เปิดศึกน้ำลายอีกระลอกหลังการเปลี่ยนเอนจินของ Microsoft Edge มาเป็น Chromium ซึ่งถึงแม้ Opera และ Google จะออกมายินดี แต่ไม่ใช่กับ Mozilla ที่มองว่าไม่เป็นผลดีกับสังคมเว็บโดยรวม
ล่าสุด Kenneth Auchenberg พนักงานของไมโครซอฟท์ในแคนาดาระดับผู้จัดการที่ดูแล Visual Studio Code ทวีตความเห็นส่วนตัวในประเด็นนี้โดยระบุว่า Mozilla ควรลงมาจากหอคอยงาช้าง (มีแต่หลักการแต่ไม่สนโลกความเป็นจริง) ได้แล้ว เพราะ Chromium แทบจะครองวงการเว็บและหาก Mozilla แคร์วงการเว็บจริงๆ ก็ควรจะมาร่วมกันสนับสนุนและช่วยกันสร้างสรรค์ ไม่ใช่สร้างจักรวาลคู่ขนานขึ้นมาและมีคนใช้งานอยู่แค่ไม่ถึง 5%
ขณะที่รีพลายของทวีตนี้ส่วนใหญ่จะยืนอยู่ข้าง Mozilla เรื่องการต่อต้านการผูกขาดเอนจินพร้อมยกตัวอย่างกรณี IE ขณะที่ตัว Auchenberg ก็แย้งว่าความแตกต่างของ IE กับ Chromium คือเจ้าหลังเป็นโอเพนซอร์ส
ที่มา - @auchenberg via ZDNet
Thought: It's time for @mozilla to get down from their philosophical ivory tower. The web is dominated by Chromium, if they really *cared* about the web they would be contributing instead of building a parallel universe that's used by less than 5%?https://t.co/0zi2NCtzb4
— Kenneth Auchenberg (@auchenberg) January 25, 2019
Comments
แวร๊งงงงง
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
+555555 แร๊งส์....
พอ บ.ของตัวเองเปลี่ยนปุ๊บ สกิลปากมาทันที
ซ้ำครับ
ยังไม่ค่อยเข้าใจกับความคิดนี้ครับว่า ถ้า moz มาใช้ chromium แล้ววงการเว็บจะพัฒนายังไง
ไปทางเดียวกันหมด ไม่ต้องมาระแวงว่า browser ต่างกันจะแสดงผล หรือมีพฤติกรรมต่างกันหรือไม่
อีกอย่างคือทุกคนจะได้ช่วยกันพัฒนา chromium ให้มัน robust ยิ่งๆ ขึ้นไปครับ
ส่วนตัวคิดว่าหมาไฟยังคงความเร็วได้ ก็เพราะยังไม่โดนยำนี่แหละ
ผมเคยเจอ issue ใน GitHub ของ docker ที่มีคนเรียกร้องให้เพิ่ม flag ตัวนึงใน command line กันเยอะแต่คนดูแลไม่ชอบไม่เอาด้วย ขนาดมีคนบอกว่าเค้าทำให้แล้วส่ง pull request ให้ก็ได้ แต่ถามก่อนได้มั้ยว่าถ้าส่งไปจะรับรึเปล่า ถ้าไม่รับจะได้ไม่เสียเวลาทำ คำตอบคือ "ไม่รับ แล้วนี่เป็น open source ถ้าไม่ชอบใจก็ fork ไปทำเองสิ" ก็มีคนมาด่าว่าถ้าทุกคนแยกออกไปทำใหม่เพราะเรื่องเล็กแค่นี้มันก็เสียเวลาเปล่า ๆ แทนที่จะมาช่วยกันทำตัวเดียวให้มันดี ๆ
สวรรค์ของคนทำเว็บครับ ไม่ต้องแก้ให้เมื่อย
ถ้าลูกค้าบอกว่า ต้องซัพพอร์ท IE6 ล่ะ?
IE can go to HELL!!! (คิดในใจ)
เดี๋ยวดูให้นะครัฟ
บ. ผมบอกไปเลยว่าไม่รองรับ เราสนับสนุนเฉพาะรุ่นที่ MS support
"เจ้าน่ะ(IE) ตายไปแล้ว"
"หน่านี๊!" ตูม หัวระเบิดตาย
omaewa mou shideiru!
ค่าทำแบบ modern เท่าไหร่ คิดราคาคูณสิบเข้าไปเพื่อรองรับ IE6 ครับ
เนี่ย พวกคุณมีทัศนคติแง่ลบในการทำงานนะ #กอดอกทำหน้าจริงจัง
ลูกค้ายังใช้ Chrome เวอร์ชัน 5 ปีที่แล้วอยู่ (เรื่องปรกติสำหรับ Enterprise)
คนทำเว็บจะทำง่าย เพราะเป็นรูปแบบเดียวกันหมด + ได้แรงงานอีกทีมงานมาช่วยส่งฟีดแบค
open source แล้วเหลือรายเดียวมันต่างอะไรกับผูกขาด...
I need healing.
ต่างตรงที่ fork ได้ทุกเมื่อครับ....
การผูกขาดคือการเป็นผู้เล่นเจ้าใหญ่เจ้าหลักครับ ฟอร์กได้ แต่ถ้าไม่ทำให้ตลาดเปลี่ยน มันก็คือโอเพนซอร์สที่ผูกขาดตลาดอยู่ดีครับ
ฟอร์กเป็นเรื่องทางลิขสิทธิ์ แต่การผูกขาดเป็นเรื่องทางเศรษฐศาสตร์ครับ คนละเรื่อง
ผมเข้าใจว่า คำว่า "ผูกขาด" เขาหมายถึงการเป็นระบบปิด แต่อาจใช้คำไม่ถูกต้องครับ (นั่นแหละ เพราะมันคนละเรื่องกัน)
ถ้าในอนาคตมันเลวร้ายเกินทนก็ยัง fork ได้ครับ ดูตัวอย่างจาก OpenOffice ได้ที่ fork เป็น LibreOffice ณ ปัจจุบันนี้ LibreOffice ก็แทนที่ OpenOffice กันไปแล้ว
+1ทีมหมาไฟนะฮะ
+1 ทีมหมาไฟ อยู่กันมาตั้งแต่ 1.5 เกือบย้ายตอนช่วง 50 เพราะมันช้าเหลือเกิน ตอนนี้มีความสุขดี
ผมเคยพยายามใช้ Firefox อยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็ไม่ไหวเพราะเวลาเจอ issue ที่มีผลกระทบกับตัวเองแล้วไปหาเจอใน backlog ของ Firefox ก็ชอบเจอว่าเปิดมาหลายปีแล้วสถานะยังเป็น open อยู่เลย ยังไม่มีใครเริ่มดูด้วยซ้ำ ดูอาการแล้วเหมือนคนทำน้อยตาม chrome ไม่ทัน แล้วสถานการณ์ก็ดูจะแย่ลงเรื่อย ๆ
ตบกัลเลยคร่ะ
โอเค เข้าเรื่อง
ไม่แปลกที่ MS จะตัดสินใจเข้าร่วม Chromium นะครับเพราะว่าเป้าหมายของ MS อันนึงคือการเป็นมิตรกับนักพัฒนา การที่ MS พยายามสร้างอีกมาตรฐานนึงขึ้นมามันจะทำให้นักพัฒนาทำงานยากขึ้นเพราะต้องรองรับหลายมาตรฐาน
ถ้าจะสู้กันด้วย Browser Engine จริงๆ ต่อให้โครงเริ่มต้นเหมือนกันก็ไม่ได้แปลว่า Function ของ Edge ต้องเหมือนกันกับ chrome เสมอไป
ผมมองว่าไม่ได้กะเป็นมิตรกับนักพัฒนาหรอกครับเรื่องเปลี่ยน engine เนี่ย
แค่ดัน edge แล้วก็ยังสู้ไม่ไหว ทำไปก็เปลืองงบมากกว่า
+1 คิดว่าแนวนี้เหมือนกัน แล้วเดี๋ยวก็เริ่มฝังอะไรเข้ามาอีก เหมือนตอนรองรับไฟล์ OpenOffice ใน MS Office
คือตอนแรกผมว่า Microsoft ไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่ Mozilla ออกแถลงการณ์แสดงความผิดหวังต่อการตัดสินของ Microsoft มอง Chromium เป็นองค์กรตัวร้ายคล้ายๆ Umbrella Corporation ทาง Microsoft (แต่ไม่ใช่ในนามบริษัท) เลยต้องออกมาตอบโต้
555 หยามกันชัดๆๆๆ
firefox ไม่ได้บอกว่า ไม่ดี แต่มันจะกลายเป็นการผูกขาด(คอมมิวนิสต์) ซึ่งคนนี้มันพูดแบบดูผิดมากๆ ไม่ให้กำลังใจ และ ดูแล้วมองโลกในแง่ร้าย
Communist ไม่ใช่การผูกขาด แต่หลักการคือทุกคนช่วยกันทำและได้แบ่งปันเท่าๆกัน
หลักการดี เสียที่ผู้นำฯทั้งนั้น
Communist = สังคมนิยม เน้นผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลักครับ เน้นเรื่องผลประโยชน์ของ Community เป็นหลักครับ ไม่ใช่การผูกขาดนะ
ปัญหาของระบบนี้คือการขาดการแข่งขัน ถ้าเกิดว่าทุกอย่างมันนิ่งแล้ว การพัฒนาจะช้าลงครับ
ผมว่าร่วมก่อนดีแล้ว พอ Edge มีคนติดมากขึ้นเพราะดีขึ้นหรืออะไรก็แล้วแต่คนก็ไม่จำเป็นต้องโหลด Chrome ดีไม่ดีกายเป็น ms ครองตลาด browser อีกก็ได้ แล้ว fork มาทำต่อ ยังไง windows ก็น่าจะเป็น platform ที่ใช้ browser เยอะสุด
มันควรจะเป็นมาตรฐานหรือเปล่าหว่า ต้องมีอันเดียว
ณ ตอนนี้ก็ W3C ไงครับ ที่กำหนดมาตรฐาน แล้ว browser ต่างๆ ก็เอาไป implement ให้มันตรงกับมาตรฐานที่ W3C กำหนด แต่ถ้า browser ส่วนใหญ่หันไปใช้ Chromium มันก็จะทำให้ Chromium เป็นคนกำหนดมาตรฐานไปโดยปริยาย ซึ่งกรณีเลวร้ายสุดๆ เราอาจจะได้เจอ The New IE6 ครับ
ประเด็นคือ W3C ออกมาตรฐานช้าไง พวก browser เลยไปปรับมาตรฐานเอง เช่น QUIC ของกูเกิลที่สุดท้าย ก็กลายเป็นมาตรฐานจนได้
ความซวยมันเลยตกสู่นักพัฒนาเว็บที่ต้องมาคอยตามเช็ดทำเว็บให้สนับสนุน browser ทั้ง 2 ตัว การที่ edge ใช้ Chromium มันดีตรงที่ต่อไปก็จะได้ทำให้ซัพพอร์ตเฉพาะ Chrome, Edge, Oprea เท่านั้นไปเลยไหม? เพราะ แค่ 3 ตัวนี้ผมว่า ก็เกินครึ่งของอัตราส่วนของคนใช้ web browser ไปแล้ว ดังนั้นต่อไปนี้ จะซัพพอร์ต Firefox ให้เสียเวลา เสียทรัพยากรไปเลย พอหลายองค์กร หลายเว็บไซต์ไม่ซัพพอร์ต Firefox เดี๋ยวก็เงียบไปเอง
Chromium จะกำหนดทิศทางมาตรฐานของเว็บในอนาคตไหม?
อาจจะ แต่นักพัฒนาก็คงต้องไปตกลงกันก่อน ว่าทิศทางไหนดีที่สุด นั้นคือการกลั้นกรองมาแล้ว ก็สามารถยื่นมาตรฐานเข้า W3C ได้เร็วขึ้น ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ต่างคนต่าง fork ออก implement ใน web browser ของตัวเอง หรือ worst case ก็วงแตก ต่างคนต่างทำเหมือนเดิม
เรื่องนี้ Win-Win ทั้งคนพัฒนาเว็บ และคนพัฒนา web browser นะ แต่ไม่วินกับ Firefox คนเดียวเท่านั้นเอง
W3C ก็พวกคนทำ Browser ด้วยกันเองนี่ล่ะครับ
ที่มันลง Browser ก่อนคือเขาต้องทดลองกับ Software ตัวเองว่ามันใช้ได้ผลจริง มีประโยชน์ก่อน ถึงจะผลักดันเข้ามาตรฐานต่อไป พวก Board ของมาตรฐานเปิดเป็นแบบนี้เหมือนกันหมดครับ
ทุกวันนี้ เห็น Browser มันก็แสดงผลต่างกันนิดๆ หน่อยอยู่เลยนะครับ บางอันเปิดบนตัวนี้ไม่ได้ก็มี แต่ละเจ้าก็ไม่ตรงกันสักที เวลาก็ผ่านมานาน ผมไม่เห็นมันจะเข้าเขาทางได้เลยนะครับ
ส่วนตัวคิดว่าถ้ามันเหลือ Engine เดียว มันก็ไม่น่าเหมือน IE6 ได้นะครับ เพราะทุกคนเหมือนกันหมดแล้ว ไม่ได้แตกแยกอะไรแล้ว อาจจะเป็นไปตามกลไกตลาด Demand supply ไม่มีรัฐควบคุมงี้ ก็อิสระอีกแบบหนึง
แคร์ RAM ผมด้วย
+1024
แทนทีจะสนับสนุนให้ OpenSource มีความหลากหลาย มีทางเลือกหลากให้ผู้ใช้
MS กลับอยากให้ OpenSource ผูกขาดเพียงหนึ่งเดียว
แต่ chromium เป็น engine ไม่ใช่เหรอครับ เอาไปพัฒนาเป็น browser ได้หลายตัว
เพราะ end user ไม่ได้ใช้ chromium แต่ใช้ browser นี่ครับ
ในมุมผมก็อาจจะเป็นการผูกขาดเหมือนกันครับ เพราะมี engine เดียว ซึ่ง feature หรือหลายๆอย่างก็จำเป็นต้องพึ่ง engine ด้วย ถึงแม้จะเอาทำ product ที่แต่กต่างกันได้แต่อนาคตของ product ก็ขึ้นอยู่กับ engine เหมือนกัน
อันนี้ผมถามแบบไม่รู้
ปกติทุกคนช่วยสามารถช่วยกันทำ PR ขึ้นไปที่ main repo รึเปล่าครับ
chromium เป็นเบราว์เซอร์คับ มันคือ Chrome เวอร์ โอเพ่นซอร์ส ไอคอนมันสีน้ำเงินฟ้า เอ็นจิ้น มันคือ blink+v8 คับ
ที่ ms ทำก็แค่ เอา chromium มาทำศัลยกรรม เพิ่มโน่นนี่นั่นแหละคับ ตามประสาของเขา
สงสารคนทำเว็บมั่ง
*พนักงาน MS คนหนึ่ง
รอ MS upgrade browser ในเครื่อง user ได้ครบหมดเมื่อไหร่ เดี๋ยวรู้เลยฮับ
/ ทีม ช่วยทำให้มัน support เหมือน ๆ กันหมดทีเหอะ
/ ไม่ support browser อินดี้ทุกชนิด
/ อยากได้ก็ทำเองฮะ
I stand with u
อย่าเปลี่ยนนะ ใช้ Firefox เพราะ Firefox คือ gecko ผู้ใช้ควรมัทางเลือกซิ
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
ตั้งแต่สมัย Netscape จนแตกมาเป็น Mozilla แนวทางของเจ้าหมาไฟก็เป็นมวยรองมาตลอดอยู่แล้ว อนาคตก็คงมีอยู่ต่อไป ซึ่งดีแล้ว ปล่อยพี่ mozilla ทำของแกไปอย่าไปยุ่งกับเขาเล้ย ตลาดไม่โดนผูกขาดเป็นดี (การมีตัวเลือกนะดีที่สุดแล้ว)
... อีกอย่างการมีคนของ mozilla นั่งใน WG ของ W3C ช่วยเบรกไอเดียบ้าคลั่งที่เอนจิเนียกูเกิลเสนอ RFC หลายครั้งแล้ว และสาเหตุที่เอนจิเนีย mozilla มีอำนาจต่อรองแบบนั้นได้เพราะส่วนแบ่งผู้ใช้ firefox ที่มีอยู่ หากวันใด mozilla ใช้ chromium บอกได้เลยว่าอำนาจต่อรองจากกูเกิลจะเยอะมากเกินกว่าควรจะเป็นอีกโข
แน่ละเว็บอาจจะพัฒนาไปเร็วขึ้น มาตฐานอาจออกเร็วขึ้น แต่ไม่แน่ว่าจะดีกับทุกฝ่าย (กูเกิลเป็นองค์กรณ์แสวงหาผลกำไร ทิศทางที่เดินไปย่อมมีผลกำไรเป็นที่ตั้ง) สรุปคือปล่อย mozilla ค้ำคอไว้แบบนี้ดีแล้ว :)
ปล. ผมนี่นึกถึงประวัติศาสตร์เวียนหัวๆอย่าง W3C vs WHATWG ขึ้นมาเลย
+1
Netscape นี่เป็นบราวเซอร์หลัก IE แข่งไม่ได้ จนกระทั่ง MS เอา IE ไปใส่ใน Windows เลยล่ะครับ
จริงแหะ นึกไปไม่ถึง ตอนผมเริ่มศึกษาด้าน PC ก็เห็น IE ครองตลาดแล้ว ถึงจะเคยอ่านว่า Netscape คนนิยมใช้แต่ก็เป็นยุคก่อนหน้าไม่ได้รับรู้เอง 555555
ถึงแม้ว่ามันเหมือนจะทำให้งานของผมง่ายขึ้น ถ้าหากทุกเจ้าหันมาใช้ engine เดียวกัน แต่ผมก็ยังสนับสนุนให้ยึดแนวทางเดียวกันแบบที่คุณว่ามาครับ ยุคนี้ถึงมันจะแสดงผลได้แตกต่างกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้แก้ยากนรกแตกเท่ายุค IE6 แน่นอน
+65.0
ทีมหมาไฟคับพ้ม
Join me, and together, we can rule the galaxy...
:-)
ถ้าเขียนเวปดีๆ Firefox ก็แสดงผลเหมือน Chrome เลยนะครับ
ถ้าบ่น บ่น Safari ดีกว่าครับ 555-
ผมว่าตรงนี้ก็เป็นส่วนนึงของปัญหานะครับ ?
วันนี้ไปงีบเพราะเวียนหัวคลื่นไส้ปวดท้อง หลับได้ไม่ถึงสิบนาทีโดนโทรปลุกเพราะ Safari ทำพังอีก ?
เอ้า ผมก็นึกว่า Safari ใช้เอนจินเดียวกับ Chromium ซะอีก (fork ไปแล้วนี่นะ)
เอน็จอนาถมากครับตอนนี้
ใน surface ไม่ได้ใช้ edge เพราะไม่รองรับ streaming จะใช้ chrome ก็กินพลังงานกับแรมเยอะไป ผลเลยมาตกอยู่ที่ firefox
ไม่ยักกะมีคนพูดถึง safari
ถึงใช้ webkit เหมือนกันแต่หลายเคสก็แสดงผลไม่เหมือนกับ chrome...
ฝั่ง Chrome เค้าแยกวงออกมานานแล้วครับ
https://en.wikipedia.org/wiki/Blink_(browser_engine)
บางที Safari บน os x ก็ไม่เหมือน iOS ... เครียดมาก
ถัดขึ้นไปสองคอมเมนต์นี่เองครับ ?
ก็ได้แต่หวังว่า Mozilla จะไม่บ้าจี้
ไปไม่รอดแล้วเหวี่ยง