ในงาน Android Developer Summit ที่กำลังจัดขึ้น Google ได้พูดถึงประโยชน์ของ Dark Mode หรือ Dark Theme ในแอปที่ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ลงได้มากถึง 60% พร้อมยอมรับความผิดพลาดที่ผ่านมา ที่ผลักดันการดีไซน์แอปที่เน้นสีขาวเป็นหลัก
ตัวอย่างที่ Google ยกมาคือการเล่น YouTube บน Pixel (หน้าจอ AMOLED) ที่ความสว่าง 50% ในโหมดปกติ (สีขาว) จะใช้พลังงานไฟฟ้า 193mA ส่วนใน Dark Mode ใช้พลังงานที่ 185mA (ลดลง 4%) แต่เมื่อเปิดความสว่างสุด โหมดปกติจะกินพลังงานที่ 343mA ขณะที่ Dark Mode กินพลังงานแค่ 197mA (ลดลง 43%) หรือใน Google Maps ที่ความสว่างสุด โหมดปกติกินพลังงาน 250mA ส่วน Night Mode กินพลังงานแค่ 92mA น้อยลงถึง 63%
ปัจจัยสำคัญก็คือแพแนลของ OLED ที่ไม่มีการปล่อยแสงออกมาเมื่อแสดงผลสีดำ ทำให้ใน Dark Mode ตัวหน้าจอกินพลังงานลดลง รวมถึงน้อยกว่าหน้าจอ LCD ใน iPhone 7 ที่เม็ดพิกเซลยังต้องแสดงผลสีดำ และถูกยกขึ้นมาเทียบว่ากินพลังงานแทบไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะโหมดปกติหรือ Dark Mode
แน่นอน Google ยอมรับผิดในเรื่องนี้หลังไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้ผลักดันแนวทางการออกแบบที่เน้นสีขาวเป็นหลัก นับตั้งแต่การเปิดตัว Material Design จึงเป็นไปได้ว่า Google น่าจะทยอยออก Dark Mode ให้กับแอปของตัวเองมากขึ้น รวมถึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการออกแบบแอปในอนาคตด้วย
ที่มา - SlashGear, 9to5Google
Comments
ดีงาม เกลียด UI สีขาวเป็นชีวิตจิตใจ
เพิ่งจะมาคิดได้นะ กี่ปี
ผมคนนึงเกลียดสีสว่าง ยิ่งเวลาเขียนโค้ดนี่ยิงไม่สบายตา
ดี ต่อไปจะได้ไม่ต้องปรับความสว่างหน้าจอต่ำสุด จะได้เห็นชัดโดยไม่กลัวแบตหมด
คือตอนนั้นมือถือ OLED มันยังมีไม่มาก พื้นดำหรือขาวก็ไม่ช่วยอะไรมากมาย
สมัยนี้มันก็มีเยอะขึ้นก็อาจจะช่วยมั้ง
+1
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เห็นด้วยครับ
ชอบขาวมากกว่า
อยากให้ทำ Stand By 2 Sim แบบ ประหยัดแบต ด้วยครัช ><
ผมก็ชอบ dark mode
..: เรื่อยไป
same
รอ Blognone ทำ Dark Mode ครับ ^_^
+1
+1 ด้วยคน อยากได้มาก
+1
อ่านข่าวสาย Dark
https://github.com/darkreader/darkreader
For Safari มีไหมครับ
เหมือนจะมีนะครับ
https://darkreader.org/safari/
ขอบคุณครับ
https://itunes.apple.com/th/app/nightlight-for-safari/id1429386865?mt=12
อันนี้ฟรีครับ เผื่อใครสนใจ
อยากอ่านข่าว เขียนข่าวเอง อยากได้ทีมดำ ก็ต้องทำเอง
ดึง xml ไปทำแอพขายเลย
+1
จริงๆ ถ้าใช้พวก reader mode ของเบราว์เซอร์แทบทุกตัว (ยกเว้น Chrome) ก็มีธีม Dark Mode ให้อยู่แล้วนะครับ ใช้แก้ขัดไปก่อนได้
ใน Safari เปิดโหมดนั้น มันอ่าน comment ไม่ได้ครับ หลายข่าวเนี่ย อยากอ่าน comment มากกว่าข่าวอีกนะครับ ?
แบบนั้นคงต้องใช้พวก extension ช่วยเปลี่ยนหน้าเว็บกันเองครับ
material design เวลาเป็นสีขาวมันสวยหรูจริงๆ โดยเฉพาะ MD 2 ที่เปิดตัวปีนี้มันดีงามมาก แต่พอเป็น dark mode มันกลับดูยากดูมึนๆ (อย่างว่าหัวใจของดีไซน์มันคือการเล่นแสงเล่นเงา) ไม่งั้นคงต้องรื้อแนวทางการดีไซน์ใหม่
มีทางเลือกก็ดีแล้วแหละ บางแอพผมใช้ขาว บางแอพใช้ดำ ตอนที่ Google ดันมาทีเรียลมากๆ Dev บางคนก็ทำ Dark mode ให้เลือกอยู่แล้ว
ผมชอบมากไอดาร์กโหมดเนี้ย ผมว่ามันถนอมสายตามาก
เมื่อวัยเด็กๆ ผมเคยอ่านบอร์ดประมูล และในเวลาช่วงเดียวกันนั้นก็มีบอร์ดอย่างพันทิป
ผมรู้สึกชัดเลยว่า การอ่านพันทิปที่มีพื้นสีเข้มอักษรสีสว่าง เทียบกับ สีปรกติอย่างประมูล
บอร์ดพันทิปอ่านได้ง่าย สบายตากว่ามาก
ผมยังคิดเลยว่า เปเปอร์วิทยาศาสตร์ หน้าจอเขียนโค้ด อะไรก็แล้วแต่ที่อ่านบนจอ
น่าจะเป็น Dark mode ให้หมด
ในมุมมองผม ไอเอกสารแบบปกติที่มีพื้นสีสว่าง มันเป็นแค่สิ่งดั้งเดิมที่เรา
ที่มาจากข้อจำกัดด้านหมึกพิมพ์ก็เท่านั้น มันไม่ได้ดีจริงๆต่อสายต่อ
แต่มันดีต่อปริมาณหมึกที่ใช้พิมพ์
เห็นด้วยครับ โดยเฉพาะย่อหน้าสุดท้าย
ใครๆ เขาก็รู้ตั้งแต่จอ OLED กำเนิดออกมาแล้วนะ มันเป็นข้อดีขอจอตั้งแต่เปิดขายเลย
แต่มี Dark Mode สำหรับ LCD ทั่วไปได้เปล่า สีน้ำเงินเข้มๆ แบบ Twitter กำลังพอดี ไม่ต้องมือเกิน
ชอบมาก พื้นขาวมันแสบตากว่าพื้นดำเยอะเลย
รอ blognone dark mode อยู่นะ
Dark Theme, Everything (เลียนแบบ MKBHD)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
Dark theme บน LCD ผมว่าข้อเสียเยอะกว่าข้อดีนะครับ เพราะแสงที่ออกมามันเท่าเดิมไม่ว่าพื้นจะดำหรือขาว พอเป็นพื้นดำม่านตาเราจะขยายเพิ่มเพื่อรับแสงมากขึ้น กลายเป็นว่าแสงเข้าตามากกว่าเดิมทำให้สายตาเสีย
แต่สำหรับ OLED ที่จอมันดำสนิทจริงๆ อันนี้ค่อยโอเค
เข้าใจผิดแล้วครับ lcd ที่เราเห็นดำๆนั่นก็เพราะผลึกคริสตัลมันไป block แสงไว้ครับ
ผมไม่เห็นด้วยนะ dark theme ไม่ได้ดำสนิท(#000000)นะ เช่น youtube
อีกอย่าง dark theme ดำสนิทต่างหากที่ทำให้ม่านตาเราขยายเพื่อรับแสงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ oled
สีดำ = ไม่มีแสงสะท้อนเข้าตาครับ
แต่จอ lcd คือมันบังแสงได้ไม่หมดก็เลยเห็นว่ายังมีแสงบ้าง ไม่ได้ดำสินท
เห็นด้วย นอกจากประหยัดแบตแล้วผมว่ามันสบายตากว่าโทนขาวๆสว่างๆมาก โปรแกรมออกแบบทั้งหลายในปัจจุบันส่วนใหญ่ก็ใช้โทนมืดๆกันทั้งนั้น
ประมาณสักสิบปีก่อน ช่วงที่มีกระแสลดโลกร้อน
ฮิตกันเปลี่ยน Wallpaper ให้เป็นสีดำ เพื่อประหยัดพลังงาน
ก่อนหน้านี้แอนดรอยด์อยู่ในจักรวาล DC มานาน (มืดแทบทุกแอพ) จนได้ Material design มากระชากเทรนด์กลับมาขาวกับเค้าบ้าง
ผมอยากให้รองรับทั้งขาวและดำได้ทุกแอพได้ตั้งแต่แรกมากกว่า เพราะชอบสีขาวมาก ทำให้มือถือดูสดใสไม่ดาร์คเกิน แต่ก็อยากได้ธีมมืดตอนเล่นมือถือก่อนจะนอน
เห็นใจ developer บ้างครับ ทำสองธีมนี่เท่ากับเพิ่มงานเท่าตัวเลยล่ะ
เอ่อ รู้ตัวซะทีก็ดี เสียสายตา พี่ M$ อีกคน (เพิ่งจะเพิ่มเข้ามา)
ยุคนี้มันไร้ซึ่งไอเดียกันจนเกือบจะหมดแล้ว ใครทำอะไรก็เลียนแบบกันไปหมดเลย
จริงๆ แล้วเป็นเรื่องดีนะครับ ยุคแห่งการแบ่งปัน ใช้ฝั่งไหนก็มีของดีๆ เต็มไปหมด ถ้าไม่แบ่งกันใช้ค่ายนึงได้ dark theme ใช้อีกค่ายนึงได้เสถียร ใช้อีกค่ายนึงได้ใช้ง่าย เฮ้อ
ทีนี้ พอมันมีข้อเสียมากกว่าข้อดี
มันก็เลยแบ่งปันข้อเสียกันเต็มไปหมดเลยไงครับ
ไม่มีการคิดต่าง เห็นต่าง
มันคือการเรียนรู้และวิจัยตลาดนะครับ
ผลการวิจัยมันมายังไง ก็ต้องทำไปตามผลวิจัยนั้น ๆ
ซึ่งมันจะมีส่วนต่างกันอยู่ แม้ว่าจะเป็น Dark Theme แต่ว่าแต่ละคนก็จะมีจุดต่างกันไป แสดงผลต่าง ๆ กัน
การคิดต่าง ไม่ใช่ว่าต้องไปคนละทางเสมอไปนะครับ
เหมือนกันทำงาน คนที่คิดต่าง ก็ยังร่วมงานทำโปรเจ็คเดียวกันได้ ขอแค่ภาพรวมเหมือนกัน
แต่มีมุมบางอย่างที่ต่างออกไป
อย่างกรณีนี้ แต่ละบ.ก็มีจุดประสงค์ในภาพรวมคือ ทำผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าพึงพอใจมากที่สุด
แต่ก็จะมีคิดต่างกันออกไป เพียงแต่ภาพใหญ่ที่ชัด ๆ เป็นทิศทางหรือเป็นเทรนด์เลยคือ ผู้ใช้ส่วนนึง (ซึ่งเยอะอยู่เหมือนกัน) ชื่นชอบการใช้ Dark Theme และมันช่วยประหยัดแบต (เพราะ ผู้ใช้งานอุปกรณ์พกพา ต้องการเครื่องที่น้ำหนักเบา แต่แบตอึด) ถ้าไม่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพแบตได้ ก็ช่วยลดการใช้แบตลงก็ยังดี แล้ว Dark Theme มันก็ช่วยได้เนี่ยแหละครับ (เพราะ OLED โดยแท้)
ในอนาคต ถ้ามีข้อมูลอะไรมาสนับสนุนว่า Dark Theme ไม่ดี ก็คงต้องเปลี่ยนกันไปแหละครับ
จริง ๆ MS เพิ่งเพิ่มตัว File Explorer ที่เป็น dark theme นะครับ ที่เหลือพี่แกนำหน้าตั้งแต่สมัย Zune กับ WP7 แล้วครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
คือ File Explorer หรือ Explorer เดิม มันก็ไม่ได้ขาวแท้ๆ ซะทีเดียวนะครับ มันออกเทาๆ และก็ยังอนุญาตให้เราปรับแต่งสีเอาเองได้บ้าง และตอนนั้นก็รองรับ Shell แบบอื่นได้ หรือจะ mod ก็ยังได้ (ตรงจุดนี้เข้าใจว่า เพื่อความปลอดภัย เลยทำให้แก้ไขไม่ได้อีกเลยในเวอร์ชันหลังๆ)
แต่ตั้งแต่ Windows 8 เป็นต้นมาก็อย่างที่เห็น.....
จนพึ่งมาเพิ่ม dark theme ล่าสุด
ผมก็ไม่ได้ชอบ ดำสนิท อะไรนักหนาหรอกครับ แต่ก็ไม่ใช่ขาวโพลนไปทั้งหน้าจอ นั่งมองจอใหญ่ๆ เสียสายตามาก
ผมไม่ค่อยชอบสีขาวเหมือนกัน เปิดทีไรแสบตาทุกที
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ส่วนตัวผมว่า bright theme มันอ่านตัวหนังสือเห็นชัด เห็นง่ายกว่านะ แต่มันจะมีปัญหาแสบตาถ้าสภาพแวดล้อมไม่สว่างพอ ก็เลยใช้ dark theme เป็นหลัก เพราะสภาพแวดล้อมไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไหร่