Asia Internet Coalition (AIC) สมาคมบริษัทไอที ที่รวมตัวกันเพื่อส่งเสริมความเข้าใจนโยบายด้านอินเทอร์เน็ตแห่งเอเชียแปซิฟิก แถลงแสดงความผิดหวังรุนแรง (deeply disappointed) ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติผ่านพ.ร.บ.ว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
AIC ชี้ว่าปัญหาของพ.ร.บ. มั่นคงไซเบอร์คือการให้น้ำหนักกับ "ความมั่นคงของชาติ" ซึ่งนิยามไม่แน่ชัด แทนที่จะมุ่งเน้นจัดการความเสี่ยงทางไซเบอร์ตามเป้าหมายของกฎหมาย ขณะเดียวกับกรรมการความมั่นคงไซเบอร์ที่กฎหมายสร้างขึ้น ก็ไม่มีตัวแทนของอุตสาหกรรม, ภาคประชาสัมคม มีส่วนร่วมแต่อย่างใด และทาง AIC ขอให้รัฐบาลฟังเสียงและทำให้กฎหมายมีความโปร่งใส และมีกระบวนการตรวจสอบ
AIC เป็นตัวแทนของบริษัทไอทีขนาดใหญ่ เช่น กูเกิล, แอปเปิล, อเมซอน, และไลน์ ที่แสดงความเห็นด้านนโยบายสาธารณะ โดยเคยแสดงความเห็นต่อนโยบายในประเทศไทยมาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2017 เมื่อกสทช. พยายามควบคุมบริการวิดีโอออนไลน์ หรือ OTT
ที่มา - Asia Internet Coalition
ภาพจาก Pixabay
Comments
เขาคงไม่สน AIC หรอก
ขึ้นกับ "เขา" นี่ใครครับ
ถ้าเขาเดียวกับที่ถามว่าทำไม cloud ระดับโลกไม่มาตั้งที่ไทย AIC ก็มีสมาชิกเป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่มากสองรายแล้ว
lewcpe.com, @wasonliw
ทำไมดู Thai PBS ผูเชี่ยวชาญบอกไม่ได้กระทบกับคนทั่วไป เน้นป้องกันการโจมตีโครงสร้างพื้นฐาน
https://youtu.be/ND0kAuAi9ZM
ขนาดนักข่าวยังสั่งปลดได้ เรื่องแค่นี้จิ๊บๆครับ
เกี่ยวอะไรกับพรบ.ไซเบอร์หรือครับ
สั่งได้
ล่าสุดศาลยังเพิ่งยกฟ้องว่า ปล่อยข้อมูลเท็จของประยุทธ์บนอินเตอร์เน็ต ไม่เท่ากับผิด พรบ คอมนะครับ มันต้องรอการตีความ
ไม่ผิด พรบ ความมั่นคงต่างหาก
พรบ คอม ถูกแล้ว
ศาลยกฟ้อง คดีโพสต์ข่าวลือประยุทธ์โอนเงินหมื่นล้านผิด พ.ร.บ. คอม ลุ้นคดีธนาธรต่อ
https://www.blognone.com/node/108254
ไม่ผิดพรบ.คอม เพราะมาตรา 14(2) บอกว่าผิดเมื่อกระทบความมั่นคงครับ
ข่าวล่าสุดมาแล้วบอร์ดใจร้อนปลดเองไม่เกี่ยวอะไรกับลุงตู่
เขาคงจะกล้าบอกแหละครับว่าสั่งปลด แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ก็เขียนตามข่าว เชื่อไม่เชื่อตามสบาย
ผมพูดในเชิงปฏิบัติครับ
ไม่มีคนสั่งแล้วไปปลดเองเป็นไปไม่ได้ครับใครจะไปทำ
รู้รึเปล่าว่าอาจถูกฟ้องเป็นคดีความนะครับ ไม่มีใครบ้าทำเองตามอำเภอใจครับคิดอย่างมีเหตุผลครับไม่ใช่เชื่อแต่ข่าว
ได้อ่านข่าวไหม ผอ.อสมท.บอกไม่ได้ปลดนักข่าวคนนั้น
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/828496
เงิบทั้งคู่นั่นแหละ
ผมอ่านแล้วไม่ได้เงิบเลย ให้การภาคเสธแบบนี้ คือยอมรับนั่นแหละครับ
อยากให้อ่านจนครบครับจะได้เห็นการแถครั้งใหญ่เลยล่ะ
ลองอ่านในข้อที่ 2 ดูครับ ข้ออ้างชัดๆ "อาจจะให้พิธีกรที่มีความเชี่ยวชาญด้านข่าวเศรษฐกิจ มาสลับกับพิธีกรเดิมบ้าง"
การทำรายการพวกนี้การเปลี่ยนพิธีกร ไม่ใช่เรื่องปกตินะครับ จะมาอยากเปลี่ยนก็เปลี่ยนตามอำเภอใจไม่ได้
เพราะถึงเปลี่ยนก็คือเปลี่ยนพิธีกรสมทบแต่ก็ต้องมีพิธีกรหลัก
ที่สำคัญถ้ามีแผนแบบนี้แต่แรกพิธีกรก็ต้องทราบคงไม่ออกมาโวยวายเพราะ "มีกำหนดการแน่ชัดอยู่แล้ว"
พูดตรงๆนะครับคือเขาแถไม่ค่อยเนียนครับขัดกันเองไปมา
ข้อนี่ผมก็ทราบ แต่ยังไงก็ไม่ได้ปลดนักข่าว จะว่าแทรกแซงก็ใช่ แต่จะเขียนว่าปลดไม่ได้
แต่มันคือการ"ปลด"โดยพฤตินัยครับ
ที่เขารีบออกมาแถแบบนี้ก็เพราะถ้าไปปลดแบบดื้อๆ งานงอกแน่ครับคดีความเป็นพรวนรออยู่
เผลอๆโดนตั้งกรรมการสอบสวนด้วย
ที่สำคัญในข้อที่ 3 เขาพูดเองนะว่า "ในฐานะผู้บริหารสูงสุดของอสมท ผมตระหนักดีว่า จรรยาบรรณและเสรีภาพของสื่อมวลชนเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น การทำงานของอสมท จึงให้อิสระแก่ทีมงานข่าว โดยไม่ก้าวล่วงหรือ แทรกแซง แต่อย่างใด"
คุณยอมรับว่าเขาแทรกแซง แต่ตัวเขาเองพูดว่า "ให้อิสระแก่ทีมงานข่าว โดยไม่ก้าวล่วงหรือ แทรกแซง แต่อย่างใด"
ย้อนแย้งดีไหมครับ ผมว่าคุณไม่จำเป็นต้องไปแก้ตัวแทนเขาหรอกครับ ยิ่งแก้ตัวเจ้าตัวยิ่งดูแย่ลง
ผมทำงานเกี่ยวกับคดีบ่อยๆครับ ให้การแบบนี้เรียกว่าให้การภาคเสธ กึ่งยอมรับกึ่งปฏิเสธ
แต่มีหลายครั้งมากที่จะมีมหกรรมแถจนขัดแย้งกันเองในคำให้การ
คดีนี้เขาอ้างว่า ไม่ได้ "ปลด" และ "แทรกแซง"
แต่ในทางพฤตินัย ตัวเขาทั้ง "ปลด" และ "แทรกแซง" ครับ
เหมือนบอกว่า"เอามีดไปแทงเขาจนตายจริง" แต่บอกว่า"ไม่ได้เจตนาฆ่า" นั่นแหละครับ
วัตถุกประสงค์ => วัตถุประสงค์
กลายเป็น เรื่อ โอละพ่อ จริง ๆ พรบ. ไซเบอร์ รัฐถูกด่าฟรี
https://www.facebook.com/watch/?v=544971799344908
คนที่มาให้ข่าวก็เป็นเลขา TISA นี่ครับ? แถมไม่เห็นแก้ต่างอธิบายข้อกังขาให้ตรงไหน มีแต่
แถบอกอ้อมๆตามหลักและวัตถุประสงค์ของกฎหมายนี้มันดีจริงครับ ไม่มีใครว่าแน่นอน แต่คนเค้าพูดเรื่องการเขียนกฎหมายที่ไม่รัดกุมเป็นช่องโหว่ต่างหาก
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เป็นเลขา TISA แล้วมันไม่ดีตรงไหนเหรอครับ? เค้าเป็นเอกชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับ พรบ. ฉบับนี้โดยตรง
เคยคัดค้านร่างฯแรก และมีส่วนในการแก้ไขจนได้ ฉบับนี้
ผมว่าคำพูดเค้ามีเครดิตน่าเชื่อถือกว่านักวิชาการคีย์บอร์ดที่ไม่มีที่มาที่ไปตั้งเยอะ
ดูสมาชิก committee ของ TISA ก็ได้ครับ จะได้รู้ว่าเอกชนหรือไม่เอกชน
P อ. เมธา สุวรรณสาร = อ่านเองเลยครับ
VP พลเอกบรรเจิด เทียนทองดี = ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม, ที่ปรึกษา DTI มีแนวคิด Cyber Command มาตั้งแต่อย่างน้อย 2015 เป็นหนึ่งในคนเขียนนโยบายและแผนของกฎหมายฉบับนี้
VP พลตรี ดร. ปรัชญา เฉลิมวัฒน์ = รองผู้อำนวยการศูนย์รักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ กรมเทคโนโลยีสารสนเทศและอวกาศกลาโหม่, กรรมการการไฟฟ้านครหลวง, กรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
หรือปริญญา หอมเอนก คนที่มาให้ข่าว = อนุกรรมการด้านความมั่นคงในคณะกรรมการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์, ที่ปรึกษากองทัพบก, ที่ปรึกษาสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (NIA), ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ กระทรวงกลาโหม, ที่ปรึกษาคณะกรรมการความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ภายใต้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
OK นะครับ?
ผมพึ่งรู้ครับว่าความน่าเชื่อถืออยู่ที่ตำแหน่ง ไม่ได้อยู่ที่หลักเหตุและผล ผมนี่ fallacy จริงๆ
อ้ออีกอย่างคุณจะบอกใช่ไหมครับว่า Asia Internet Coalition ไม่ใช่เอกชน?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
คุณอยากได้คดีเหมือนคดีวีซีดีมือสอง อีกรอบก็สนับสนุนไปครับ กฎหมายที่ร่างมาแบบหลวมๆเร่งๆออกแบบนี้เนี่ย สำหรับบางคนนี่หวานหมูครับช่องว่างเพียบ
ผมพูดในฐานะสวมหมวกทั้งด้าน IT กับ LAW เท่าที่ดูเนี่ย
อนาคตอาจมีคนโดนหมายเรียกหมายจับแบบประหลาดๆอีกเยอะเพราะเปิดช่องให้ใช้ดุลพินิจได้เยอะดี
แล้วเรื่องขอหมายศาล ศาลก็ไม่ได้เข้าใจเรื่องพวกนี้อีก ถ้าคุณเข้าใจระบบงานศาลจะรู้ว่ากฎหมายตัวนี้น่ากลัวมากครับ ผู้พิพากษาต่อให้อบรมแล้วถ้าไม่มีความเข้าใจลึกซึ้งโดนหลักฐานปลอมลวงเอาได้ง่ายๆเลย
คือจะให้มีกฎหมายนี้ได้ควรจะต้องมีศาลชำนาญพิเศษของเรื่องนี้โดยเฉพาะครับอย่าทะลึ่งรีบออกมาเป็นกฎหมายทั้งๆที่ศาลยังไม่พร้อมจะดีกว่า
สำหรับผมไม่เดือดร้อนครับได้ตังใช้ด้วยเพราะมันเป็นงาน
แต่สำหรับคนอื่นโดนตั้งแต่โดนออกหมาย ต้องไปประกันตัว เสียเวลาเสียเงิน
ส่วนจะยกฟ้องหรือไม่ คุณคิดว่าทนายที่ถนัดเรื่องพวกนี้มีกี่คน เป็นจำเลยก็ลำบากพออยู่แล้ว ยังจะต้องไปหาทนายเก่งๆหรือทีมทนายเก่งๆที่มีความรู้ความเข้าใจเรื่อง cyber security ดีอีก แถมยังต้องไปลุ้นดุลพินิจศาลอีก
ว่าแล้วผมก็ไปสอบใบประกาศนียบัตรเพิ่มพลิกวิกฤติเป็นโอกาสน่าจะดีครับ
ปล. คนเราจะเห็นว่ามันดีก็ตอนที่อ่านผ่านๆแต่เมื่อไหร่ที่โดนเข้ากับตัวเองเดี๋ยวก็จะพูดว่ามันไม่ดีเองแหละครับ
ผมเข้าใจคนจำนวนมากที่อยากได้คำอธิบายนะครับ ผมเคยเห็นคนถูกแฟนนอกใจแล้วขอแค่คำพูดว่า "จะไม่ทำอีก" หรือแค่ขอได้ยินจากปากว่า "ไม่จริง" ก็ยินดีเชื่อ และปล่อยวาง
บางทีมันก็สบายใจดี
lewcpe.com, @wasonliw
it will be okay ทีไร อิ๊บอ๋ายทุกที
io ฝ่ายทหารเหรอครับ
ผมว่ากฏหมายเรากำลังคิดแบบคอมมิวนิสต์อยู่หรือป่าว?
ผมว่าฟาสซิสต์นะ คนปฏิบัติออกแนวเกสตาโปอยู่กลายๆ
พูดถึงเกสตาโปแล้วนึกถึงคุณเทอดศักดิ์ครับ
ผิดตั้งแต่ที่หวังแล้วครับ
AIC ไม่เข้าใจบริบทของวัฒนธรรมไทย
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
ผมไม่เชื่อว่า Internet จะปลอดภัยด้วยกฎหมาย มันจะปลอดภัยได้ต่อเมื่อคนทำงาน IT + User + การแข่งขันมากกว่า
ต่อให้มีกฎหมายเมื่อ 3-4 ปีที่แล้วผมก็ยังเชื่อว่า True ก็โดนแฮก/หรือเปล่า โดยที่เอาผิดใครไม่ได้ด้วย
ผมไม่รู้ว่าผมอ่านไม่ครบหรือเปล่าแต่สงสัยว่า คำว่าวิกฤตรายแรงเนี่ยมันจะมีกระบวนกการได้มาซึ่งระดับนี้ยังไง มีการประกาศให้ประชาชนรับรู้หรือเปล่าหรือแค่จับไว่ก่อนแล้วค่อยมาบอกหรืออะไรแล้ววิกฤตเนี่ย มีการยุติการประกาศหรือหรือมันดูเป็นรเรื่องเฉพาะรายคน แล้วคำว่าวิกฤตเนี่ยผู้ถูกจับจะสามารถอุทรณ์ต่อศาลว่ามันไม่วิกฤตได้ไหมอย่างไร
ผมจินตนาการไปว่า เมื่อไหร่เราเป็นศัตรูการเมืองรัฐบาล เราอาจจะมีข้อมูลเด็ดที่จะทำให้รัฐบาลต้องยุบสภาหรือลาออก เราจะกลายเป็นภัยต่อความมั่นคงระดับวิกฤตใช่ไหม เพราะเราจะทำให้อำนาจรัฐของรัฐบาลนั้นสิ้นสุดลง
หรือแย่กว่านั้นโดนจับโดรยึดเครื่องไปแล้วอยู่ดีๆไฟล์แปลกๆมันโผล่ขึ้นมาในคอมขึ้นมาการพิสูจน์จะเป็นยังไง ว่าไฟล์มันมาทีหลังจับได้อย่างไร อันนี้คือคำถามที่คนออกมาปกป้องหรือตัวกฏหมายผมยังหาคำตอบนี้ไม่เจอ
ปล. คือต่อให้ผมเป็นแฮกเกอร์แล้วผมยิงระบบรัฐบาล่มเนี่ย ตอนที่ผมกำลังยิงอยู่แล้วเขาเปิดไพ่วิกฤตแล้วจะมาไล่หาไล่ข้อมูลไล่จับเนี่ยเมื่อผมสั่งยิงจากต่างประเทศ ไอกฏหมายนี้มันวิ่งไล่จับผมได้ทันทีหรอ ทำไมการไล่จับมันต้องรีบจนขอหมายศาลไม่ได้ เกิดมายังไม่เคยเจอหน่วยงานไหนบนโลกสามารถจับแฮกเกอร์ได้ทันทีเลยสักเคส สงสัยมีเจ้าหน้าเป็น The flash