชื่อนี้ไปแล้ว แต่ ระบบสแกนใบหน้า ค่ายอื่นๆ น่าจะทำได้แค่ชื่อไม่เหมือนก้น่าจะได้ละ ระบบภายในต่างกันนิดหน่อย แต่ ที่ยังไม่ได้ทำกันจริงจัง เพราะน่าจะต้อง รอทางกูเกิลออกพวก api ก่อน แต่เหมือน จะไปทางสแกนนิ้วบนจอกัน นะ แอน ดรอย
face id มันดีขนาดนั้นเลยเหรอครับ ผมยังรู้สึกว่า scan นิ้วมือมันยังสะดวกสุดอยู่ดี ทุกวันนี้อยากให้ทำแบบ scan ใต้จอกันได้เยอะ ๆ
สำหรับผมโดยรวมถือว่าดีครับ แต่ก็จะมีในบางสถานการณ์ที่แสกนนิ้วมือสะดวกกว่าเวลาทำอะไรที่ต้องปิดหน้าปิดตาเช่นใส่หมวกกันน็อค
ส่วนตัวผมว่าถ้าเป็นระบบ fingerprint ในแบบ iPhone/iPad (อยู่ด้านหน้า/อยู่บนปุ่มโฮม) Face ID น่าจะสะดวกกว่าครับ
แต่ถ้าเทียบกับพวกอย่าง Pixel ที่อยู่ด้านหลัง ผมว่าแบบนี้สะดวกกว่า ผมสามารถล้วงไปหยิบในกระเป๋า แล้วปลดระหว่างเอาขึ้นมาได้เลย
อีกอย่าง ผมใช้ iPad Pro การจะปลดมันต้องกดปุ่ม Home ลงไป เมื่อเทียบกับใช้การสัมผัสของพวก Pixel คิดว่า Face ID น่าจะดีกว่า
TouchID มันวางไว้ด้านหน้ามันดีอย่างคือไม่ต้องยกเครื่องขึ้นมาแตะด้านหลังนะครับ สะดวกกว่าเวลาวางไว้
แต่ถ้ายกถือคงไม่ต่างกันมาก อันหนึงนิ้วชี้ อันหนึงนิ้วโป้ง
iPad/iPad Pro จริงๆ ต้องไปตั้งให้ ปลดล็อคแบบแตะนิ้วแล้วผ่านแล้วเข้าเครื่องเลยก็ได้นะครับ ไม่ต้องรอกด
home อีกที ผมไปตั้งแบบนี้ไว้สะดวกดี
ส่วน FaceID บนไอโฟนนี่ลำบากถ้าเอียงเครื่องแล้วหน้าไม่ขนานแนวเดียวกับเครื่องจะใช้ไม่ได้ไม่เหมือน iPad Pro ใหม่ กับถ้าวางมือถือ ต้องมองลำบากหน่อย อีกหน่อยต้องหาแท่นวางเครื่อง
ว๊าวมากเลยเรื่องราคาเปิดตัวแต่ละรุ่น
ราคาก็แพงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเขาบอกเองว่าแพงแค่ไหนก็ขายได้
อันนี้ผมไม่เชื่อเขานะ เห็นสาวกในไทย เปิดตัวก็ว้าวตลอด จอใหญ่ก็ว้าว ชาจเร็วก็ว้าว ราคาก็ว้าว ว้า ขายหัวใจแบบฟิวเจอร์แทนละกัน ไตไม่พอ
ถ้าเข้าไทยมาสัก 1ล้านลางๆถึงปลายๆนิผมซื้อจริงๆนะยอมเลย
ในแง่นวัตกรรมมันไม่ว้าวอยู่แล้วครับ ไม่ได้ว่านะแต่3-4 ปีมานี้นอกจากสแกนใบหน้าก็ไม่มีอะไรที่เป็นนวัตกรรมเลย ถ้าพูดถึงนวัตกรรมก็เห็นกันอยู่ว่าแอนดรอยแซงไปไกลพอสมควร
ว้าว............ ราคาแพงจังเลย 555555555
สายชาร์จนี่นวัตกรรมสุดละ แปป ๆ เปลี่ยนสีได้ จากขาวเป็นเหลือง
iPhone ปีนี้ไม่ว้าว ก็เพราะรูปทรงไม่เปลี่ยนนิ
ส่วนตัวว้าว iPad Pro ตรงเปลี่ยนเป็น USB-C กับ Mac Mini เพราะนึกว่ามันจะปิดสายการผลิตไม่ออกต่อแล้ว หลังจากหยุดมา 4ปี
ว้าว โทรศัพท์ผมโทรเข้าไอโฟนได้ด้วย
ทำสมาร์ทโฟน TESLA แข่งเลยมั๊ยเพ่
สาวก Android อย่างผม เมื่อก่อนยังต้องดู Apple Keynote
สมัยนี้ดูสรุปข่าวก็พอแล้ว 55
เลิกดูเหมือนกันครับ หลังๆ เหมือนขายตรง โดยลักษณะเดียวกัน Panos Panay แห่ง Microsoft ยังพรีเซนต์ได้น่าดูกว่าอีก คนเดียวขายทุกอย่างในตระกูล Surface
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
Keynote Apple เดี๋ยวนี้ดู ท่องบทมากเกินไป เหมือนไม่ได้ออกมาจากความรู้สึกจริง
จริงครับ สมัยก่อนโครตมันส์คนพรีเซ็นต์มีแต่พวกผู้บริหารดังๆ จิกกัดโครตแสบ แต่เดี๋ยวนี้มีหน้าใหม่ขึ้นพรีเซ็นต์ตลอดใครเป็นใครก็ไม่รู้ เคร็ก เฟเดอริกิ ที่พรีเซ็นต์มันๆหน่อยก็ไม่ไรู้หายไปไหนแล้วไม่ออกมาพรีเซนต์ และดูเหมือนครั้งนี้จะดันผู้หญิงขึ้นมาเป็นพิเศษ
และที่สำคัญคือช่วงหลังๆนี้ Jony Ive มาแต่เสียง ไม่เห็นใบหน้าและศรีษะอันโค้งมนของแกมานานแล้ว คิดถึงจัง
ว่าแต่ครั้งนี้แกได้บรรยายคลิปอีกมั๊ย
อยากเห็นคนไปดาวอังคาร ก่อนปี 2030 ครับ
เรื่องโทรศัพท์, notebook และ tablet ว่ากันทีหลัง
…
จริง ผมใช้ 6s อยู่ ไม่อยากเปลี่ยนใหม่เลย อันนี้มันก็ใช้ได้แล้วนะ แต่แปลกใจคนที่ไปต่อคิวซื้อโทรศัพท์
ผมไม่ได้ทำสินค้าที่ทำให้คนตื่นเต้นจนต้องออกมาซื้อ ผมทำสินค้าที่ทำให้คนจ่ายเงินแบบไม่ต้องคิดต่างหาก #แอปเปิ้ล/ทิมคุก/พนักงานแอปเปิ้ลไม่ได้กล่าวไว้
ผมคิดว่าสิ่งที่สร้างความว้าวที่สุดของแอปเปิลคือ iPhone รุ่นแรก
ในเชิง hardware มันไม่มีอะไรให้ว้าวแล้วมั้งครับ แต่มันไปว้าวในส่วนที่มองไม่เห็นมากกว่า
อย่างตอน iPhone X เปิดตัว ตัวเครื่องมันก็ดูดีระดับนึ่งแต่ก็ไม่ได้ว้าวอะไรมาก แต่พอมาใช้จริงผมกลับว้าวไอ้ตัว gestures มันมากกว่าเทียบกับการใช้ปุ่มโฮมมันเหมือนยกระดับขึ้นไปอีกขั้นเลยครับ ดูลื่นไหลขึ้น เป็นธรรมชาติมากขึ้นเยอะ
จริงครับ เคยลองทั้ง X และ 8 ชอบ X มากกว่าเพราะไหลลื่นดีว่า ไม่ต้องชะงักไปกด home
ส่วนอันใหม่ ว้าว ไอแพด เพราะมันแรงเทียบเท่า CPU ตัวหนึ่งละ คิดว่าปีหน้า น่าจะได้เห็น MacBook ใช้ชิปตัวเอง
ถ้า apple ทำให้ chip ARM แรงกว่า Intel ตัวท๊อปได้นี่จะดีใจมาก เพราะ intel จะได้เลิกกั๊กซักที รอบนี้ก็ต้องรอ AMD กระทุ้งถึงได้ขยับตัว