จากปัญหาที่ผู้ใช้งาน iPad Pro รุ่นใหม่จำนวนหนึ่งพบว่าเครื่องมีการงอ ไม่เป็นแนวเสมอกัน บางรายเจอกระทั่งตอนเปิดกล่องใหม่เลย ซึ่งต่อมาผู้บริหารแอปเปิลได้อีเมลตอบคำถามลูกค้าว่าเป็นการออกแบบตามาตรฐานนั้น ล่าสุดแอปเปิลก็ชี้แจงประเด็นนี้อย่างเป็นทางการมากขึ้น
โดยแอปเปิลเพิ่มเติมเนื้อหาในหน้า Support อธิบายรายละเอียดด้านการออกแบบ iPad Pro รุ่นใหม่ โดยประเด็นวัสดุระบุว่า วัสดุของตัว iPad Pro เป็นอลูมิเนียมแบบ Unibody ที่แข็งแรง เบา และทนทาน ขอบเหลี่ยม ซึ่งแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้ขอบโค้ง
ส่วนประเด็นเครื่องงอนั้น แอปเปิลพูดถึง iPad Pro รุ่น cellular ที่ด้านข้างจะมีแถบเส้นสำหรับเสาสัญญาณมือถือ ซึ่งในการผลิต ใช้วิธีแทรกพลาสติกเข้าไประหว่างตัวบอดี้อลูมิเนียม กำหนดสเป็กค่าความเรียบของ iPad Pro ที่ไม่เกิน 400 ไมครอน เท่ากับกระดาษ 4 แผ่น บางครั้งอาจมองเห็นการงอได้ด้วยสายตา แต่ไม่มีผลกระทบต่อการใช้งานแต่อย่างใด
ถึงแม้จะไม่มีประเด็นใหม่ แต่การชี้แจงในหน้า Support ก็เป็นอีกขั้นว่าแอปเปิลยอมรับข้อคิดเห็นจากลูกค้า และบ่งชี้ว่า iPad Pro รุ่นที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่คือรุ่น cellular นั่นเอง
ที่มา: The Verge
Comments
คดในข้อ งอในบอดี้
ก็ไม่อธิบายเรื่อง "ใช้แล้วงอ" อยู่ดี
ใส่มาแบบนี้เพื่อให้ เครมเครื่องไม่ได้ว่างั้น
1.เคลมไม่ได้
2.น่าจะใส่เคสแข็งสวยๆไม่ได้
3.เวลาใส่กระเป๋าคงต้องถนอมดุจลูกน้อย
pro 9.7 ผมโดนปฏิเสธการเคลมที่ copperwired เพราะว่าเขาบอกว่ามันงอ
ต้องซื้อและเคลมที่ Apple Store ครับ
iStudio มันทำตัวงี่เง่ามาตลอด แต่ก่อน iPhone ผมแบตบวมเอาไปเคลมมันก็ไม่ให้เคลม ต้องโทรหาศูนย์ใหญ่ Apple ที่สิงคโปร์ เขาถึงให้เคลม
iStudio ไม่ได้ทำตัวงี่เง่าครับ และทำถูกแล้ว ที่ Apple ให้คุณเคลมได้ เขายกเว้นให้คุณครับ iStudio โดนสั่งมาแบบนี้ครับ ว่าจะตรวจจะเช็คเครื่อง ให้ดูว่าเครื่องงอ ไหม ถ้างอเกินเท่าไหร่ ก็ถือว่าไม่อยู่ในประกัน
ถ้าลูกค้า ไม่ตามเรื่องต่อ Apple ก็สบายไปไม่ต้องเคลมเครื่อง ถ้าลูกค้า ตามมากๆ ก็อาจจะได้เคลมจากการโทรไป ศูนย์ AppleCare ที่ว่า (ไม่ได้อยู่สิงค์โปรทั้งหมดนะครับ) ตัว iStudio เอง ลูกค้าจะเคลมได้ไม่ได้เขาก็ไม่เดือนร้อนหรอกครับ Apple จ่ายค่าเครืองใหม่ให้ไม่ใช่ iStudio ให้ลูกค้าเคลมได้ทุกเคสเขาสบายกว่าอีก ไม่ต้องทะเลาะกับลูกค้าด้วย
ทีนี้ ให้ทาย ใครไปคนสั่งให้เขาเช็คว่าเครื่องงอรึเปล่า ? และใครเป็นคนที่ลำบากถ้าลูกค้าเคลมได้ทุกเครื่อง????
Apple ไงครับ
เครื่องงอ เคลมไมไ่ด้ครับ Apple สั่งทุกที่มาอย่างนั้น
คนโดนด่าก็คือศุนย์
พอโทรไปขอ แล้วได้คนโดนชมกลายเป็น Apple ซะงั้น
ซึ้งมาก
iStudio เป็น Apple Authorized ครับ ถ้าทำตัวงี่เง่าแบบที่ไม่ผ่านการเห็นชอบจากแอปเปิลแล้วโดนร้องเรียนนี่ เด้งไม่รู้ตัวนะ
แน่นอนว่าพวก Operator ก็เช่นกัน แอปเปิลมี poilicy ครอบไว้หมด
ดังนั้นเวลาคุณเห็นนโยบายงี่เง่าเรื่องมาก ให้รู้ไว้เลยครับว่าแอปเปิลสั่งมาแบบนั้น ไม่ทำตามก็ไม่ได้ด้วย
ส่วนแอปเปิลก็ทำตัวเป็นพ่อพระ ใครสั่งกับตัวเองก็หยวนให้ แน่นอนว่าบ่นเรื่องความเท่าเทียมก็ไม่ได้เพราะสิทธิ์ขาดอยู่ที่แอปเปิล
พูดตรงๆว่ากลุ่ม operator ก็ไม่ได้อยากขายไอโฟนนักหรอกครับ แต่ลูกค้าอยากได้กัน
ถ้าวันนึงความนิยมเริ่มเสื่อม แอปเปิลจะไม่มี partner อยากให้ความช่วยเหลือเลย เพราะเอาเปรียบเขามาตลอด
ผมก็คิดแบบนี้นะ Apple ทำตัวเองให้เป็นพ่อพระ โดยการสร้างภาพให้คนอื่น service ห่วยๆ คนก็ชอบไปด่าปลายทาง operator ห่วยซื้อแล้วเปลี่ยนไม่ได้งี้ ถ้าเขาเปลี่ยนแล้วเอาไปเปลี่ยนกับ apple ไม่ได้ใครรับผิดชอบตรงนี้ Apple บอกไม่รับผิดชอบหละ ... จบ เข้าเนื้อ
คิดเหมือนกันใส่ในหน้านี่ เหมือนให้ยอมรับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา
ถ้าเกิดผมซื้อใช้นะไม่ว่าจะชี้แจงอะไรสุดท้ายเครื่องงอก็คือเรื่องจริง มาตฐานห่วยถ้าเปลี่ยนหรือคืนเงินไม่ได้ ก็จบกัน 555
ไม่นึกว่าจะออกมาในรูปแบบนี้อึ้งนิดๆ แต่ไม่แปลกใจขนาดยี่ห้อ H (เคสหน่วยความจำ) ยังทำได้....อุฟ
แต่นี่คือแอปเปิลนะครับ ยอมรับว่าอยู่ในระดับเดียวกันแล้วหรอ
รุ่นหน้าจะเปลี่ยนไปใช้อะไรแทนอะลูมิเนี่ยมละ เห็นคนบอกฝั่ง MS ใช้แมกนีเซียมอัลลอย
ใช้คาร์บอนไฟเบอร์น่าจะแพงสุด ไม่รบกวนเสาอากาศด้วย
ส่วนตัว ผมว่าเกรดมันเริ่มดาวน์ตั้งแต่ไอโฟนหกแล้วครับ
ระดับ aasp ผมก็เห็นเกรดลดลงเรื่อยๆ
Jony Ive สมควรแก่การลาออกแล้ว รู้สึกว่าช่วงหลังๆนี่ออกแบบไม่ได้เรื่อง สินค้าแอปเปิ้ลไม่ได้สวยจนว้าวกว่าชาวบ้านเค้าแล้ว
เท่าที่อ่านหลังๆก็ไม่ค่อยได้ออกแบบแล้วนะครับให้ลูกทีมทำกันมากกว่า
แต่เขาก็ต้องตรวจก่อนหรือเปล่าเมื่อลูกน้องออกแบบเสร็จ? ไม่ใช่เอาแต่เซ็นอนุมัติให้ผ่านๆไป?
มันเริ่มจากกล้องหลังนูน
เคสหลังเต่า
จอหน้าแหว่ง
จนมาไอแพดงอได้
งานออกแบบที่...ถ้า perfectionist อย่าง jobs ยังอยู่
น่าคิดว่าคนพวกนี้ยังจะยิ้มระรื่นกันได้มั๊ย
ท่านลืมท่ายากของการชาร์จ apple pencil ไปครับ 555
เมาส์ที่ต้องพลิกมาชาร์จโหดกว่าเยอะครับ
ถ้าจ็อบส์ยังอยู่ ...
ที่ผมอ่านจากหนังสือชีวะประวัต jobs แกไม่ปลื้ม tablet มีปากกา wacom ในยุค windows xp ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีกาแลคซี่โน๊ต ถ้าจ๊อบส์อยู่ก็ .....
http://pencomputing.com/images/hp_tc1100_notebook.jpg
เป็นมุกน่ะครับ
ผมว่าคุณอาจจะยังอ่านหนังสือไม่แตกนะ หรือไม่ก็อาจจะยังเด็ก เลยไม่เข้าใจบริบทที่จ๊อบพูดในยุคนั้น
ในเวลาที่จ๊อบพูดว่าไม่ต้องการ stylus มันคือยุคที่ Device ที่ใช้ระบบสัมผัสยังอิงกับการเอาปากกามาจิ้มจอ และไม่ใช่จอ capacitive ซึ่งใช้นิ้วจิ้มลาก ทำ gesture แปลกๆได้ การปฏิเสธ stylus มันจึงเป็นทางเลือกที่ถูกแล้ว
คนที่ชอบยกเรื่องนี้มาแซะจ๊อบส์ ลองมองย้อนดูตัวเองว่า ถ้าในปัจจุบันคุณจะใช้ stylus จิ้มจออย่างเดียว ใช้นิ้วไม่ได้ กับแบบจอ capacitive ที่เราใช้กันในปัจจุบัน คุณจะเลือกแบบไหน?
ทัซสกีนใช้จิ้มจอ(tap) ปากกาใช้ วาดเขียน(draw) เมาส์ใช้ point and click สามอย่างนี่ให้ความรู้สึกเวลาใช้ต่างกัน และไม่ได้มาแทนที่กัน ถ้าคุณไม่ได้ซื้อไอแพดมาวาดเขียนคุณไม่ต้องซื้อดินสอเปิ้ลหรอก ใช้นิ้วจิ้มจอเอาสะดวกกว่า แต่จ็อบส์ไม่ได้เพิ่งแอนตี้ปากกาตอนยุคมือถือมีทัซสกีน ในหนังสือเล่าว่าลูกน้องจ๊อบส์เอา tablet windows xp มาให้จ๊อบส์ดู (ตอนนั้นยังไม่มีเทคโนโลยีทัซสกีนแบบที่เราใช้กันในไอแพด แล้วทัซสกีนบนพวกเครื่อง pda ก็คนละแบบ tab windows ยุคนั้นใช้ปากกา wacom แบบเดียวกับเมาส์ปากกาที่ใช้วาดรูปเลย ช่วงปี 2006-2008 toshiba เอาเข้ามาขายในไทยด้วย ถ้าจะทำเองง่ายๆคือเอาเมาส์ปากกาไปวางซ้อนไว้ใต้จอ lcd ที่บางมากๆ ) จ๊อบพัฒนาไอแพดไอโฟนที่ใช้ทัซสกีนก็เพราะเกลียดปากกาของ windows นี่แหล่ะ อย่าไปแก้ตัวให้คนตายว่าเขาหมายถึงมือถือจอเล็กๆไม่เหมาะกับปากกาเลย
ตอบคำถามคุณนะ "ถ้าในปัจจุบันคุณจะใช้ stylus จิ้มจออย่างเดียว ใช้นิ้วไม่ได้ กับแบบจอ capacitive ที่เราใช้กันในปัจจุบัน คุณจะเลือกแบบไหน?"
ใช้ปากกาจิ้มจอค่ะ เพราะใช้วาดรูปได้ แต่จอ capacitive ใช้วาดรูปเป็นเรื่องยากมาก ไม่ซื้อมาวาดรูปแน่นอน จอ capacitive มีก็ดีไม่มีก็ได้ แต่ปากกาแบบ wacom สำหรับงานกราฟฟิค ต้องมี
ถามเรื่องความชอบ stylus ไม่ได้หรอกครับ มันเป็น preference ของแต่ละคน
บอกได้แค่ว่าตลาดพิสูจน์แล้วว่าอะไรขายได้แบบ mass ส่วน stylus มันสินค้าเฉพาะกลุ่ม
ถ้าให้เลือกคงต้องดูการใช้งานมากกว่าครับ
จังไรมาก น่าจะแก้ไขมากกว่าแก้ตัว
เป็นปีทองของ Apple จริงๆ
ใช้วัสดุแข็งแรง ทนทาน... แต่งอง่าย?!
ของผมเรียบครับ สั่ง lot แรกๆ
รู้สึกว่าข่าวตีกันจนเกินจริง ตอเราเลือกเราดูได้อยู่แล้ว
ถ้าสั่งออนไลน์มันเลือกไม่ได้นี่สิครับ
สั่งออนไลน์ถ้าไม่พอใจก็เปลี่ยนเครื่อง หรือไม่ก็ขอคืนสินค้าได้นิครับ
ตรงนั้นมันก็ยังโอเคครับ แต่ประเด็นคือมันเสียเวลา สมมติจะซื้อมาใช้งานแสดงว่าก็จะมี gap ของช่วงเวลาที่เสียโอกาสในการได้ใช้งานเกิดขึ้น แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นหลักของเรื่องนี้
คุณโชคดีครับที่ได้เครื่องไม่งอ ถ้าเปิดมาเจอเครื่องงอ คำตอบจะเป็นอีกแบบ
Apple ก็ไม่ยอมรับว่ามันงอแต่บอกว่าเป็นปรกติเพราะการออกแบบ ยอมรับสวยๆ รับเคลมล็อตงอทุกเงื่อนไขไปซ่ะ เรียกความเชื่อมั่นกลับมา ไปแก้ไขสินค้าล็อตใหม่ แค่นี้จบเศษเสี้ยวของรายได้ขนหน้าแข้งยังไม่ร่วงเลยด้วยซ้ำ
แกะกล่องมาก็ทำคืนไปสิครับ ซื้อ Apple Store นะ
คืนยากขึ้นนิดหนึงนะครับ สั่ง Online Store น่าจะยังดีกว่าโทรไปขอเคลม แค่รอนานหน่อย
ใช่ครับขั้นตอนก็ต้องตามนั้น ผมเองไม่มีปัญหาสำหรับเรื่องซื้อสินค้าแล้วเจอสินค้ามีปัญหาเพราะเข้าใจว่ามันก็ต้องมีผิดพลาดกันบ้างเป็นธรรมดา ซื้อของแล้วมีปัญหาวันแรกก็เจอมาบ้างก็เคลมกันไป
แต่ Apple แถลงมาแบบนี้แล้วตัวสินค้าที่มีปัญหาก็ยังคงอยู่ในตลาด มีใครอยากจะลองสุ่มซื้อดูไหมละครับ วิธีแก้ไขมีเยอะแยอะแต่กลัวเสียหน้าหรือว่าอย่างไรอันนี้ก็ไม่ทราบ แต่ไปบอกว่าเป็นเรื่องปรกติเพราะการออกแบบ อันนี้ขนาดปรกติยังงอได้ก็ต้องเชื่อตามนั้นแหละว่าปรกติจริงๆ
ที่ Apple เขียนคือการออกแบบมันงอได้ 400 ไมครอน ถ้าดูตามปกติจะไม่เห็น และไม่รู้สึกอะไร จนกระทั่งยกขึ้นส่องด้วยมุมเฉพาะ ถ้างอมากกว่านั้นเคลมได้ภายใน 1 ปี ถ้างอน้อยกว่านั้นแต่ยังไม่ถูกใจ ก็เคลมได้ภายใน 14 วันครับ
สรุปคือบอกว่าเคลมได้ ย่อหน้าสุดท้ายก็เขียนอยู่ว่าเคลมได้ ไม่ใช่เคลมไม่ได้ ทำไมคนไปตีความว่าเคลมไม่ได้
มันมีแล้วนะครับ เครื่องงอตั้งแต่เปิดกล่องในไทย ที่ Apple Store Icon Siam เลย
ผู้เขียนได้เดินเข้าไปแจ้งรับของตามปกติ แต่ปัญหาคือเมื่อแกะกล่องเครื่องแรกพบว่าตัวเครื่องไม่งอ แต่มีรอยมากกว่า 5 จุด (เอิ่ม) จึงขอแกะอีกกล่องตามกฏของ Apple Store สามารถทำได้ แต่ที่ไทยไม่สามารถทำได้!!
แต่ทำไงได้ ของต้องใช้ จึงรูดบัตรไปอีกครั้ง (วงเงินหมดกล่องที่สอง) จากนั้นจึงนำอีกเครื่องมาเปิดดู เครื่องที่สองไม่มีรอยก็จริง แต่เครื่องดันงอ! (นึกว่าจะมีแต่ในเน็ต)
https://www.beartai.com/news/itnews/301560
ฟีเจอร์ลับ จอโค้ง
It's not a bug, it's a feature
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
คนที่บอกว่าถ้าเปิดมาแล้วเจอเครื่องงอก็แค่ขอคืนไปแล้วซื้ออันใหม่ไม่เห็นจะต้องเป็นเรื่องใหญ่ อยากรู้ว่าถ้าไปสั่งข้าวกินแล้วพอได้มามีแมลงสาบอยู่ในข้าวจะพูดว่าก็แค่คืนไปแล้วสั่งจานใหม่ไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่มั้ย เวลาโต๊ะอื่นมีแมลงสาบในข้าวไม่ได้แปลว่าจานคุณที่ไม่มีแมลงสาบแล้วกินได้สะอาด 100%
เอา Ipad เข้าปาก?
ไร้สาระ
ตรรกะร้านอาหารมาอีกละ
มันเหมือนกันตรงไหนครับ?
ตรรกกะงงมาก ถ้าจะเล่นผมว่าเล่นประเด็นขอคืนเงินแล้วต้องรอเครดิต 7 วันยังน่าเล่นมากกว่า หรือเล่นว่าเสียเวลาไปซื้ออะไรทำนองนี้
เหมือนกันตรงที่มันแสดงว่าหลังร้านสกปรกครับ ถึงจานเราไม่มีแมลงสาบแต่ก็น่าจะไม่สะอาดเหมือนกัน
สมัย iPhone 6 ที่มีคนบอกว่ามันงอง่าย ช่วงแรกคนก็คิดแค่ว่าของเราเปิดมาไม่งอก็โอเคแล้ว แต่พอเวลาผ่านไปมันกลายเป็นปัญหา touch screen พังกันหลายคนสุดท้าย Apple ต้องยอมซ่อมให้ฟรีเพราะมันเกิดจากตัวเครื่องงอเล็กน้อยซ้ำ ๆ ตามองไม่เห็นแต่มันทำให้ chip ที่คุม touch screen หลุดจากบอร์ด
ปัญหาจริง ๆ มันคือการออกแบบที่ไม่ดี ซื้อมาตอนแรกไม่งอไม่ได้แปลว่าจะปลอดภัย สมัยนั้นตอนแรก Apple ก็พูดอย่างเดียวกันว่าใช้งานได้ปกติ สุดท้ายต้องออกมายอมซ่อมอาการนี้ให้ฟรีและคนที่เสียเงินไปแล้วให้มาขอเงินคืนได้ ทั้งหมดนี้คือหลังจากคนจำนวนมากพอรวมตัวกันกดดัน ถ้า iPad มันมีปัญหาแบบเดียวกันอีกก็คงจะต้องไปรอลุ้นกันว่าคราวนี้จะมีคนกดดันมากพอมั้ย
ถ้าจะเทียบแบบนั้นร้านอาหารก็ต้องบอกว่ากินแมลงสาบเข้าไปแล้วไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายด้วยนะครับ
เรื่องออกแบบไม่ดีนี่ไม่เถียงครับ ออกแบบพลาดแล้วแถแบบหน้าด้านๆก็หลายครั้ง
แต่ผมยังยืนยันว่าเรื่องแมงสาบในข้าวกับ iPad งอเนี่ยไม่ได้ใกล้เคียงกันเลยครับ
ของอุปโภคต้องวัดกับของอุปโภคครับ ส่วนของบริโภคต้องวัดดับของบริโภคด้วยกันครับอย่ารวมกัน แล้วมันยังแยกเป็นสินค้าคงทนกับสินค้าใช้แล้วทิ้งอีกนะ รวมกันไม่ได้
ขออย่า New iPad mini เป็นแบบนี้เลย .. เพี้ยง
รอมานานแล้ว
มันเป็นนวัตกรรม ใครไม่ใช่สาวกไม่เข้าใจหรอก
คุณค่าทางจิตใจหายหมด
Nokia 8110 4G ผมนี่งอทุกเครื่องมาตั้งแต่โรงงานแล้ว ไม่ต้องมาสุ่มกาชาปองว่าจะเจอเครื่องงอมั้ย
LG G Flex งอกว่า
ยอมครับ
งอจริง ตรงเสาหัวเครื่องนั่นแหละ ซื้อจากญี่ปุ่นด้วย
ตอนแรกกะจะทำเรื่องคืน 14 วัน แต่จากที่สอบถามมา ต้องไปคืนที่ญี่ปุ่นเท่านั้นเพราะคนละโมเดล
เลยต้องใช้ต่อล่ะ ใส่เคสแข็ง UAG ก็ได้อยู่
เจ้านี้เค้าทำได้นะครับ https://www.youtube.com/watch?v=KNw6jpFulRk
ไปอ่านคอมเมนต์นึง เรื่องซ่อม macbook จอดับ ไปถามศูนย์ genius bar บอกมาว่า บอร์ดพัง ซ่อมทั้งหมด เกือบ 40,000
ไปให้ร้านข้างนอกดู สรุปขั้วต่อจอ pin มันงอ ดัดให้เครื่องกลับมาใช้ได้ ฟรี!
https://youtu.be/_XneTBhRPYk?t=217
เป็นทางของเค้า พอจะสรุปได้ดังนี้
1. เวลาส่งซ่อม จะตีราคาเปลี่ยนทั้งชุด ซึ่งราคาสูงมาก
และเป็นการบอกกลาย ๆ ว่าเราซ่อมได้หมดนะ
ไม่ปฏิเสธการซ่อม อะไหล่เราพร้อมจริง ๆ ... แต่จ่ายไหวหรือเปล่า
2. ถ้าอยู่ในประกัน ก็รับเคลมทันที ไม่มีบ่น ... user จะอารมณ์ดีเพราะคิดว่าได้เปลี่ยนฟรี
ถ้าจ่ายเงินเองจะแพงมาก คราวหน้าเราควรจะซื้อประกันกับเค้าเนอะ ...
แต่ในความเป็นจริงมันซ่อมได้ ไม่แพง แต่นโนบายเค้าไม่คิดจะหาสาเหตุ
และซ่อมจุกจิก จึงตีราคาทั้งชิ้น ถ้ามีประกันก็จบ ...
ส่วนทีซ่อมนิดหน่อยก็มาขาย referbished
ถ้าไม่มีประกันหรือหมดประกันก็ต่อข้อ 3
ถ้า lot มีปัญหาอยู่แล้ว ก็ซุกปัญหาไว้ใต้พรม แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเปลี่ยนอะไหล่ไปก่อน
ซึ่งบางส่วน... ใช้ไปซักพักก็มีอาการเดิม...จนกว่าจะรวมตัวกันฟ้องเรื่องถึงจะแดง
3. ถ้าไม่มีประกัน user ส่วนนึงกลับบ้าน แคะกระปุก ซื้อรุ่นใหม่ (apple ยิ้มอ่อน)
บางส่วนโทรเข้า call center ซึ่งทาง apple จะรับพิจารณาหากเป็นเคส
โดนใช้เกณฑ์อะไร ไม่อยากเดา ...
หรืออาจจะเป็นปัญหาจากการผลิตที่ไม่เปิดเผย คือรู้แหละว่า lot นี้พังบ่อย ๆ
ถ้าติดต่อกลับมา ก็จะเปลี่ยนให้ฟรี คนได้รับบริการก็จะรู้สึกดีกว่า บริการดีเวอร์
คุณคือคนพิเศษ...บลา บลา บลา
แต่ในความเป็นจริง...มันคือการเลือกปฏิบัติ ... เป็นกรณี ๆ ไป
แต่ในกรณีคลิปนี้ช่าง genius วิเคราะห์ปัญหาผิดอ้างไปเรื่อย ไม่แน่ใจว่าฝีมือช่าง genius คนนี้อ่อนหัดหรือว่าจงใจไม่บอกปัญหาที่แท้จริง พอไปเจอช่างชำนาญงาน+ฝีปากกล้าอย่าง Louis Rossmann แก้ไขแป๊ปเดียวใช้งานได้เลย 555
ผมว่ามันน่าจะเป็นกรณีแบบที่คุณ sunVSmoon ว่านะครับคือช่างมันตีรวมๆเลย และเวลาตรวจสอบเครื่องเขาน่าจะใช้ซอฟแวร์ตรวจเหมือนคลิปข่าวบนของคุณ vesinah ที่เอา ipad pro เมืองนอกมาเคลมที่ไทยไม่ได้แกะเครื่องมาตรวจ คืออาการหลายอย่างที่ช่างapple กล่าวมามันเหมือนกับการอ่านค่าจากซอฟแวร์ครับ เขาก็ตีความหมายของที่ต้องซ่อมไปตามซอฟแวร์ว่า ราคามันเลยเป็นแบบที่เห็น แต่อาจเป็นนโยบายก็ได้ที่จะผลักดันให้ลูกค้าซื้อใหม่มากกว่าซ่อม หมดประกันคือจบได้เวลาซื้อใหม่แล้วอะไรงี้
ผมว่านี่น่าจะเป็นบทสรุปจริงๆ แต่ผมก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะนโยบายหลักของ Apple คือการให้ใช้เงินเพื่อแก้ปัญหาอยู่แล้ว
ผมว่าแค่เหตุผลนี้ทำให้คนเกลียด Apple เยอะขึ้นนะ ซื้อมาใช้งาน แต่เจอบริการหลังการขายแบบนี้ ขยาดเลย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ถ้าเป็นผู้ใช้งานทั่วไปส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นประมาณนั้นครับ แต่ในอีกมุมหนึ่ง สำหรับคนที่เน้นในเรื่องการใช้งานได้อย่างต่อเนื่องโดยที่เรื่องเงินไม่ใช่ประเด็น นโยบายพวกนี้ก็ดูสนับสนุนคนเหล่านี้อยู่นะครับ แต่ก็พอเข้าใจได้ว่านโยบายพวกนี้สามารถใช้ได้เฉพาะกลุ่มจริงๆ ในยุคที่บริษัทยังมีขนาดเล็ก และผลิตภัณฑ์ไม่ได้ mass แบบไอโฟน ก็อาจจะเหมาะที่จะดำเนินนโยบายแบบนั้น แต่ตอนนี้คงถึงเวลาแล้วที่จะต้องกลับมาทบทวนกันใหม่
โดยสรุปคือ
พอสรุปแบบนี้แล้วดูดีขึ้นเยอะเลย (แต่ผมก็ไม่ซื้ออยู่ดีแพงไป)
TimCook ควรลาออก
Ive ควรลาออก
Scott Forstall ควรกลับมา นี้คือคนกู้สถานะการณ์ของบริษัท ที่แท้ทรูว์ และคือ CEO หนึ่งเดียว
ผมอยากให้ Jony Ive อยากจะรู้ Design จะหลุดล้ำไปอีกนาดไหน
ฉันชอบ UI osx ยุคไอแมคจอ crt สุดแล้ว https://photos2.insidercdn.com/images/skype_small.gif
ผมลองถ่ายรูปอะไรที่เป็นหน้าจอใหญ่ๆทุกสิ่งอันในบ้านในมุมนั้น พบว่ามันก็งอหมด ขนาดทีวียังงอเลย คดไปคดมาด้วยซ้ำ
https://www.facebook.com/1048886644/posts/10214917384821986?sfns=st
รับไม่ได้จริงๆ ไม่เกิดขึ้นกับตัวเองคงไม่รู้กัน ของผมงอเรียบร้อย หาสาเหตุไม่ได้เลยใช้ถนอมสุดๆแล้ว จะคืนเงินก็ไม่ได้แล้ว ของมันต้องใช้ ถ้าเกิดงอมาอีกรอบแอปเปิ้ลบอกผมว่าต้องมีการเสียเงินค่าเคลมกันอหละรอบนี้ เศร้าชีวิตซื้อของแพงมาก ต้องมาระวังขนาดนี้อีกเศร้าจริงๆ