คำพังเพยโบราณที่ว่า "ความไม่แน่นอนคือความแน่นอน" ยังคงใช้ได้เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับปัญหาของ Huawei และรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่กำลังคุกรุ่นอยู่ (มีเยอะมาก อ่านได้จากหมวด Huawei เป็นการเฉพาะ) ล่าสุด หนังสือพิมพ์ South China Morning Post รายงานว่า Richard Yu Chengdong หัวหน้าฝ่ายธุรกิจสมาร์ทโฟนของบริษัท Huawei ยืนยันกับหนังสือพิมพ์ Die Walt ระหว่างการสัมภาษณ์ว่า บริษัทกำลังสร้างระบบปฎิบัติการของตัวเอง กรณีที่ไม่สามารถใช้ระบบปฎิบัติการของผู้พัฒนาจากสหรัฐได้
คำให้สัมภาษณ์นี้ถูกยืนยันอีกครั้งโดยโฆษกของบริษัทที่ระบุว่า แผนการสร้างระบบปฎิบัติการเป็นการสร้างเพื่อสำรองเอาไว้ ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และบริษัทก็ไม่อยากใช้ด้วย โดยยังยืนยันว่า ระบบปฎิบัติการ Android และ Windows ยังคงเป็นทางเลือกแรกเสมอสำหรับบริษัท
ปัจจุบันนี้ Huawei เลือกใช้ระบบปฎิบัติการ Android สำหรับสมาร์ทโฟน และ Windows สำหรับคอมพิวเตอร์ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงจริงๆ เพราะสถานการณ์ระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับ บริษัทย่อมกระทบต่อบริษัทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน
อนึ่ง รายงานข่าวนี้เคยมีการรายงานมาเมื่อปี 2018 โดยหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันมาก่อน แต่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทออกมายืนยันผ่านผู้บริหารและโฆษกว่ามีการสร้างระบบปฎิบัติการของตนเองจริงๆ
ที่มา - South China Morning Post
ภาพจาก Kārlis Dambrāns / Flickr (CC BY 2.0)
Comments
ถ้ามีสงครามการค้ากันอย่างนี้ ควรจะทำอย่างยิ่งครับ
os ยุคนี้มันไม่ได้ทำยาก เพราะมีopensourceเยอะแยะ
ปรับนิดเปลี่ยนหน่อยืก็build เป็นตัวใหม่ได้แล้ว
แต่จะมีคนใช้หรือไม่ มันอยู่ที่app support กับeco systemซะมากกว่า
red star OS ?
I need healing.
ทำไมไม่ขายเครื่องเปล่าๆล่ะ แล้วแอบปล่อย os ผ่านชุมนุมต่างๆ
ก็มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐฯจะกดดัน Google ไม่ให้ Huawei หรือมือถือจากประเทศจีนใช้ Android OS แต่ก็ต้องอย่าลืมว่าตลาดมือถือยี่ห้อฝั่งจีนก็ไม่ใช่น้อยๆนะครับ
ด้วยความเป็นประเทศที่ใหญ่มากขนาดนั้น ทำใช้เองในประเทศยังคุ้มเลย แล้วยังขายมายังเพื่อนบ้านเอเชียได้อีก
That is the way things are.
ดีๆ การพึ่งพาแต่เทคโนโลยีจากประเทศที่มีปัญหากันมันเสี่ยงมาก อะไรที่พอจะทำเองได้ก็ทำไปเหอะ
ปัญหาใหญ่ก็คือสหรัฐฯมันมีพวกมาก เวลาจะบอยคอตใครจะไม่ทำประเทศเดียวจะลากประเทศอื่นๆร่วมบอยคอตด้วย อังกฤษ,แคนาดา,ออสเตรเลีย,นิวซีแลนด์,อิสราเอล นี่ขาประจำเลยแล้วแต่พี่กัน ถ้า EU เอากับเค้าด้วยแทบจะจบเห่
Google คงไม่ค่อยอยากให้ US แบน Huawei หรอกมั้งครับ ยอดขายสูงขนาดนั้น
ทรัมป์ก็ใกล้หมดสมัยแล้ว จะได้เป็นต่อหรอ?
ถ้าได้รับความร่วมมือกับแบรนด์จีนอื่นๆก็ไม่แน่ มันอาจจะมาก็ได้
เพราะส่วนแบ่งการตลาดแบรนด์จีนก็ไม่น้อยเลยตอนนี้
ทำ OS เองแล้ว app อื่นๆจะตามไปไหม เห็นกี่เจ้าที่เจ๊งไปแล้ว เจ้าใหญ่ๆอย่าง Nokia ,Samsung ก็เคยพยายามทำ OS มือถือของตัวเองทั้งนั้น ก็ไม่รอดสักราย(ขนาด MS ยังทำแล้วไม่รอดเลย...)
หรือจะปิดประเทศ ทำ app เฉพาะในจีนหมด ไม่สน app ตปท.เลย?
แต่นี่มันจำเป็น Huawei สุ่มเสี่ยงต่อการโดนสหรัฐแบนมากๆกีดกันไม่ให้ใช้ของ made in US การไม่พยายามทำอะไรเองเลยคือการรอวันตาย
ทำเองน่ะทำได้อยู่้แล้ว แต่ทำแล้วก็คงใช้แค่ในประเทศปิด เพราะไม่มี app ดังๆมาลง ถ้าไม่โดนบังคับใครจะใช้?
กลัวจะเป็นแค่ android fork ...
อย่าง cpu มือถือทุกวันนี้ก็ซื้อ license ARM มาผลิตทั้งนั้น..
มี OS สำรองไว้ใช้ดีกว่าไม่อะไรเลย จะฉิบหายเหมือน ZTE ไม่ใช่ Android Fork หรอก
แต่ ARM ไม่ใช่สัญชาติอเมริกัน วางใจได้ระดับหนึ่ง
ปกติก็โดนแบนอยู่แล้วนะครับแอพ ตปท. ดังๆ
แค่แอพจีนเองก็อยู่ได้แล้วละครับ ในประเทศจีนเองมี อะไร Social media , search engine อะไรแทนทุกอย่างแทนหมดนะครับ
ถ้าใช้แค่ในประเทศก็ไม่มีปัญหาไงครับ os อะไรก็ได้หมด จีนก็เคยทำทั้ง cpu และ os แห่งชาติของตัวเองตั้งนานแล้ว สุดท้ายก็ไม่ใช้ เพราะมันไม่ compatible กับคู่ค้าตปท.ไง
แต่ถ้าไม่ติดต่อค้าขายกับตปท.เลย จีนจะรอดจริงๆเหรอ?
คำถามเศรษฐกิจโลกทุกวันนี้ ประเทศมหาอำนาจอื่นขาดจีนได้ไหม ได้แต่ลำบาก ข้าวของแพงขึ้นแน่นอน แต่จีนขาดประเทศอื่นได้ไหม ตอบเลยว่าไม่ได้...
มองมุมนี้ก็ก็น่าคิดครับ เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจจีนก็เริ่มชะลอตัวแล้ว เอาแค่เว็บๆ เดียวก่อน ถ้าหากวันหนึ่งของที่ขายใน Ali มีเฉพาะ China compatible แล้วมันจะยังขายได้และสร้างรายได้ให้กับประเทศแบบนี้อยู่ไหม ตัวอย่างปัญหาเท่าที่นึกออกก็อย่างเช่นความยุ่งยากในเรื่องของการเลือก region ในตัวผลิตภัณฑ์ Xiaomi
ลอง xiaomi ,huawei ใช้ os ของตัวเองไม่ใช่ android ถามว่าคนนอกประเทศจะซื้อไหม?
เห็นในเพจข่าวอวยกันไส้แตก
ถามว่า Mate 30 ออกมาไม่มี Google Play จะซื้อกันไหม
I need healing.
ซื้อมาลง Google Play Service เองครับ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
ลง app ธนาคารไม่น่าได้น่ะสิครับ น่าจะสำคัญสำหรับยุคใหม่มากๆแล้ว