Facebook ออกมาตอบข้อสงสัยเพิ่มเติมเรื่องคลิปเหตุร้ายนิวซีแลนด์ที่คนร้ายไลฟ์การกระทำของตัวเองไว้ ดังนี้

ทำไม AI ถึงตรวจจับคลิปนี้ไม่ได้

Facebook ตอบว่า AI นั้นยังไม่สมบูรณ์แบบ มีการใช้ภาพกราฟิกรุนแรง ภาพโป๊ ภาพสนับสนุนการก่อการร้ายในการฝึก AI แต่สำหรับคลิปนิวซีแลนด์ AI ไม่สามารถตรวจจับได้ ซึ่ง Facebook ต้องจัดเตรียมข้อมูลที่ใกล้เคียงกับคลิปจำนวนมากเพื่อฝึก AI และอีกความท้าทายคือ ความสามารถในการแยกประเภทเนื้อหาไลฟ์อัตโนมัติ เรื่องนี้ยังยาก ยกตัวอย่างเช่น หากวิดีโอจากการสตรีมสดถูกตั้งค่าสถานะโดยระบบของ Facebook ผู้ตรวจสอบของ Facebook มีโอกาสที่จะระบุผิดพลาดได้

เรื่องการรีพอร์ตคลิปไลฟ์

Facebook ระบุว่าระหว่างที่คลิปนิวซีแลน์กำลังไลฟ์ไม่มีผู้ใช้คนไหนรายงานเข้ามา แต่มีรายงานเข้ามาหลังไลฟ์ไปแล้ว 29 นาที และยังบอกด้วยว่าระบบการรีพอร์ตคลิปไลฟ์ตอนนี้ยังมีไว้เฉพาะคลิปฆ่าตัวตายเพื่อที่จะได้ช่วยเหลือได้ทัน โดยคนที่รายงานเข้ามาช่วงไลฟ์จะได้รับการจัดลำดับความสำคัญเป็นลำดับแรกเพื่อการตรวจสอบที่รวดเร็ว

จากบทเรียนคลิปนิวซีแลนด์ Facebook จะทบทวนระบบการรีพอร์ตคลิปไลฟ์ใหม่ และจะขยายหมวดหมู่การตรวจสอบแบบเร่งด่วน (เข้าใจว่าขยายให้ครอบคลุมภัยอย่างอื่นนอกเหนือจากฆ่าตัวตาย)

ทำไม Facebook ถึงไม่สามารถบล็อกคลิปอีก 3 แสนคลิปได้

ทันทีที่คลิปแพร่กระจายออกไป (ซึ่งคลิปต้นฉบับนั้น Facebook ลบไปแล้ว) Facebook ได้ลบวิดีโอตัวก๊อปปี้ประมาณ 1.5 ล้านคลิป โดยวิดีโอเหล่านี้มีราว 1.2 ล้านคลิปถูกบล็อกให้ไม่สามารถอัพโหลดได้ ส่วนอีก 3 แสนคลิปนั้น Facebook ระบุว่า ตัวคลิปมีการแชร์ในหลายรูปแบบ มีการแก้ไขวิดีโอใหม่ และยังมีการอัดคลิปที่ถ่ายจากหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถืออีกทีเพื่ออัพโหลดใหม่ ซึ่งทำให้การจับคู่สำเนาทำได้ยากขึ้น

อย่างไรก็ตาม Facebook พบและตรวจจับรูปแบบการอัพคลิปได้ 800 รูปแบบ การแพร่กระจายในลักษณะนี้ ต่างจากคลิปโฆษณาชวนเชื่อจากกลุ่มก่อการร้ายโดยตรงเพราะไม่ได้มีการถ่ายทอดซ้ำโดยสื่อกระแสหลักหรือโดยบุคคลใดๆ

ควรทำให้ไลฟ์มันช้าลงเหมือนอย่างที่ทีวีทำกันดีไหม

ยังมีอีกคำถามที่ Facebook ได้รับด้วยว่าควรทำให้ไลฟ์มันช้าลงเหมือนอย่างที่ทีวีทำกันดีไหม เพื่อจะได้สามารถหยุดความรุนแรงนั้นไว้ได้ ซึ่ง Facebook บอกว่ามีการถ่ายทอดสดหลายล้านครั้งต่อวันการทำให้ไลฟ์นั้นล่าช้าออกไปไม่ช่วยแก้ปัญหา และอาจทำให้แก้ปัญหายากถ้าคลิปไลฟ์นั้นมีเหตุการณ์ที่มีคนต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องย้อนหลัง
- Facebook ชี้ วิดีโอเหตุร้ายที่นิวซีแลนด์มีคนดูไป 4,000 ครั้ง ก่อนโดนลบ
- YouTube ชี้ คลิปเหตุร้ายนิวซีแลนด์ถูกอัพโหลดเร็วอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
- รัฐบาลสหรัฐฯ กระตุ้นโซเชียลมีเดีย ควรทำได้ดีกว่านี้ กรณีลบวิดีโอเหตุร้ายนิวซีแลนด์
- จากคลิปนิวซีแลนด์ คอลัมนิสต์ NYT ตั้งคำถามถึงโครงสร้างโซเชียลมีเดียที่มีส่วนสร้างแรงจูงใจให้คนหัวรุนแรงสุดโต่ง

ที่มา - Facebook