Amazon ประกาศเปิดตัว Open Distro for Elasticsearch เป็นโครงการเพื่อยกระดับซอร์สโค้ดของ Elasticsearch และ Kibana โดยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ Elasticsearch เป็นโอเพ่นซอร์ส 100%
Elasticsearch นั้นเป็นเอนจินสำหรับการค้นหาและการวิเคราะห์ ปัจจุบันนิยมใช้งานเป็นเสิร์ชเอนจิน, การวิเคราะห์ log สำหรับ web, มอนิเตอร์แอพแบบเรียลไทม์ และการวิเคราะห์ clickstream ซึ่ง Amazon ระบุว่าตอนแรก Elasticsearch ถูกสร้างเป็นโอเพ่นซอร์สเต็มตัว แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาช่วงหลังส่วนใหญ่มักจะไม่ใช่ จึงเกิดโครงการ Open Distro for Elasticsearch ขึ้นมา
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Open Distro for Elasticsearch (บางอย่างมีให้บริการใน Amazon Elasticsearch Service แล้ว) เช่น
Open Distro for Elasticsearch นี้จะเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ Elasticsearch ไม่ใช่การ fork โครงการออกมา โดย Amazon ยืนยันว่าโครงการนี้เป็นโอเพ่นซอร์สแบบ 100% โดยใช้ไลเซนส์ Apache 2.0 ซึ่ง AWS จะคอยซัพพอร์ตโดยสนับสนุนซอร์สโค้ดและแพทซ์เพื่อทำให้โครงการนี้ก้าวหน้าต่อไป
สำหรับผู้สนใจ Open Distro for Elasticsearch สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่หน้าเว็บของโครงการ ส่วนซอร์สโค้ดสามารถเข้าไปดูได้ที่ GitHub มีให้ดาวน์โหลดทั้งแบบ RPM และ Docker พร้อมกับ SQL JDBC และ PerfTop CLI สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่
อย่างไรก็ดี ข้อกังขาเรื่องโอเพ่นซอร์สนั้น แม้ Adrian Cockcroft รองประธาน AWS จะระบุว่าทางบริษัทดำเนินงานเหล่านี้เพื่อสนับสนุนโอเพ่นซอร์ส แต่โครงการโอเพ่นซอร์สหลายรายไม่ว่าจะเป็น Confluent, Redis, MongoDB หรือ Neo4J ที่กล่าวว่าผู้ให้บริการคลาวด์หาประโยชน์จากซอร์สโค้ดโดยไม่ได้ให้อะไรกลับคืนเลย โดย MongoDB ก็แสดงความไม่เป็นมิตรต่อคลาวด์โดยเปลี่ยนไลเซนส์โค้ดมาตั้งแต่ปีที่แล้ว
Steve O’Grady ผู้ร่วมก่อตั้ง Redmonk ให้ความเห็นผ่าน Twitter ของเขาว่าโครงการนี้ว่าถ้าเดินตามแนวทางการ fork ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกยังไงนอกจาก fork ส่วน Bruce Perens นักเคลื่อนไหวคนสำคัญของโอเพ่นซอร์สได้ให้สัมภาษณ์กับ The Register ว่าการ fork นั้นถือเป็นส่วนพื้นฐานของโอเพ่นซอร์ส โดยเขาเห็นความเห็นว่าโอเพ่นซอร์สไม่ได้การันตีว่าคุณจะทำเงินจากมันได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่ Redis, MongoDB และบริษัทอื่น ๆ กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้
ที่มา - AWS, The Register
ภาพจาก Open Distro for Elasticsearch
Comments
Elastic น่าจะมีบ่น ความสามารถอย่างมีในตัวเสียเงินอยู่แล้ว Amazon ทำแบบนี้ลูกค้าน่าจะลดลง
Elastic น่าจะมีบ่น ความสามารถอย่างมีในตัวเสียเงินอยู่แล้ว Amazon ทำแบบนี้ลูกค้าน่าจะลดลง