หลังจากผู้ผลิตจีพียูทั้งสองค่าย วางขายสินค้าระดับกลาง (รหัสลงท้ายด้วย 70 ซึ่งรอบนี้เรียกเหมือนกันแล้ว) กันเรียบร้อยแล้ว ก็ใกล้ได้เวลาของสินค้าระดับล่างลงมาคือรหัสลงท้าย 60
ค่ายเขียว NVIDIA มีข่าวหลุดออกมา 2 ตัว จากนักปล่อยข่าวฮาร์ดแวร์ชื่อดัง kopite7kimi
AMD เปิดเผยว่าเทคนิค FSR 4 ที่เริ่มใช้กับ Radeon RX 9000 ซึ่งทำผลการรีวิวออกมาได้ดี เป็นการพัฒนาโมเดล AI ที่ใช้อัพสเกลภาพร่วมกับโซนี่
ข่าวนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะ AMD ก็ร่วมกับโซนี่พัฒนาเทคนิค PSSR (PlayStation Spectral Super Resolution Upscaling) ที่ใช้ใน PS5 Pro มาก่อน และเริ่มใช้งานกับเกมบน PS5 Pro ที่รองรับไปตั้งแต่ช่วงปลายปี 2024 (สังเกตว่าในคลิปโปรโมท FSR 4 ก็มีแต่เกมโซนี่บนพีซี)
AMD Radeon RX 9070 และ 9070 XT มีกำหนดวางขายวันนี้ 6 มีนาคม 2025 และสื่อไอทีในหลายประเทศเริ่มปล่อยรีวิวออกมา ซึ่งผลการรีวิวออกมาในทางเดียวกันคือ Radeon 9070 สามารถเอาชนะคู่แข่ง GeForce RTX 5070 ได้ชัดเจน ถือเป็นจีพียูที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับการเล่นเกมระดับ 1440p
AMD เปิดตัวสถาปัตยกรรมจีพียูใหม่ RDNA 4 สำหรับคอนซูเมอร์ โดยชูจุดเด่นสำหรับสายเกมเมอร์ เพิ่มประสิทธิภาพทั้ง Raytracing และ Machine Learning ด้วยต้นทุนต่อประสิทธิภาพที่เหนือกว่า
RDNA 4 มีสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาจาก RDNA 3 รุ่นก่อนหน้านี้ ทั้งหน่วยประมวลผลหรือ Compute Unit สูงสุด 64 หน่วย ดีขึ้น 40%, ตัวเร่ง Raytracing รุ่นที่ 3 ให้ throughput ดีขึ้น 2 เท่า, ตัวเร่ง AI รุ่นที่ 2 ประมวลผลโมเดลได้เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้า
จีพียูบน RDNA 4 ที่เปิดตัวสองรุ่นแรกของซีรีส์ใหม่ Radeon RX 9000 คือ Radeon RX 9070 และ Radeon RX 9070 XT
David McAfee หัวหน้าฝ่ายซีพียู Ryzen และจีพียู Radeon ของ AMD ประกาศว่าบริษัทจะจัดงานแถลงข่าว 28 กุมภาพันธ์ 2025 เปิดตัวจีพียู Radeon RX 9000 อย่างเป็นทางการ
AMD เปิดข้อมูลของ Radeon RX 9000 สถาปัตยกรรม RDNA 4 มาบางส่วนในงาน CES 2025 และบอกว่าจะวางขายสินค้าในเดือนมีนาคม โดยว่ากันว่า AMD ตั้งใจจัดงาน Radeon RX 9000 เพื่อเลี่ยงการปะทะกับ GeForce RTX 50 โดยตรง
NVIDIA โพสต์บล็อกผลการทดสอบรันโมเดล DeepSeek R1 Distill ด้วย llama-bench ที่ขนาดพารามิเตอร์ต่าง ๆ โดยบอกว่า GeForce RTX 4090 เร็วกว่า AMD Radeon RX 7900 XTX ถึง 47% และถ้าใช้ RTX 5090 จะเร็วมากกว่า 100% เลย
การทดสอบนี้คาดว่าเพื่อตอบโต้ AMD ที่เผยแพร่ผลทดสอบการรัน DeepSeek ก่อนหน้านี้ว่า Radeon RX 7900 XTX เร็วกว่า RTX 4090 อย่างไรก็ตามด้วยตัวเลขที่ออกแตกต่างกัน จึงอาจมีความแตกต่างในทดสอบของแต่ละค่าย ก็ต้องรอดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันต่อไป
AMD เกาะกระแส DeepSeek ด้วยการโชว์เบนช์มาร์คว่าจีพียู Radeon RX 7900 XTX สามารถรันโมเดล DeepSeek R1 Distill (เวอร์ชันย่อยให้เล็กลงแล้ว) ได้แรงกว่าคู่แข่ง GeForce RTX 4090 สูงสุด 13% (ตามภาพท้ายข่าว)
โมเดลที่นำมารันโชว์มีทั้ง DeepSeek R1 Distill ที่ถอดมาจาก Alibaba Qwen และ Meta Llama ที่ขนาดพารามิเตอร์หลายแบบ โดยโมเดลที่ขนาดเล็กกว่า เช่น 7B จะเห็นความแตกต่างของการรันบนชิป AMD กับ NVIDIA ได้มากกว่าโมเดลขนาดใหญ่
วิธีการติดตั้งและรัน DeepSeek R1 Distill ในพีซี สามารถดูได้จากคลิปท้ายข่าว
ที่มา - AMD
มีข่าวคืบหน้า (อีกนิด) ของ AMD Radeon RX ซีรีส์ 9000 สถาปัตยกรรม RDNA 4 ที่ประกอบด้วย RX 9070 XT และ RX 9070
ก่อนหน้านี้ AMD ให้ข้อมูลคร่าวๆ ว่าตัวการ์ดจะวางขายภายในไตรมาส 1/2025 เท่านั้น ล่าสุด David McAfee ผู้จัดการฝ่ายจีพียูของ AMD โพสต์ข้อความแบบเจาะจงมากขึ้นอีกนิดว่า การ์ดจะวางขายเดือนมีนาคม 2025
ส่วนรายละเอียดเรื่องสเปกและประสิทธิภาพของการ์ดคงต้องรอการแถลงเพิ่มเติมในช่วงระหว่างนี้จนถึงการ์ดวางขาย ซึ่งยังไม่บอกว่าเมื่อไร
ที่มา - Wccftech
AMD จัดงานแถลงข่าวจีพียู RDNA 4 กับสื่อในงาน CES 2025 โดยเลือกไม่เปิดตัวบนเวทีใหญ่เดียวกับซีพียูกลุ่ม Ryzen
จีพียูสถาปัตยกรรม RDNA 4 มีของใหม่ดังนี้
รวมข่าวหลุดจีพียูใหม่ที่จะเปิดตัวในงาน CES 2025
เริ่มต้นด้วย NVIDIA GeForce RTX 5090 ตัวแรงที่สุด มีข่าวว่าจะให้แรม DDR7 ขนาด 32GB, การใช้พลังงาน (TGP หรือ Total Graphics Power) 600W, ตัวบอร์ด PCB เป็นแบบ 14 เลเยอร์, พอร์ตเชื่อมต่อ PCIe 5.0
5090 จะใช้ชิป GB202 ตัวสูงสุดของสถาปัตยกรรม Blackwell มีขนาดชิป 744 ตารางมิลลิเมตร ซึ่งใหญ่ขึ้นมาจากชิป AD102 ที่ใช้ใน 4090 ขนาด 608 ตารางมิลลิเมตร
ข่าวลือของค่าย AMD ออกมาเรื่อยๆ ก่อนงาน CES 2025 คราวนี้เป็นเรื่องของจีพียู Radeon สถาปัตยกรรม RDNA 4 ที่เดิมทีคาดว่าจะใช้แบรนด์ Radeon RX 8000 ทำตลาด แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าเลขจะขยับเป็น Radeon RX 9000 แทนแล้ว
เหตุผลน่าจะเป็นเพราะ AMD เตรียมเปิดตัวจีพียูออนบอร์ดสถาปัตยกรรม RDNA 3.5 สำหรับโน้ตบุ๊ก ซึ่งจะใช้แบรนด์ Radeon 8000S ทำให้จีพียูเดสก์ท็อปที่เป็น RDNA 4 ต้องขยับไปยังเลข 9000 แทน
ใกล้งาน CES 2025 เข้ามาเรื่อยๆ ฝั่งของค่าย AMD ก็เริ่มมีข่าวหลุดข่าวลือของชิป Ryzen AI MAX 300 หรือที่รู้จักกันในโค้ดเนม Strix Halo สำหรับโน้ตบุ๊กสายเกมมิ่งออกมา
ตามข่าวบอกว่า Ryzen AI MAX จะมีรุ่น Pro สำหรับงานเวิร์คสเตชันมืออาชีพ และรุ่น non-Pro สำหรับเกมมิ่ง โดยชิปตัวแรงสุดจะใช้ชื่อ Ryzen AI MAX+ (มี +) ทำตลาด สถาปัตยกรรมซีพียูเป็น Zen 5 และสถาปัตยกรรมจีพียู RDNA 3.5
ข้อมูลเบนช์มาร์คบน PassMark ที่หลุดออกมาเป็นของชิปสองตัวคือ
Jeff Geerling ยูทูบเบอร์สายฮาร์ดแวร์ ผู้เชี่ยวชาญการปรับแต่ง Raspberry Pi ทดลองนำการ์ดจอเกมมิ่ง AMD Radeon RX 6700 XT และการ์ดจอเวิร์คสเตชั่น AMD Radeon PRO W7700 มาต่อกับคอมพิวเตอร์ตัวน้อย Raspberry Pi 5 เพื่อดูว่าจะมีสมรรถนะแค่ไหน
การใช้ Raspberry Pi กับ Radeon 7000 จำเป็นต้องเพิ่มแพตช์ให้รองรับจีพียู และคอมไพล์เคอร์เนลใหม่เอง รวมถึงติดตั้งเฟิร์มแวร์ของจีพียู AMD เพิ่มเติม รายละเอียดสามารถอ่านได้จากที่มา
นักปล่อยข้อมูลฮาร์ดแวร์ชาวจีนที่ใช้ชื่อ Golden Pig Update ให้ข้อมูลของชิปโน้ตบุ๊ก AMD Ryzen รุ่นของปี 2025/2026 ดังนี้
โน้ตบุ๊กสายบางเบา (ultraslim) และสายทำงานทั่วไป
ตอนกลางปี 2024 เราเห็น AMD เปิดตัวชิปโน้ตบุ๊ก Ryzen AI 300 หรือโค้ดเนม Strix Point เปิดตัวและใช้แบรนด์ AI PC กันมาแล้ว ช่วงปี 2025 เราจะยังเห็น Strix Point จับตลาดบนเช่นเดิม ใช้สถาปัตยกรรมซีพียู Zen 5 สูงสุด 12 คอร์ และจีพียู RDNA 3.5 สูงสุด 16 CU เหมือนเดิม แต่อัพเกรดมาใช้แรมที่เร็วขึ้นเล็กน้อยคือ LPDDR5x-8000 และรองรับแรม DDR5 แบบปกติด้วย
AMD เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Variable Graphics Memory (VGM) ให้ชิปโน้ตบุ๊ก Ryzen 300 AI ที่เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายน และตอนนี้เริ่มมีโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิปตัวนี้วางขายแล้ว
ชิปโน้ตบุ๊ก Ryzen 300 AI มีจีพียูออนบอร์ดมาให้ในตัวคือ Radeon 890M ปกติแล้วจะได้แรมใช้งาน 512MB
ฟีเจอร์ VGM เปิดให้ผู้ใช้กำหนดแบ่งแรม (ของทั้งระบบ) ให้จีพียูเพิ่มอีก เช่น โน้ตบุ๊กมีแรม 32GB เราสามารถกำหนดให้ 16GB เป็นของซีพียู และ 8GB เป็นของจีพียูได้ เท่ากับว่าจีพียูได้แรมมาเพิ่มอีก 7.5GB ช่วยให้เล่นเกมได้ดีขึ้น ดันเฟรมเรตเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะกับเกมที่ต้องการแรมมากๆ
Jack Huynh รองประธานอาวุโสฝ่าย Computing and Graphics Business Group ของ AMD ให้สัมภาษณ์สื่อไอทีที่งาน IFA 2024 ในเยอรมนี เปิดเผยแผนการรวมสถาปัตยกรรมจีพียู RDNA และ CDNA เข้าด้วยกันเป็น UDNA
หลังจากหมดยุค Graphic Core Next (GCN) AMD ใช้แนวทางแยกสถาปัตยกรรม RDNA สำหรับงานเกมมิ่ง เริ่มใช้ในจีพียูตระกูล Radeon RX 5000 ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา ส่วน CDNA ใช้สำหรับจีพียูฝั่งศูนย์ข้อมูลตระกูล Instinct เริ่มปี 2020
ถึงแม้ RDNA และ CDNA มาจากรากเหง้าเดียวกัน แต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว ทำให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ต้องทำงานเพิ่มขึ้น ในขณะที่คู่แข่ง NVIDIA เลือกใช้สถาปัตยกรรมเดียวกันกับจีพียูเกมมิ่ง-ศูนย์ข้อมูล จึงเป็นข้อเสียเปรียบของ AMD ที่ส่วนแบ่งตลาดตามหลังอยู่แล้ว
AMD มีเทคนิคการสร้างเฟรมเพื่อเพิ่มเฟรมเรตชื่อ AMD Fluid Motion Frames (AFMF) (เป็นคนละอย่างกับ FSR ที่มีเรื่องอัพสเกลความละเอียดภาพด้วย โดย AFMF เพิ่มเฟรมอย่างเดียวไม่ขยายภาพ แต่ก็เกี่ยวเนื่องกัน) ล่าสุดออก AFMF 2 ที่มีความสามารถเพิ่มขึ้นแล้ว
ความสามารถที่เพิ่มเข้ามาใน AFMF 2 คือลด latency ที่เกิดจากการสร้างเฟรมลงได้เฉลี่ย 28% (ทดสอบกับ Cyberpunk 2077 ความละเอียด 4K) และสามารถใช้ร่วมกับเทคนิค Anti-Lag 2 ของจีพียู Radeon ได้ด้วย
Arm เปิดตัวเทคนิคการอัพสเกลภาพของตัวเองชื่อว่า Accuracy Super Resolution ตัวย่อ Arm ASR โดยพัฒนาต่อมาจาก AMD FSR 2 ที่เปิดเป็นโอเพนซอร์สอยู่แล้ว
Arm บอกว่าเทคนิคอัพสเกลภาพแบ่งได้ 2 วิธีใหญ่ๆ คือ spatial ที่เรียบง่ายกว่า เพราะใช้ภาพจากเฟรมเดียวกันมาคำนวณการอัพสเกล ประหยัดพลังการคำนวณมากกว่า แต่มีข้อเสียคือภาพที่ได้อาจเบลอ แนวทางนี้ใช้ใน FSR 1 ส่วนอีกวิธีคือ temporal ที่ซับซ้อนกว่า ใช้ภาพจากหลายเฟรมมาช่วยคำนวณ เปลืองพลังประมวลผลมากกว่า แต่ได้คุณภาพผลลัพธ์ดีกว่า และหากใช้เทคนิคนี้ร่วมกับข้อมูลจากเอนจินเกม จะช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้น แนวทางนี้ใช้กับ FSR 2
AMD ออก FidelityFX Super Resolution (FSR) เวอร์ชัน 3.1 อัพเกรดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก FSR 3.0 ที่ออกเมื่อปลายปี 2023 แก้ปัญหาเรื่องคุณภาพของภาพ และเทคนิคการสร้างเฟรมให้ใช้ร่วมกับเทคนิคอื่นได้ดีขึ้น (FSR ใช้ได้กับทั้ง Radeon 5000 ขึ้นไป และ GeForce RTX 20 ขึ้นไปอยู่แล้ว)
AMD ออกไดรเวอร์จีพียู Adrenalin Edition เวอร์ชัน 24.1.1 มีของใหม่ที่สำคัญคือเพิ่มเทคนิคเร่งเฟรมเรต AMD Fluid Motion Frames (AFMF) เข้ามาในไดรเวอร์สายหลักแล้ว หลังจากทดสอบแบบพรีวิวมาสักระยะหนึ่ง
Fluid Motion Frames เป็นเทคนิคสร้างเฟรมตัวเดียวกับที่ใช้ในชุด FidelityFX Super Resolution 3 (FSR 3) ซึ่งเปิดเป็นโอเพนซอร์สไปก่อนหน้านี้ แต่ AFMF มีเฉพาะฝั่งสร้างเฟรม ไม่รวมฝั่งอัพสเกลภาพมาด้วย คราวนี้ AMD ผนวกเข้ามาในไดรเวอร์ของจีพียู Radeon เลย ไม่ต้องดาวน์โหลดแยกเอง และใช้งานกับเกมได้ทุกเกมที่เป็น DirectX 11 และ 12
AMD เริ่มปรับราคา Radeon RX 7900 XT จากราคา 849 ดอลลาร์ (ราคาเปิดตัว 899 ดอลลาร์) ลงมาเหลือ 749 ดอลลาร์ เพื่อรับมือคู่แข่ง GeForce RTX 40 Super ที่เพิ่งเปิดตัว
ราคา 749 ดอลลาร์เป็นราคาที่ AMD แนะนำให้ขาย ซึ่งในทางปฏิบัติ มีการ์ดหลายยี่ห้อที่ตั้งราคาต่ำกว่านั้นแล้ว เช่น ASRock ขาย 7900 XT ที่ 709 ดอลลาร์บนเว็บไซต์ Newegg
เราเห็นค่าย NVIDIA มีฟีเจอร์ Video Super Resolution ช่วยอัพสเกลวิดีโอ โดยใช้ได้กับทั้งการชมวิดีโอผ่านเบราว์เซอร์ และผ่าน VLC กันไปแล้ว
ล่าสุดมีข่าวว่าฝั่งของค่าย AMD กำลังพัฒนาฟีเจอร์แบบเดียวกันในชื่อ FidelityFX Super Resolution โดยโชว์การใช้จีพียูอัพสเกลภาพจาก 720p เป็น 1440p แล้วภาพไม่แตกด้วย
AMD เริ่มโชว์ฟีเจอร์นี้ในงาน CES 2024 โดยบอกว่ากำลังร่วมมือกับ VLC พัฒนาแอพให้รองรับฟีเจอร์นี้ ซึ่งจะออกภายในไตรมาส 1/2024
จากข่าวลือก่อนหน้านี้ ว่า AMD จะเปิดตัวจีพียู Radeon RX 7000 ใหม่ 3 รุ่นย่อย (7600 XT, 7700, 7800) วันนี้ข่าวจริงมาแล้ว โดยเปิดตัวมาแค่รุ่นเดียวคือ Radeon RX 7600 XT
Radeon 7600 XT เป็นเวอร์ชันอัพเกรดของ Radeon RX 7600 ตัวธรรมดา มีตัวคอร์เท่ากัน (32 CU, 32 raytracing) แต่เพิ่มแรมจาก 8GB มาเป็น 16GB และเพิ่มคล็อคจาก 2250 MHz เป็น 2470 MHz, อัตราการใช้พลังงาน 190W, ราคาขาย 329 ดอลลาร์ เทียบกับตัวธรรมดาราคา 269 ดอลลาร์ เริ่มวางขาย 24 มกราคม 2024
มีข่าวหลุดมาจากแบรนด์การ์ดจอ Arktek (สำนักงานใหญ่อยู่ที่ฮ่องกง) ว่าเราอาจได้เห็น AMD เปิดตัว Radeon รุ่นย่อยเพิ่มเติมคือ Radeon RX 7600 XT, RX 7700, RX 7800 ในเร็วๆ นี้
ปัจจุบัน AMD มีการ์ด Radeon RX ซีรีส์ 7000 ฝั่งเดสก์ท็อปจำนวน 6 รุ่นย่อย โดยรุ่นล่างสุดคือ Radeon RX 7600 (ไม่มี XT) ราคาเปิดตัว 269 ดอลลาร์ แล้วข้ามมา Radeon RX 7700 XT ราคา 459 ดอลลาร์เลย ยังมีช่วงว่างของราคาให้ออกสินค้าได้อีก
หากข้อมูลของ Arktek เป็นจริง เราจะได้เห็น Radeon RX 7600 XT และ RX 7700 ตัวธรรมดามาอุดช่องว่างตรงนี้ รวมถึง Radeon RX 7800 ออกมาอุดช่องว่างระหว่าง 7700 XT กับ 7800 XT ด้วยเช่นกัน
หลังจาก AMD โอเพนซอร์ส FSR 3.0 ซอฟต์แวร์ช่วยสร้างเฟรมเรตที่ใช้กับการ์ดจอได้ทุกค่าย สิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นไปตามคาด นั่นคือมีนักพัฒนาจำนวนหนึ่งออกม็อดให้การ์ดจอรุ่นต่างๆ ใช้งาน FSR 3.0 กันแล้ว
การ์ดจอกลุ่มเป้าหมายสำคัญคือ GeForce RTX ซีรีส์ 30 ที่ไม่ได้เทคโนโลยี DLSS 3 ของค่ายตัวเองแบบเดียวกับซีรีส์ 40 ทางออกจึงเป็นการพึ่งพาซอฟต์แวร์จากค่ายคู่แข่ง AMD ให้การ์ดเหล่านี้สามารถใช้งานเทคนิคสร้างเฟรม เพื่อเพิ่มเฟรมเรตได้