เมื่อปลายปีที่ผ่านมา Hyundai ได้ประกาศราคาของรถยนต์ SUV ไฟฟ้าล้วน Hyundai KONA electric ที่สหรัฐอเมริกาด้วยราคาเริ่มต้น 36,450 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.15 ล้านบาท (ยังไม่รวมส่วนลดภาษีจากรัฐ) ล่าสุด Hyundai ประเทศไทยได้ประกาศราคารถรุ่นนี้อย่างเป็นทางการแล้ว โดยเริ่มที่ 1,849,000 บาท
Hyundai KONA electric ที่นำมาทำตลาดในประเทศไทยมีด้วยกัน 2 รุ่นย่อย คือรุ่น SEL และ SE โดยมีรายละเอียดดังนี้
รุ่น SEL เป็นรุ่นท็อป มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 64 กิโลวัตต์ชั่วโมง มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 150 กิโลวัตต์หรือ 204 แรงม้า วิ่งได้ไกล 482 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ทดสอบมาตรฐาน WLTP ที่มาแทนมาตรฐาน NEDC) สำหรับหัวชาร์จเป็นหัวแบบ Type 2 (Mennekes) ใช้เวลาชาร์จ 6 ชั่วโมง 10 นาที ด้วยเครื่องชาร์จขนาด 7.2 กิโลวัตต์ หรือถ้าใช้เครื่องชาร์จเร็วจะชาร์จได้ 80% ในเวลา 54 นาที แต่หากเสียบชาร์จกับปลั๊กไฟบ้านจะใช้เวลาชาร์จถึง 31 ชั่วโมง ราคา 2,259,000 บาท
รุ่น SE เป็นรุ่นเริ่มต้น มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 39.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 100 กิโลวัตต์หรือ 136 แรงม้า วิ่งได้ไกล 312 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ทดสอบมาตรฐาน WLTP เช่นกัน) ใช้เวลาชาร์จ 9 ชั่วโมง 35 นาที ด้วยเครื่องชาร์จขนาด 7.2 กิโลวัตต์ หรือถ้าใช้เครื่องชาร์จเร็วจะชาร์จได้ 80% ในเวลา 54 นาทีเหมือนรุ่น SEL แต่หากเสียบชาร์จกับปลั๊กไฟบ้านจะใช้เวลาชาร์จ 19 ชั่วโมง ราคา 1,849,000 บาท
สามารถชมรถคันจริงได้ที่งาน Motor Show วันที่ 27 มีนาคม - 7 เมษายนนี้
ที่มา - Facebook Hyundai Thailand, Hyundai Thailand
Comments
ราคาเกือบน่าใช้แล้ว ลงอีกนิด
เข้ามาแข่งขันกันให้เยอะๆ
ถ้ารถ ev มาประกอบไทย จะถูกลงไหม
จากราคาเปิดตปท. แพงกว่า Leaf มาไทยถูกกว่า...
หรือสเปคตปท. กับไทยไม่เท่ากัน
เข้าใจนะว่าต้องค่อยๆตัดราคา แต่ก็ถือเป็นก้าวที่ดี ฮุนไดอาจกลับมามีที่ยืนในไทย(นอกจากรถตู้vip)ก็ได้ถ้าการตลาดดีๆ
ส่วนผู้ผลิตในไทยก็...ขอเวลา ปี 2568
นี่แหละราคาจริงโดยประมาณของ ev ในไทย คันนี้นี่คือไพรซิ่งราวๆ โมเดล3 แล้วนะ มาไทยยังโดนไปขนาดนี้ เทสล่ามาจริงไม่ต้องคิดเลยว่าจะไปขนาดไหนไม่ได้สิทธิทางภาษีแบบเกาหลีแน่ๆไหนจะยังค่าขนส่งที่เยอะกว่าแน่ๆอีก
รถไฟฟ้าคนไทยยี่ห้อ mine จะเปิดขายปลายเดือนนี้แล้วราคาตามสื่อเริ่มต้นประมาณหนึ่งล้าน
ตัวนั้นแบตเล็กระยะน้อยกว่าคันนี้เยอะเลยนะ ถ้าจำไม่ผิด
ดีนะครับ เกาหลี จีน มาแรง ญี่ปุ่นก็ล้าหลังเหมือนเดิม
เคยถามเพจฮุนไดไปว่าจะเอาไอโอนิคเข้ามามั้ย ไม่คิดว่าจะจัดมาสองรุ่นเลย ก่อนพวกญี่ปุ่นอีก
มาก่อนได้เปรียบ เพราะได้เก็บข้อมูลก่อน..ราคานี้ถือว่า พอตัวแล้ว
ไม่เหมาะสำหรับเดินทางไกลเลย ชาร์จตั้ง 54 นาที เข้าคิวเติมน้ำมัน 5-10 นาทียังหงุดหงิด
เหมาะสำหรับในเมืองมากกว่า
ชาร์จนานมากอ่ะ ชาร์จไวยังเกือบชั่วโมง ชาร์จบ้านนี่วันครึ่งเลยนะ
รถแบบนี้ต้องใช้ระบบชาร์จไวได้แล้วนะ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ก็มีหนิครับ 80% ใช้เวลา 54 นาที ไฟบ้านที่ชาร์จช้านั่นใช้ปลั๊กปกติเลยนะครับ ซึ่งมันได้แค่นั้น ไม่ใช่ข้อจำกัดของระบบชาร์จ แต่เป็นข้อจำกัดของระบบไฟในบ้านซึ่งไม่มีใครเดินเผื่อไว้ให้รองรับโหลดสูงขนาดนั้นหรอกครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
รถ Mine ชาร์จได้เร็วกว่ามาก เพราะเขามีบริษัทในเครือที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยีที่ดีกว่า ต้นทุนถูกกว่า
ในกรุงเทพมีสถานีชาร์จไฟทุก 5 กิโลเมตร
ถ้าไฟบ้านเฉลี่ย 5-6 ชั่วโมง ได้แบตเต็ม (แล้วแต่ไฟบ้าน)
ถ้าสถานีชาร์จทั่วไป 40 นาที ได้แบตเต็ม
ถ้าสถานีชาร์จเร็ว 12-15 นาที ได้แบต 80%
ถ้าเขากระจายสถานีชาร์จให้ทั่วถึง เวลาขับไกลก็สามารถแวะพักชาร์จสัก 10 กว่านาที ปลอดภัย ไม่ล้าด้วย
น่าสนันสนุนคนไทยมากกว่า บริษัทจะได้ตั้งไข่เจริญเติบโตต่อไปได้
เห็นด้วยกับ "น่าสนันสนุนคนไทยมากกว่า บริษัทจะได้ตั้งไข่เจริญเติบโตต่อไปได้" ครับ
ผมกำลังรออุดหนุนอยู่เช่นกัน
ตอนนี้เกือบเก็บ Alfa ไว้จอดโชว์อย่างเดียวแล้วครับ
ต้องดูนะครับว่าที่เต็มคือกี่กิโล
MPV ที่เปิดจองวิ่งได้แค่ 200 กิโล
สถานีชาร์จมีเยอะ แต่ยังมีแต่ AC (ผมดูแอพ EA เรื่อยๆว่าเมื่อไหร่จะมา)
ขอถามแบบคนไม่รู้ แบตแบบนี้มันมีเสื่อมเหมือนมือถือป่าวครับ แบบซื้อมาแรกๆชาร์จเต็มวิ่งได้ตามสเปค 300 โล ใช้ไปปีนึงชาร์จเต็มเหลือวิ่งได้แค่ 200 โลอะไรแบบนี้
เสื่อมครับ เป็น Li-ion แบบเดียวกับในโทรศัพท์นี่แหละครับ แต่จากที่ผมเคยอ่านมาของ Tesla มันเสื่อมยากมากๆ เช่น
https://electrek.co/2018/04/14/tesla-battery-degradation-data/
บอกว่า 260 MM (mega metre) (260,000 กิโลเมตรนั่นแหละครับ ?) นี่เพิ่งเสื่อมไปไม่ถึง 10% เลย
เสื่อมได้ครับ ตัวนี้ประกันแบต 8 ปี
มือถือปกติใช้กันเยอะด้วย ใช้หมดกันทุกวัน แต่รถนี่ cycle นึงวิ่งได้ประมาณ 400 km อย่าง iPhone, iPad แบตใช้ได้ 500-1000 cycle ที่เกิน 80% (แล้วแต่รุ่น) ถ้าตัวนี้เหมือนๆ กันก็น่าจะใช้ได้ซัก 200,000 km - 400,000 km ขึ้นกับคุณภาพแบต
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ดูตามคลิปนี้ก็คงต้องชาร์จแค่ 50% วิ่งต่อได้อีก 200 โล
https://youtu.be/EdfXMdkUl9A
ถ้าใช้งานจริงเยอะๆ ต้องมี 2 คันสลับกันใช้ หรือไม่ก็ซื้อ Wall box เพิ่ม
oxygen2.me, panithi's blog
Device: HP Zbook, iPad Pro, iPhone 15PM, iPhone 16+, Nothing Phone 1
ราคาน่าคบหา แต่เวลาชาร์จนี่ต้องกลับมานั่งคิดก่อน