Charlie Warzel คอลัมนิสต์ผู้เขียนบทความแสดงความคิดเห็นให้ The New York Times หลายชิ้น เขียนตั้งคำถามถึงโซเชียลมีเดียกรณีการแพร่กระจายของคลิปก่อเหตุร้ายนิวซีแลนด์ ว่าถึงเวลาต้องตั้งคำถามและพูดคุยอย่างจริงจังถึงโครงสร้างโซเชียลมีเดีย ที่มีบทบาทและช่วยส่งเสริมให้คนหัวรุนแรงมีความกล้าแสดงออกถึงการกระทำรุนแรงบนออนไลน์
Warzel บอกว่า การที่โซเชียลมีเดียพยายามบอกว่าตัวเองกรองและบล็อกเนื้อหาคลิปสนับสนุนก่อการร้ายได้มากขึ้นขนาดไหนนั้นเป็นเพียงแค่การระงับอาการ ไม่ได้ดูตรงโรคที่เป็นจริงๆ
ภาพจาก Shutterstock
โซเชียลมีเดียให้เครื่องไม้เครื่องมือแก่คนธรรมดากลายเป็นคนมีอิทธิพลได้ ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์ การได้รางวัลด้วยยอดไลค์ยอดแชร์ เงินโฆษณา อย่าง YouTube เองก็มีฟีเจอร์ให้เงินคนทำคลิปถ่ายทอดสด หรือ Super Chat การที่โซเชียลมีเดียพยายามมุ่งเน้นที่การกลั่นกรองเพียงอย่างเดียวหมายความว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องตอบคำถามถึงวิธีการที่แพลตฟอร์มได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อส่งเสริมการสร้างเนื้อหาก่อความไม่สงบ
Warzel บอกด้วยว่า โซเชียลมีเดีย ควรแสดงความรับผิดชอบ ไม่เพียงแต่กลั่นกรองเนื้อหา แต่ต้องเป็นการรับผิดชอบต่อสังค,ที่โซเชียลมีเดียมีส่วนในการส่งเสริมพฤติกรรมบางอย่าง ถ้าโซเชียลมีเดียยอมรับในการรับผิดชอบนั้น สิ่งที่ตามมาคือ การพูดคุยและตอคำถามที่ยากขึ้นไปอีก เช่น จริยธรรมของโมเดลธุรกิจที่ทำอยู่ ไปจนถึง ความสามารถในการเชื่อมต่อระดับนี้ มันเป็นสิ่งที่ดี หรือเป็นสิ่งที่จะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ทำให้ปั่นป่วนวุ่นวาย
I would love to see the platforms talk more about community building and connecting the world with focus on its most toxic communities (especially when maybe they're not violating TOS or company rules). How are they thinking about this? Wish we knew more. https://t.co/BnRZYgSVbh
— Charlie Warzel (@cwarzel) March 19, 2019
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องย้อนหลัง
- Facebook ชี้ วิดีโอเหตุร้ายที่นิวซีแลนด์มีคนดูไป 4,000 ครั้ง ก่อนโดนลบ
- YouTube ชี้ คลิปเหตุร้ายนิวซีแลนด์ถูกอัพโหลดเร็วอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
- รัฐบาลสหรัฐฯ กระตุ้นโซเชียลมีเดีย ควรทำได้ดีกว่านี้ กรณีลบวิดีโอเหตุร้ายนิวซีแลนด์
ที่มา - The New York Times
Comments
ต่อสังค,ที่ ?
ตอคำถาม ?
สาเหตุเพราะใครทุกคนเลือกตามแต่สิ่งที่สนใจ กดไลค์แต่ความเห็นที่โดนใจ แล้วจากนั้นโซเชี่ยลก็จะเลือกแต่โพสต์จากเพจเหล่านั้น คนเหล่านั้น มาขึ้น feed ทำให้เราไปทางนั้นสุดโต่งมากขึ้นเรื่อยๆ
.
ถ้าเรื่องนี้เกิดกับกลุ่มเพื่อนคุยเรื่องทั่วไป หรือเรื่องรสนิยมทั่วไป ก็ไม่เป็นไร เช่นแนวเพลง หนัง ของสะสม ฯลฯ
.
แต่พอเป็นเรื่องการเมือง สังคม มันทำให้คนเราหลุดไปในทิศทางเดียวมากขึ้น สุดขึ้น เพราะ social ไม่เลือกแหล่งอื่นมาให้เห็นเลย ทั้งที่เราก็อาจเป็น fan อยู่ หรือ follow อยู่ แต่ว่าไม่ได้ไปกดไลค์บ่อยๆ หรือว่าดันไปกดโกรธไว้ ระบบก็เลยไม่เลือกมาให้เห็น
เห็นด้วยครับท่าน
+1