Philip Lowe ผู้ว่าแบงค์ชาติออสเตรเลีย (Governor of Reserve Bank of Australia) กล่าวเปิดงาน Australian Payment Summit โดยพูดถึงความก้าวหน้าของการจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์ในออสเตรเลีย ที่มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว อัตราการถอนเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็มลดลงเหลือเพียง 25 ครั้งต่อปี จากเดิมสูงถึง 40 ครั้งต่อปี ขณะที่การใช้เงินอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกือบ 500 ครั้งต่อปี
เขายังพูดถึงปัจจัยสำคัญ 3 ประการต่อการใช้งานเงินอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่
- ฟังก์ชั่น: หากการใช้งานเงินอิเล็กทรอนิกส์มีฟังก์ชั่นไม่มากพอคนก็จะไม่ใช้งาน เช่นบัตร contactless ที่ช่วงแรกการใช้งานต่ำมาก แต่พอมีจุดรับมากพอก็มีการใช้งานเพิ่มอย่างรวดเร็ว ขณะที่ระบบจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์ของออสเตรเลียมีระบบ New Payment Platform (NPP) สำหรับโอนเงินทันที และ PayID สำหรับโอนเงินผ่านอีเมลและเบอร์โทรศัพท์แบบเดียวกับพร้อมเพย์ของไทยแล้ว
- ความปลอดภัย: เขาระบุว่าหากมีอัตราการฉ้อโกงสูงคนก็จะไม่มั่นใจ และที่ผ่านมาก็ยอมรับว่าปัญหาการฉ้อโกงในกรณีจ่ายเงินออนไลน์แบบไม่แสดงบัตร (card not present) มีอัตราสูงมาก สวนทางกับการจ่ายเงินต่อหน้าที่มีการใช้ PIN และอัตราฉ้อโกงลดลงอย่างรวดเร็ว
- ความน่าเชื่อถือ: เขาระบุว่าคนยังต้องถือเงินสดเพราะไม่สามารถมั่นใจได้ว่าเมื่อไหร่ระบบธนาคารจะใช้งานไม่ได้ ทางแบงค์ชาติออสเตรเลียสำรวจประชาชนว่าทำไมจึงถือเงินสดเมื่อปี 2016 และกว่าครึ่งระบุว่าเผื่อฉุกเฉินเท่านั้น เขายอมรับว่าระบบการจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์ยังไม่เสถียรพอ ระบบของ NPP เองก็เคยล่มไปหลายชั่วโมง อย่างไรก็ตามเขาจะดูว่าทุกคนในระบบจ่ายเงินสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือของระบบได้หรือไม่ หากไม่ได้ ก็ต้องออกกฎกำกับดูแล
นอกจากนี้เขายังระบุถึงความสำคัญของการแข่งขันที่ตลาดออสเตรเลียสามารถกดค่าธรรมเนียมการรับเงินให้ต่ำลงได้มาก จนตอนนี้การรับบัตรเครดิต Visa/Mastercard ในออสเตรเลียมีค่าธรรมเนียมเพียง 0.8% เท่านั้น ขณะที่ผู้ค้าในสหรัฐฯ เสียค่าธรรมเนียมถึง 2.2%
ที่มา - Reserve Bank of Australia
Comments
เด็ดมาก เรื่องค่าธรรมเนียมนี่แหละ แล้วก็ประเด็นเรื่องระบบจะล่มเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ดูมีความรู้สมฐานะเลยทีเดียว