ถึงแม้สาวกจะเถียงกันให้ตายอย่างไร แต่ในแง่ธุรกิจก็ไม่มีบริษัทใดเป็นศัตรูถาวร ข่าวใหญ่ประจำงาน CES 2019 ในปีนี้คือซัมซุงประกาศว่า สมาร์ททีวีของตัวเองจะสามารถซื้อหนังจาก iTunes และรองรับ Apple AirPlay 2 ด้วย
นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เราจะได้เห็นแอพ iTunes Movies and TV Shows บนสมาร์ททีวี (แถมเป็นสมาร์ททีวีซัมซุงซะด้วย) นั่นแปลว่าลูกค้าที่เคยซื้อหนังหรือรายการทีวีบน iTunes ไว้แล้ว ก็สามารถนำไปเล่นบนสมาร์ทีวีของซัมซุงได้ทันที รองรับความละเอียดสูงสุดที่ 4K HDR
สมาร์ททีวีรุ่นปี 2019 จะรองรับ iTunes และ AirPlay ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีนี้ ส่วนสมาร์ททีวีปี 2018 จะได้อัพเดตเฟิร์มแวร์ในภายหลัง
ซัมซุงระบุว่าจะเปิดบริการ iTunes Movies ใน 100 ประเทศ (น่าจะเท่ากับประเทศที่มี iTunes Movies ซึ่งก็มีไทยด้วย) ส่วน AirPlay จะครอบคลุมถึง 190 ประเทศ
ที่มา - Samsung
Comments
ไม่ต้องซื้อ apple tv แล้ววววววววววว
เยี่ยมเลย
เงิบเลยทีเดียว
ใจจริงอยากให้ทำลงมือถือด้วยนะ หนังใน Google Play Movie ขายแพงเกิน แถมยังแยก SD กับ HD อีก
ถ้า Apple ทำมาลง เชื่อว่ามีโอกาสแย่งตลาดจากกูเกิลในส่วนนี้ได้ด้วย
Apple ก็แยก SD HD หนิครับ แต่ราคาฝั่ง iTunes ส่วนใหญ่ถูกกว่า
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
Google Play Movies ไม่มีพากย์ไทยด้วย ถ้าใครอยากดูพากย์ไทย
ไม่ใช่ 1 เมษายน ใช่มั้ย
SS รุ่นใหม่ๆ เขามี Chormecast ในตัวยังครับ เพราะเครื่องที่ผมใช้มัน Stream ได้แต่เหมือนจะไม่ใช้ Chormecast
https://www.google.com/chromecast/built-in/tv/
ณ ปัจจุบันน่าจะยังไม่มีนะครับ
ที่ใช้อยุ น่าจะ Mira Cast นะครับ
รอลง Android
จบ ทีวีเครื่องต่อไป Samsung ละกัน
ผมนี่รอประกาศ note iOS edition เลยครับ
Note 11 power by iOS 14
40000 ก็ซื้ออะครับ
TV เครื่องต่อไปก็ Sony เหมือนเดิม #เข็ด
นึกว่าจะเก็บ 4K เป็น exclusive ให้ apple tv
แต่ดูแล้วดีลนี้น่าจะหลายอยู่ถึงได้ปล่อยให้ขนาดนี้
TV เหลอ ?
ซื้อ DELL Ultrasharp U30 อะไรซักตัว 4K+, HDR
ต่อ com ดู Netflix กับ YouTube แล้วบอกลา เสาอากาศทีวีได้เลย
ราคาสองอย่างรวมกันหลายหมื่นเลยนะครับ @_@ แถมจอเล็กอีก
ทีวี 4K สมัยนี้ หมื่นปลาย ๆ ได้ 55" ละนะครับ ดู Netflix YouTube ได้ในตัวไม่ต้องต่อกับคอมด้วย หรือจะ Cast YouTube Netflix ก็ยังได้ แถมใช้งานไม่วุ่นวายอีกด้วยครับ
แค่นี้ก็ลืมไปเลยครับว่ามีเสาอากาศทีวีอยู่
เดิมใช้ Sony 43" W80 ครับ ได้มาไม่ถึง 20,000 บาท
จอใหญ่ขนาดนี้ต้องมีระยะนั่ง ห่างพอสมควร เลยโยกจอตัวนี้ไปอยู่ห้องนั่งเล่นครับ
ถ้าใช้ส่วนตัว ผมค่อนข้าง Serious เรื่องภาพเป็นพิเศษ หลังจากดูมาจนพนักงานห้างแทบจำหน้าได้
สุดท้ายเลยได้ใช้ Dell U2715h (2K) แทน ซื้อตอนรุ่นใหม่ออก ได้มา 15,000 บาท
แต่เวลาดูจริง แทบไม่ต้องตั้งค่าสีของจอเลย แค่ set ค่า key color ไปที่ cool
ภามที่ได้ มันเทพต่างกันชัดเจนมาก ๆ นะครับ ซื้อใหม่ผมไป Dell U3219Q แน่นอน
ถ้าเป็น content 4K สำหรับจอ 43-49" แนะนำให้นั่งห่างไม่เกิน 3 เมตรครับ ไม่งั้นจะพลาดความคมชัดของ 4K ไปกลายเป็นไม่ต่างกับดู 1080p ครับ
เดี๋ยวนี้ Samsung smart tv ถูกมากกกกครับ ผมเพิ่งถอย 43" 4K หมื่นเศษๆ เองแถม 0% 10 เดือน ตกเดือนละพัน คิดเป็นค่าดูหนังหกเจ็ดเรื่องต่อเดือนก็คุ้มแล้ว แล้วเป็น model 2018 ด้วย คงได้อัพ iTunes แน่
ตอนนี้ผมก็บอกลาเสาอากาศทีวีเหมือนกัน ไม่ได้ดูทีวีเลย กลับห้องมาเปิดดูแต่ Netflix , Youtube แค่นั้น แค่นี้ก็ฟินแล้ว ภาพคมกริบ ดำเป็นดำ (samsung ใช้ panel แบบ VA ให้ภาพดำสนิทกว่า IPS แต่องศาการ มองภาพด้อยกว่า) จอใหญ่กำลังพอดี แล้วไม่ต้องวุ่นวายต่อกับคอมด้วย
ส่วนเรื่องความทนทาน ราคาแบบนี้ผมไม่สนแล้วครับ เมื่อก่อนผมสาวกแบรนด์ญี่ปุ่นนะ ต้อง Sony ต้อง Panasonic เท่านั้น ยอมจ่าย และยี้ซัมซุง แต่ราคาเท่านี้แล้วของสเป็คดีแบบนี้ ผมไม่สนแล้วครับ หมื่นนึง ตกปีไม่ถึงพัน แค่นี้ก็คุ้มแล้ว ถึงเสียขึ้นมาตอนหมดประกันไปปีนึงก็พร้อมทิ้ง ไม่เสียดายละครับ (เทียบกับทีวีหลายหมื่นเมื่อก่อน คือเสียดายมาก)
ปล.แต่เอาจริง ขอทนๆ หน่อยก็ดีนะซัมซุง ไม่ใช่เรื่องเสียดายตังค์แล้วแต่กลายเป็นห่วงเรื่องขยะอิเล็กทรอนิกส์แทน
ต่อไปว่าจะซื้อทีวีราคาไม่เกินนี้ละ (แต่ต้อง interbrand เท่านั้น ไม่กล้าใช้แบรนด์ local) คือราคานี้เวลาเสียหลังหมดประกันมันทิ้งได้เลยไม่เสียดาย เมื่อก่อนใช้ทีวีต้องเครื่องละสามหมื่นอัพ แต่เสียได้เหมือนกัน ซ่อมแพงเหมือนกัน สรุปเอาถูกๆ มาดีกว่า
จะเลิกขาย AppleTV มั้ยนะ
AppleTV ขายทิ้งเลย แบบนี้
จริงอย่างที่เขาลือ apple เริ่มรู้สึกตัวแล้วว่า iPhone ไม่สามารถเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคงได้ ดูจากปีที่ผ่านมาตลาดเริ่มอิ่มตัว ยอดขายลด จนต้องดันราคาเพิ่มเพื่อการันตีกำไร สุดท้ายแล้ว service ต่างหากที่ยั่งยืน Microsoft นี่อ่านเกมขาดจริง ๆ
+1 เห็นด้วยสุดๆ
Microsoft as a service
+1 เห็นด้วยสุดๆ
Microsoft as a service
+1