ตำรวจทางหลวงแคลิฟอร์เนียร์หยุดรถ Tesla บนทางหลวง 101 โดยคนขับคือ Alexander Samek ถูกจับข้อหาเมาแล้วขับ
เจ้าหน้าที่พบรถ Tesla ของ Samek ขับมาด้วยความเร็ว 70 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 112 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อเจ้าหน้าที่ตีรถขนาบข้างพบว่าคนขับกำลังหลับอยู่ จึงตีรถประกบหน้าหลัง และรถคันหน้าค่อยๆ ลดความเร็วลงจนหยุด เพื่อให้ Tesla หยุดรถตาม ระยะทางจากจุดที่พบรถครั้งแรกรวม 11 กิโลเมตร ระยะเวลา 7 นาที
เจ้าหน้าที่ระบุว่าเมื่อรถหยุดกลางทางหลวงแล้ว ต้องปลุก Samek ให้ออกมาจากรถ จากนั้นจึงขับออกไปยังปั๊มน้ำมันใกล้เคียง และทดสอบความมึนเมา หลังจากนั้น Samek ก็ถูกจับ
การใช้ฟีเจอร์ Autopilot ของรถ Tesla เกินความสามารถเพิ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุจนมีคนเสียชีวิตเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
องค์กรเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ร้องเรียนคณะกรรมการการค้าสหรัฐฯ ให้สอบสวนการโฆษณาของ Tesla ว่าเป็นการหลอกลวงและไม่เป็นธรรม ขณะที่ตัว Tesla เองเปลี่ยนโฆษณาในจีนเป็น "ระบบช่วยขับ" แต่ Tesla เองก็ยังปล่อยอัพเดตฟีเจอร์ "ขับขี่ด้วยตัวเองเต็มรูปแบบ" (full self-driving) ออกมาเมื่อกลางปีที่ผ่านมา
ที่มา - San Francisco Chronicle
ภาพโดย Blomst
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
"แต่ Tesla เองก็ยังปล่อยอัพเดตฟีเจอร์ "ขับขี่ด้วยตัวเองเต็มรูปแบบ" (full self-driving) ออกมาเมื่อกลางปีที่ผ่านมา"
อันนี้คือเป็นการให้ลูกค้าสามารถซื้อฟีเจอร์นี้ได้ แต่ตอนนี้ยังใช้ไม่ได้ เป็นฟีเจอร์ในอนาคต ไม่รู้จะมาตอนไหน หรือจะมาจริงๆหรือเปล่า เพราะรถเทสลามีแต่กล้องมอง ไม่มีเซนเซอร์ LIDAR เหมือนเจ้าอื่น
แต่กล้องพี่แกนี่เยอะจัดเลยนะ กล้อง 8 ตัว บวกเรดาร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางอีกหนึ่ง
น่าสนใจครับ
Edit: ผมลองไปค้นของ Waymo มาครับ https://medium.com/waymo/introducing-waymos-suite-of-custom-built-self-driving-hardware-c47d1714563
ตัวระบบขับเอง มันก็ทำงานดีอยู่แล้วนี้ครับ มันเหมาะกับสถานการแบบนี้อยู่แล้ว ดีกว่าปล่อยให้คนเมาขับเอง ปล่อยภัยกว่าเยอะ
หรือถ้าเทียบกันแล้ว กับคนขับเองต่อให้คนขับสภาวะปกติ ผมคิดว่า ระบบอัตโนมัติ น่าจะปลอดภัยกว่าแค่สื่อเล่นข่าวกันเยอะมาก
ปีหนึ่ง หรือ ครึ่งปี จะมีข่าวอุบัติเหตุ แต่คนขับเองผมว่ามีทุกวัน เราเห็นจนชิน
ถ้าระบบมันดีพอ ควรเตือนว่าคนขับไม่ได้บังคับรถแล้ว และจอดลงช้าๆ ครับ ไม่ใช่วิ่งต่อ
(แต่กรณีนี้ยังไม่มีรายละเอียดว่าทำไมรถมันจึงวิ่งไปเรื่อยๆ)
lewcpe.com, @wasonliw
เห็นด้วยทั้งสองแบบครับ ระบบความปลอดภัยทำให้ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการหลับใน และก็ควรปลอดภัยมากขึ้นไปอีกโดยการหาที่จอดที่ปลอดภัยได้ยิ่งดีครับ หลับ ๆ อยู่โดนรถบรรทุกเสยท้ายก็ไม่สนุกนะครับ
อันที่จริงเป็นข้อบังคับของรถไร้คนขับระดับ 4-5 เลยครับ ถ้ามีเหตุการณ์ที่ทำให้รถไม่สามารถไปถึงที่หมาย รถต้องสามารถบังคับตัวเองไปจอดในจุดที่ปลอดภัยได้โดยไม่ต้องพึ่งพาคนขับ (เรียกว่าระบบ Fallback) แต่ของ Tesla นี่น่าจะระดับ 2 เองมั้ง
จำได้ว่าของ Tesla จะอยู่ที่ระดับ 2.5 ครับ จับวัตถุขวางทางและหลบได้ ตอบสนองต่อสภาพการณ์หลายอย่างได้ แจ้งปัญหาของระบบขับอัตโนมัติและเตือนให้ขับเองได้
แต่ที่ว่ามานี่ Tesla ทำไม่สุดสักอย่างเลยครับ
จริงๆ มันมีเซ็นเชอร์ที่พวงมาลัยครับ ไม่จับพวงมาลัยระยะหนึ่งแล้วรถจะเตื่อนก่อนจอดจัวเอง (กลางถนนนั้นแหละ)
... เดาว่าคนขับเมาแต่ยังกำพวงมาลัย ตัวรถเลยไม่รู้เรื่อง
ปล. ตามจริงนะ ปล่อยไปเรื่อยๆ Autopilot ควรจะขับดีกว่าคน ถึงตอนนั้นก็น่าจะ ok ทีจะปล่อยให้รถขับตัวเอง ส่วนคนก็ทำอย่างอื่นไป
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
แค่ประคองพวงมาลัย หรือเอานิ้วก้อยเกี่ยว ตัวรถก็ไม่เตือนให้จับพวงมาลัยและยกเลิกระบบแล้วครับ
แต่ถ้าไม่จับเลย สักพักระบบก็จะยกเลิก
ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเจ้าของรถจริงๆ ว่าจะรับความเสี่ยงขนาดไหน คนซวยคือเพื่อนร่วมถนน
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
เคสนี้ 112 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ก็ยังปลอดภัยนะ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เท่าที่ผมสังเกต คนขับรถนี่มีการขยับพวงมาลัยแทบจะตลอดเวลานะครับ มีจังหวะเว้นว่างสั้นมาก ๆ ไม่กี่วินาทีก็ต้องมีการขยับแล้ว ลองไปสังเกตดูครับ เอาจริง ๆ ลองขับแบบไม่ขยับพวงมาลัยเลยก็คงจะได้ไม่กี่วินาที..
จริง ๆ แค่ไม่มีการขยับเกิน 3 วินาทีก็สั่นพวงมาลัยเตือนได้แล้ว นานกว่านั้นก็เพิ่มระดับการเตือนขึ้นไปเรื่อย ๆ ได้ครับ
หรือจะใช้ร่วมกับเซนเซอร์การเปลี่ยนตำแหน่งการจับพวงมาลัยก็น่าจะโอเคครับ
Model s รู้สึกจะไม่ใด้เช็กการขยับมือ แต่เช็กการจับนะครับ ส่วน model หลังๆ ก็มีการปรับปรุงเรื่อยมา
... มาดังอีกทีก็ตอนเจอ model 3 มีกล้องอยู่ตรงกระจกมองหลัง
ส่วนตัวคิดว่า คนเมาขับรถ 112 แล้วยังปลอดภัย แปลว่าระบบมันทำงานใด้จริงนะครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
คนเมาขับเองคงไม่ดีแน่ๆ ครับ แต่ระบบนี้อาจทำให้คนเมา "ชะล่าใจ" ว่าใช้ระบบนี้ช่วยขับก็ได้ ทั้งที่จริงแล้วไม่ควรขับเลยครับ
ผมว่ารถควรทำแบบโดรน กำหนดพื้นที่ว่าตรงไหนสามารถเปิด Autopilot ได้ และ Autopilot จะเตือนหนักๆเมื่อเข้าเขตที่กำหนดเพื่อให้คนขับตื่นขึ้นมาควบคุมรถด้วยตนเอง
ในทางกลับกันถ้าคนเมาขับเองหละ เอ๊ะ แต่คนเมาต้องไม่ขับรถนะ
อยากให้มีระบบนี้นะ แม้จะแก้ที่ปลายเหตุ โดยเฉพาะในไทย จะได้มีรถเคารพกฏกันมากขึ้น เน้นย้ำว่า รถเคารพกฏ ไม่ใช่คนนะ เนื่องจากคนไทยทำอะไรตามใจคือไทยแท้ มีกฏ=แหก ขนาดเคสขับรถบนฟุตบาท พกมีดจะแทงตำรวจ ยังมีเลย
อันนี้เรียกเมาแล้วขับ รถขับไปเอง ฮ่าๆ
สมมติไม่เมาแต่หลับเฉยๆจะโดนข้อหาอะไรเนี่ย
ขับรถโดยประมาท แต่เห็นเมกาบางรัฐมีกฏหมาย 'หลับใน' นะครับ โดนคล้ายๆเมาแล้วขับ
มาบ้านเรามองไม่เห็นคนขับหรอกครับ ฟิลม์ทึบ แถมปรอท
ถ้าเป็น autopilot จริงๆ มันควรจะมีไฟสัญญาณสำหรับให้คนอื่นเห็นหรือเปล่าว่า คันนี้ใช้ระบบ autopilot อยู่
อย่างน้อยผมก็จะไม่ขับใกล้ๆรถคันนี้
เริ่มจากเปลี่ยนชื่อ autopilot ให้มันเท่ากับความสามารถจริง ๆ ของมันก่อนครับ