รายงานจาก Senate Intelligence Commission เผยว่า รัสเซียนอกจากจะใช้ Facebook เป็นช่องทางเผยแพร่ข่าวปลอมให้กระทบการเลือกตั้งสหรัฐฯ แล้ว ยังใช้เกม โปเกมอน โก ด้วย โดยกลุ่มเป้าหมายคือผู้เล่นสัญชาติ แอฟริกัน-อเมริกัน
กลุ่มผู้เล่นที่เป็นกลุ่มเป้าหมายจะถูกกระตุ้นให้เปลี่ยนชื่อผู้เล่นเป็นชื่อเหยื่อความรุนแรงที่เจ้าหน้าที่เป็นผู้กระทำ ส่วนใหญ่เป็นคนผิวดำ ที่ครั้งหนึ่งจุดติดจนเป็นกระแส Black Lives Matters หรือกระแสที่ต่อต้านความรุนแรงอันเกิดจากอคติทางชาติพันธุ์ของคนผิวดำ
เมื่อผู้เล่นเริ่มไว้วางใจและเชื่อใจ บัญชีผู้เล่นที่มาแทรกแซงจะกระตุ้นให้ผู้เล่นที่เป็นกลุ่มเป้าหมายไปโหวตพรรคอื่น ไม่ให้โหวตให้ฮิลลารี คลินตัน ด้วยเนื้อหาเชิงว่า "คนผิวดำไม่ต้องลงคะแนนให้ฮิลลารีเพราะเธอเป็นคนโกหก! คนผิวดำมีความฉลาดพอที่จะเข้าใจได้ว่าฮิลลารีไม่สมควรได้รับคะแนนเสียงของเรา!" และ "หยุดการเป็นทาสของพรรคเดโมแครต!" เป็นต้น
ภาพจาก Facebook Pokemon Go
มีจุดน่าสังเกตอีกอย่างคือ คำพูดที่ผู้แทรกแซงใช้จะไม่ถูกต้องตามหลักภาษาอังกฤษ หรือมีการใช้ผิดหลักไวยากรณ์อย่างเห็นได้ชัดเกินไป
เรื่องนี้ CNN เคยสืบสวนแล้วพบครั้งหนึ่งแล้ว แต่ครั้งนี้มีข้อมูลอ้างอิงจากงานวิจัยด้วย โดยแคมเปญขบวนการข่าวปลอมรัสเซียเจาะจงใช้ Facebook, Twitter, Google เป็นหลัก เกมโปเกมอน โก เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น
ที่มา - Fortune
Comments
โอ้ย ถ้ามันง่ายขนาดนั้น ในไทยเราโพส บอกว่า อย่าไปเลือกพรรค (ใช่ชื่อที่เราเกลียดตรงนี้) ลง Facebook ทุกวัน แล้วพรรคที่เราเลือก ก็ชนะเลยสิ ใช่มั้ย ?
งานวิจัย prove มาระดับหนึ่งแล้วครับ ถถถถ
ต้องดูด้วยน่ะครับว่าที่บอกว่างานวิจัยน่ะ มาจากไหนเชื่อถือได้ขนาดไหนด้วยเหมือนกัน
เหมือนการสะกดจิต เห็นทุกวันฟังทุกวันมันจะค่อยซึมซับไปเอง เหมือนเดินเข้าห้างเขียวใหญ่ก็เจอเพลงขายข้าวสารขนาดไม่สนใจยังฟังจนคุ้นหู
ข้าว 100,000 D ดีดี๊ดี
มีเส้นหมี่มาลองให้ชิม
จะไปฟันแบบนั้นคงไม่ได้อะครับ ผมว่าบริบททางการเมือง วัฒนธรรม และสังคมเราค่อนข้างต่างจากเขา
ของไทยก็ทำมาตลอดนะครับ
ลองไล่ย้อนดูก็ได้ คนไม่รู้ตัวกันด้วย ว่าโดนปั่น
และคนเข้าใจว่า มันเป็นเรื่องจริง และ เกลียดคนที่โดนปั่นเข้ากระดูก ถึงสื่อต่างประเทศจะลงข่าวตรงข้ามกับสื่อไทย ก็ไม่มีใครเอะใจ หรือ คิดเพิ่มซักนิด
ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน ก็โดนหมด ไม่เว้นกระทั่งคนใน blog นี้
แต่ก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าอะไรถูกหรือผิด แต่ถ้ามีสติบ้าง
หวังว่าจะดูสื่อ แล้ว ดูความจริง และ ข่าวจากต่างประเทศมาประกอบ
แล้วจะรู้ว่า สื่อไทย มันปั่นขนาดไหน
ในยุคก่อนจะเกิด กปปส. เมื่อครั้งเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มีคำพูดว่า "ไม่เลือกเราเขามาแน่" และระดมโพสต์ข่าวด้านลบของพรรคเพื่อไทย และทักษิณ และยิ่งลักษณ์ บลาๆๆๆ
ทำให้คนกทม.ส่วนนึงเปลี่ยนใจไปเลือกผู้สมัครจากพรรคตรงข้ามพรรคเพื่อไทย กลายเป็นว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งนั้น ไม่ได้เป็นการเลือกคนที่น่าจะเข้ามาบริหารได้ดี แต่เป็นการเลือกเพราะความเกลียดความกลัวว่าพรรคเพื่อไทยและทักษิณจะกลับมา
แล้วช่าวกทม.ก็ได้ผู้ว่าฯ คนดังกล่าวมา อิอิอิ ผมว่าชาวกทม.หลายท่านเรียนรู้จากการเลือกตั้งครั้งนั้น ว่าการกระทำจาก fear driven actions มักได้ผลลัพท์เป็นสิ่งที่กลัวในที่สุด
ไม่มีทางเกิดการเรียนรู้หรอกครับ เพราะว่านั่นมันไม่ใช่ครั้งแรก ครั้งสมัครได้รับการเลือกตั้ง คนก็ vote ไม่เอา สุดารัตน์ อภิรักษ์ ก็ชนะปวีณา ทั้งคู่คือ representative ของ ทรท/พท. ณ ตอนลงแข่ง ผมว่าเลือกตั้งอีก มันก็ออกมารูปแบบเดิมคือเลือกคนที่ตัวเองเกลียดน้อยกว่า เหมือนเดิม :(
ผมเชื่อว่าคนเป็นคนละกลุ่มกันครับ ที่สำคัญคือการเข้ามาของ 3g, 4g ช่วยให้ประชาชนเห็นภาพในอดีตของตัวเองได้ชัดยิ่งขึ้น เข้าถึงข้อเท็จจริงได้ง่ายยิ่งขึ้น
ซึ่งเป็นดาบสองคมอ่ะนะ เพราะในช่วงนั้นสิ่งที่มาไวพอๆ กับข้าวเท็จจริงก็คือข่าวลวง ผมเชื่อว่าคนที่โดนข่าวลวงในตอนนั้น น่าจะมีภูมิต้านทานในระดับนึงละ
ส่วนคนที่ยังโทษนั่นโทษนี่ อันนี้คงแก้ไขอะไรไม่ได้ครับ
ดูถูกเสียงของประชาชนเหรอครับ บอกว่าโดนหลอกให้เลือก ปชป. อย่างนี้ว่าคนที่เลือก พท. เพราะโดนหลอกบ้างได้ไหมครับ
ความพยายามจะที่คุณจะคำพูดของผมมันดูเลวร้ายเกินจริง ผมว่ามันน่าตลกครับ
ผมไม่ได้ใช้คำว่าถูกหลอก และความหมายไม่ได้ส่วนไหนหมายถึงการถูกหลอกเลยครับ และผมไม่ได้บอกว่าคนทุกคนที่เลือกฝั่งตรงข้ามกับเพื่อไทยเป็นเพราะสาเหตุที่ผมอ้างถึงด้วย
เรื่องนี้มีงานวิจัยด้วยถ้าผมจำไม่ผิด และผมหวังว่าคุณจะไปหาอ่านเอง ไม่มาขอให้ผมส่งลิงค์ หรือเอองานวิจัยมาเสิร์ฟให้คนที่พยายามขยายคำพูดของผมให้เกินจริงนะครับ
ละอายใจบ้างนะ นิสัยไม่ดีครับ และควรจะหยุดใช้วิธีนี้กับคนอื่นๆ ด้วยครับ
ดูถูกเสียงประชาชนจัง พออีกฝ่ายเลือกตั้งชนะก็อ้างงานวิจัยอ้างโน่นอ้างนี่นะครับ ทำเหมือนกับที่ฝ่ายประชาธิปไตยเคยไปว่าคนอื่นเลยครับ
นี่ก็นิสัยทรามเกิน ควบคุมตัวเองด้วยนะครับ นี่ไม่ใช่พันทิพหรือเฟสบุคครับ ไม่ต้องพยายามจุดประเด็นเรียกมนุษย์เลเวล 1
แก้ไขเพิ่ม คิดๆ ดูแล้วต้องบอกว่าสมควรดูถูกจริงๆ นะครับ แต่ไม่ใช่ดูถูกว่าถูกหลอก หรือโง่นะ ควรดูถูกว่าเลือกคนอย่างสุขุมพันธุ์มาทำงานได้ยังไง ทำงานห่วยมาก ผลงานส่วนมากมีแต่ด้านลบ
เลือกมารอบแรกก็เสียหายเยอะแล้ว ยังเลือกมารอบสองอีกทั้งๆ ที่รอบแรกไม่มีผลงานดีๆ ที่ประจักษ์เลย
ผลร้ายจากการบริหารงานสองสมัยของสุขุมพันธ์ยังส่งผลกระทบมาทุกวันนี้
อันนี้ถ้าผมไม่กล้าบอกว่าผมดูถูกคนที่เลือกสุขุมพันธ์เข้ามา ผมคงเป็นคนที่โกหกมากๆ ครับ
ลิเบอรัลเป็นอย่างนี้เองนะครับ พอเป็นอีกฝ่ายบ้างที่ได้ประโยชน์ หลักการที่เคยยึดถือไว้ก็โยนทิ้งหรือลืมกันไปเลย แต่ก็ไม่แปลกใจหรอกครับ เพราะเห็นเป็นอย่างนี้กันหลายครั้งแล้ว
คุณนี่บิดเบือนเก่งนะ ตั้งแต่บอกว่าผมดูถูกประชาชน มาตอนนี้มาบอกว่าอีกฝ่ายได้ผลประโยชน์อีก แถมมาคิดเองเออเองว่าผมเป็นลิเบอรัลเพราะอยากหาเรื่องด่าลิเบอรัลอีก
การทุจริตเชิงนโยบายไม่เรียกว่าได้ผลประโยชน์ครับ คนเสียประโยชน์คือประชาชน เลิกบิดเบือนเถอะครับ
ทำไมถึงกล้าแสดงนิสัยไม่ดีอย่างต่อเนื่องแบบนี้นะ ไม่ละอายหรือ
ต้องให้ทำรายการของที่ใช้งานไม่ได้ภายใต้การบริหารของสุขุมพันธ์มั้ยครับ ไอ้สิ่งที่คุณเรียกว่าอีกฝ่ายได้ผลประโยชน์น่ะ
อ้อ มีอีกอย่าง ผมไม่ได้สนับสนุนเพื่อไทยนะ ผมช่วยตัดข้อมูลในการบิดเบือนให้ คุณจะได้เบี่ยงประเด็นไปบิดเบือนเรื่องอื่นต่อ
ยิ่งคุยด้วยยิ่งรู้สึกเหมือนคุยกับคนที่เพิ่งใช้สารเสพติดมา ทุกอย่างมาจากจินตนาการที่บิดเบี้ยวล้วนๆ
นี่ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองโง่แล้วครับที่พยายามใช้เหตุใช้ผลกับคนที่ไม่ได้อยู่ในโลกของความจริง
คงต้องหยุดล่ะครับ
สะกิดให้เบานิดนึงครับ ผมชอบเหตุผลคุณนะครับแต่เดือดตามไปเรื่อยๆ จะดูแย่นะครับ
หยุดความเดือดไม่ได้ก็หยุดไปเลย ตัดสินใจได้ถูกต้องแล้วครับ ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ผมเห็นด้วยกับฝั่งไหนนะครับไม่ได้ตามอ่านละเอียดขนาดนั้นแต่อ่านผ่านๆ แล้วรู้สึกเริ่มแรงกัน
ไม่แรงครับ ปกติ แต่เดือดจริง โมโหตัวเองที่ตั้งใจคุย
ขอบคุณที่เรียกสติครับ
ในไทย ก็เคยมีพรรคการเมืองเก่าแก่พรรคหนึ่ง เคยทำตรายางปั๊มลงไปบนธนบัตร ว่า ปรีดีฆ่าในหลวง และจ้างคนเข้าไปตะโกนในโรงหนังด้วยนะ
ปล. อ่านข่าวแล้วยังงงๆ เกี่ยวกับขั้นตอนการ manipulate กลุ่มเป้าหมายครับ ยกตัวอย่าง
- กลุ่มที่เล่นที่เป็นเป้าหมาย ถูกกระตุ้นให้เปลี่ยนชื่อ กระตุ้นอย่างไร ผ่านช่องทางไหน แล้วเปลี่ยนชื่อได้ยังไงเพราะถ้าเข้าใจไม่ผิดความจำยังโอเค เปลี่ยนชื่อไม่ได้ (หรือได้แค่ครั้งเดียว)
- เมื่อเริ่มเชื่อใจ ... ทำอย่างไรจึงเชื่อใจ ไปเจอกันในเฟสบุค หรืออะไรยังไง
อ่านต้นทางแล้วเหมือนคนเขียนต้นทางก็ไม่ได้เข้าใจว่า Pokemon Go มันเล่นยังไง
ลองอ่านผ่านๆ (ด้วยการเสิร์ชเอาแค่คำว่า Pokemon) ที่เอกสารต้นทาง https://disinformationreport.blob.core.windows.net/disinformation-report/NewKnowledge-Disinformation-Report-Whitepaper.pdf
เหมือนว่าจะมีช่อง youtube กับ hashtag บางอันใน tumblr ที่ใช้การปลุกระดมคนผิวดำในช่วงนั้น
แล้วก็กระตุ้นให้คนผิวดำตั้งชื่อ "Pokemon" ที่ตัวเองจับได้เป็นชื่อเหยื่อผิวดำจากการกระทำรุนแรงจากตำรวจแล้วเอาไปยึดยิมเพื่อเป็นสัญลักษณ์
แล้วใช้คอนเทนต์พวกนั้นเป็น "หนึ่งในเครื่องมือ" ที่ใช้วัดความเชื่อใจว่าเป้าหมายหลงเชื่อในข่าวปั่นที่ตัวเองปล่อยในช่องทางทั้งหมดแล้ว แล้วก็ยิงอีเมลข่าวลวงใส่คนกลุ่มนั้น
ชื่อมอนบนยิมไม่ได้แสดงชื่อตามที่เราตั้งนะครับ ชื่อที่เราตั้งจะเห็นแค่เราคนเดียว
ผมไปหาอ่านมารวมๆ และขอสรุปให้ฟังครับ
สรุปคือไม่ได้ใช้ตัวเกมทำอะไรครับ แค่เจาะกลุ่มเป้าหมายที่เล่นเกมนี้ โดยการทำกลุ่มบนเฟสบุคเกี่ยวกับโปเกมอนโก แล้วยิงเนื้อหาในแนวทำ quest ซึ่งไม่ใช่ quest อย่างเป็นทางการใดๆ จาก niantic ซึ่งรายละเอียดของ quest ก็เป็นไปตามเนื้อข่าวครับ
และที่เนื้อข่าวบอกว่าตีสนิท ก็คือใช้เฟสบุค หรือ social media platform อื่นๆ ในการตีสนิทครับ
quest ดังกล่าวเหมือน challenge ที่วัยรุ่นชอบเล่นกันมากกว่า แนวๆ คลิกเบทอ่ะครับ
เช่น "กล้าบอกชื่อสถานที่ไปเที่ยวล่าสุดไหม" อะไรทำนองนั้น
สรุปคือไม่ได้ใช้ตัวเกม Pokemon Go ทำอะไรใดๆ ทั้งสิ้นครับ แค่เจาะไปที่กลุ่มคนเล่น Pokemon Go เพราะตอนนั้นกำลังดังและได้จำนวนผู้อ่านเยอะ แค่นั้นแหละ
ไม่ค่อยเชื่องานวิจัยนี้เท่าไหร่ เหมือนวางๆไม่มีไรทำเลยจับมาโยงประเด็นที่คนสนใจซะมากกว่า
ถ้าข่าวปลอม อันนี้น่ามีเหตุมีผลมากกว่า
อ่านแล้วงง เหมือนแค่คาดเดา ไม่มีหลักฐาน
ดูเลื่อนลอยเอามากๆ
เหมือนแค่ใส่คำว่า "วิจัย" นำหน้า เพื่อเพิ่มน้ำหนักทางจิตวิทยาให้ดูน่าเชื่อถือมากกว่า
อีปูติน มึง!
รู้สึกเหมือนมีคนพยายามโบ้ยว่าที่อเมริกาเป็นอยู่ตอนนี้เพราะโดนรัสเซียแทรกแซงไม่ใช่เพราะคนอเมริกาเองนะ
ไม่ใช่ความผิดคนอเมริกานะ
คนอเมริกาก็แบ่งฝั่งเป็น 2 ฝั่งเหมือนกันครับ
ตอนนี้กลายเป็น anti trump กับ support trump ไปแล้ว คือ trump เองเป็นผู้นำแบบขวาจัดๆ ในแบบที่ไม่มีใครคิดว่าอเมริกาจะเจอแบบนี้ และคนอเมริกาส่วนนึงเชื่อแบบพอจะมีมูลว่าการเลือกตั้งปธน.ที่ผ่านมา ผลการเลือกตั้งส่วนนึงมาจากความเกลียดหลายๆ อย่าง และความเกลียดเหล่านั้นเกิดจากการปลุกปลั่นด้วยข่าวปลอมที่มาจากรัสเซีย
คำว่ามีมูลคืออะไร มีมูลคือข่าวปลอมสร้างความเกลียดที่ reach สูงๆ (ไปถึงผู้อ่านจำนวนมาก) เกิดจากการแชร์ผ่านเฟสบุค และเฟสบุคตรวจสอบแล้ว พร้อมเคลมว่าต้นตอที่แชร์ข่าวดังกล่าวมาจากรัสเซีย และนั่นก็เป็นที่มาของข่าวอีกซีรีส์นึง คือเฟสบุคถูกซักฟอกอย่างหนักครับ
การรีบสรุปข่าวแบบกำปั้นทุบดิน แบบนี้จะไม่ได้ fact ไม่ได้ info ใดๆ เลยครับ
จุดสำคัญคือ อเมริกามีการตรวจสอบระหว่างองค์กรแบบพึ่งพาได้ คาดหวังได้ ฉะนั้น ถ้าผลจากองค์กรนึง หรือฝั่งนึง จะไปขัดกับอีกฝั่งนึงและดูเหมือนโจมตีกันเอง อันนั้นเป็นเรื่องปกติครับ ถ้าเป็นก้อนเดียวคิดเหมือนกันหมด อันนั้นประเทศมีปัญหาแล้วครับ
ตั้งมั่ง
มีงานวิจัยพบว่าอเมริกาพยายามปลุกปั่นกระแสยี้ประเทศคู่แข่ง ด้วยการออกข่าวว่ามีการแอบแทรกแซงนั่นนี่และมีการใส่สุดยอดชิปสอดแนมลงในมือถือ