AMD ค่ายผู้ผลิตซีพียูและจีพียูที่มีชื่อเล่นในวงการว่า “ค่ายแดง” เปิดตัวจีพียูรุ่นใหม่ในชื่อ Radeon VII ในงาน CES 2019 ที่มีข้อมูลน่าสนใจหลายมุม ขออนุญาตไล่เรียงดังนี้:
- เป็นจีพียู “Vega 20” ผลิตภายใต้เทคโนโลยี 7 นาโนเมตรตัวแรกของโลก ประกับด้วย 3,840 stream processors อยู่ใน compute units จำนวน 60 หน่วย ทำงานที่ความถี่สัญญาณนาฬิกาสูงสุด 1.8GHz
- Lisa Su อ่านชื่อนี้บนเวที ว่า “เรดีออน เซเว่น”
- บนตัวจีพียูมีแรม HBM2 4096 บิท ขนาด 16GB มีแบนด์วิดท์ถึง 1 TB/s
- ทั้งนี้ฟุตโน้ตบอกว่าภาพรวมด้านเกมดีกว่าเดิมราว 29%, ด้านแอปทำงานดีกว่าเดิม 36% เมื่อเทียบกับจีพียู Vega 64 แจกแจงเป็น Blender และ DaVinci Resolve 15 ดีกว่าเดิมถึง 27% ด้านเกม บน Battlefield V ดีกว่าเดิมถึง 35%, Fortnite ดีกว่าเดิมถึง 25%
- ตัวการ์ดแบบ Reference design มากับพัดลมสามตัว ใช้ไฟจาก PCI-E 8-pin สองช่อง
- วางตัวให้มีประสิทธิภาพสูสีกับ GeForce RTX 2080 ในราคา 699 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 22,330 บาท) พร้อมวางจำหน่าย 7 กุมภาพันธ์ปีนี้
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
ดูจาก PCI-E ให้มา 2 Pin แสดงว่ากินไฟกว่า GeForce RTX รุ่นท็อปแน่นอน แต่การ์ดสวยนะบอกเลย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ยังไม่แน่น่ะครับ เพราะ 7นาโนเมตร แต่เล่นสิงช่องแบบนี้ก็น่าคิด
พิมพ์ผิด - PCI-E ให้มา 2 Pin > PCI-E ให้มา 8 Pin 2 ชุด
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
วาง position เท่ากัน ราคาขายก็คงเท่ากับ RTX2080 สินะ -_-"
Radeon VII ประกอบด้วย
มี SP Core 3840 ทำงานภายใน CU Core 60
ใช้หน่วยความจำแบบ HBM2 สปีด 1.98 Gbit/s (247.5MB/s) OC Max 2.4Gbit/s(300MB/s)
ช่องการทำงานของหน่วยความจำกว้าง 4096 bit
มีแบนด์วิดธ์สูงสุด 1024 GB/s(1TB/s) OC Mode 1228 GB/s
มีประสิทธิภาพเหนือกว่า RX Vega 64 ประมาณ 35-42 %
เทียบกับ RX Vega 64
มี SP Core 4096 ทำงานภายใน CU Coer 64
ใช้หน่วยความจำแบบ HBM2 สปีด 1.98 Gbit/s(247.5MB/s)
ช่องการทำงานของหน่วยความจำกว้าง 2048 bit
มีแบนด์วิดธ์สูงสุด 483.8 GB/s
มีประสิทธิภาพเหนือกว่า RTX 2080 แค่ 1% โดยรวม บางทดสอบ 14 %
เทียบกับ RTX 2080
มี Cuda Core 2944 ทำงานภายใน RT Core 46
ใช้หน่วยความจำแบบ GDDR6 สปีด 14 Gbit/s(1750MB/s)
ช่องการทำงานของหน่วยความจำกว้าง 256 bit
มีแบนด์วิดธ์สูงสุด 448 GB/s
มีประสิทธิภาพต่ำกว่า RTX 2080 Ti ประมาณ 11-14 %
เทียบกับ RTX 2080 Ti
มี Cuda Core 4352 ทำงานภายใน RT Core 68
ใช้หน่วยความจำแบบ GDDR6 สปีด 14 Gbit/s(1750MB/s)
ช่องการทำงานของหน่วยความจำกว้าง 352 bit
มีแบนด์วิดธ์สูงสุด 616 GB/s
เรื่องแรงผมว่าตามคิด แต่ติดว่าถ้ากินไฟกว่า RTX สองเท่า ต่อให้ราคาถูกกว่า คนก็ไม่ซื้อ ยิ่งเกมเก่าและใหม่ไม่ค่อยรองรับการ์ด AMD ดีเท่าที่ควรด้วย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
14nm RTX 2080Ti TDP 250w
14nm RTX 2080 TDP 215W
14nm RX Vega 64 TDP 295w
7nm Redeon VII TDP น่าจะน้อยกว่ามากเพราะใช้ชิปขนาดเล็กจึงกินไฟไม่มากประมาณ 200-220W น่าจะได้ เพราะขนาด CU core ลดลง 4 และขนาด SP Core ลดไป 256 ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นคือ เพิ่มความกว้างของหน่วยความจำเป็น 4096 เท่านั้น จึงสรุปว่า
AMD เปลี่ยน VEGA 20 รุ่น Redeon VII แค่สองอย่าง คือ
1.เปลี่ยนจากเทคโนโลยีการผลิตจาก 14 นาโนเมตเตอร์ เป็น 7 nm.
2.เพิ่มความกว้างของหน่วยความจำจาก 2048 bit เป็น 4096 bit
3.ลด SP Core ลง
4.ลดจำนวน CU Core ลง
ทำให้ค่า TDP โดยรวมน่าจะลดลงไปอยู่ราวๆ 200-220 W ไม่น่าจะเกินนี้แล้ว (ข้อมูลอย่างเป็นทางการยังไม่มี เป็นเพียงการคาดเดาตามหลักการเท่านั้น)
แต่ขนาดไฟ 8pin x2 + ขนาดพัดลมตัวการ์ด มันก็พอจะเดาพลังความร้อนที่มันปลดปล่อยออกมาได้เหมือนกันนะครับ
อย่าลืมนะว่า vega64 ทำงานที่ 1247MHz ขณะที่ตัวใหม่เองก็ clock เพิ่ม 45% ทำงานอยู่ที่ 1800MHz
ผมว่ามันหักล้างกัน 7nm ลดความร้อนลดอัตรากินไฟ แต่ดันคล็อกสูงขึ้น เพิ่มอัตรากินไฟ เพิ่มความร้อน ผมว่า TDP พอๆกับของเดิมอ่ะ
ความจริงผมคิดว่า 250W แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่า เทคโนโลยี 7nm. จะทำให้อัตราการบริโภคพลังงานลดลงไปมากแค่ไหน และที่สำคัญคือเขาเทียบเคียงกับ RTX 2080 ซึ่งมีค่าบริโภคพลังงานอยู่ที่ 215w จึงคิดว่า เขาไม่น่าจะทำให้กินไฟมากเกินไป และเรื่องความเร็ว Full load ของ GPU อยู่ที่ 1.8 คงไม่ใช่ปัญหาหลักในการบริโภคพลังงานเพิ่มขึ้นมากนัก เพราะ RTX 2080 เอง ก็มีความเร็วสูงสุด 1.7 ยังบริโภคพลังงานเพียง 215w แต่ดูจากขนาดสายไฟที่ใช้เชื่อมต่อแบบ 8+8 พินก็พอทราบได้ว่า รองรับการบริโภคพลังงานได้มากกว่า 250W
สถาปัตยกรรมต่างกันครับ ยกตัวอย่าง vega64 vs 1080ti อ่ะครับ ฝั่ง nvidia กินไฟน้อยกว่าและประสิทธิภาพสูงกว่า
ฉนั้นแล้วถ้าไม่มีเซอร์ไพส์อะไร ก็คงไม่ต่างจากที่หลายๆคนคาดการ์ณนักหรอก ชิบของทาง amd ยังคง per/w ยังด้อยกว่าอีกค่ายเยอะ
ดูจากในรูป ต้องใช้ 8 พิน 2ชุด แสดงว่ากินไฟเกิน 220 อยู่แล้วครับ เพราะถ้าต่ำกว่านั้นใช้ 6+8 ก็น่าจะพอ RTX 2080 ใช้ 6+8 ครับ
ขุดได้วันเท่าไหร่หว่า
ไม่คุ้มแล้วครับตอนนี้ แม้ใช้ไฟ Solar กับแบต ไม่พึ่งการไฟฟ้า ก็ตามที
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
แพง แต่ไม่มีของเล่นใหม่น่าตื่นเต้นเลย แอบผิดกวังเล็กน้อย
แพง
ถ้าการ์ดจะใหญ่ (และหนัก) ขนาดนี้ก็แถมเสาพลาสติกแบบปรับได้มาให้ตอนซื้อ แล้วตัด backplate ออกไปเลยก็ได้ อย่างการ์ดในรูปต้องใช้อย่างน้อย 2 เสา แต่ควรจะให้มา 3 เสา เพื้อเอาไปค้ำไว้ตรงจุดที่นิ้วกลางโผล่ และมุมด้านท้ายของการ์ดครับ
รองรับ DXR/VK_NVX_RAYTRACING?
ลืมไปนั่นของฝั่ง nvidia
เหมือนใช้ความได้เปรียบของการผลิตที่ขนาดเล็กกว่ามาอัดไฟเพิ่มเข้าไปเพื่อเร่งประสิทธิภาพมากกว่าเร่งพลังประมวลผลจากประสิทธิภาพที่ดีขึ้นของชิปใหม่มาสู้นะ ผลคือกินไฟกระจาย
กินไฟเยอะไม่น่าสนใจ ยังไงเครื่องใหม่คงใช้ NV ประหยัดค่า PSU ได้อีก
แสดงว่าต้องร้อนมากๆๆๆ
ไม่มี features อะไรใหม่ๆ บ้างเหรอ เห็นชูแต่ประเด็น 7 nm แถมดูท่าจะกินไฟเยอะตามเคย
NEW features for VEGA
-AUTO UNDERVOLT
-AUTO OVERCLOCK
-HBCC (include more frame rate)
-ray tracing (GPGPU) coming soon H2 2019