By: mk 
on 28 March 2019 - 21:27
Tags:
Topics:
รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศนโยบายให้วิชาโปรแกรมมิ่ง กลายเป็นวิชามาตรฐานของเด็กนักเรียนชั้นประถม (เริ่มที่ ป.5) โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือนเมษายน 2020
กระทรวงศึกษาของญี่ปุ่นได้อนุมัติตำราเรียนวิชาโปรแกรมมิ่งพื้นฐานแล้ว ตัวอย่างเนื้อหาในตำราเล่มนี้ ได้แก่ สอนให้นักเรียนวาดรูปทรงเหลี่ยมต่างๆ บนหน้าจอ และเขียนคำสั่งให้หลอดไฟ LED กะพริบ เป็นต้น
เป้าหมายของรัฐบาลญี่ปุ่นก็ชัดเจนว่า ต้องการเตรียมคนรุ่นใหม่ให้มีทักษะด้านไอที แก้ปัญหาแรงงานด้านไอทีขาดแคลน และเด็กๆ สามารถเขียนโค้ดเพื่อจัดการข้อมูลต่างๆ ของตัวเองได้ รวมถึงเป็นการสอนวิธีคิดเชิงตรรกะให้กับเด็กๆ ผ่านวิชาโปรแกรมมิ่งด้วย
ที่มา - Nikkei Asian Review
ภาพจาก Code.or.jp
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
...มารออ่านคอมเม้นเด็ดๆ
เหมือนเห็นฝูงพื้นผิว
เคยคอมเมนต์ไปในหลายข่าวแล้วว่าไทยเองควรบรรจุ critical thinking ลงในการศึกษาขั้นพื้นฐานด้วย อย่าปล่อยให้มันเป็นแค่วิชาเลือกในมหาลัย
สมัยเราไม่มีแบบนี้บ้างนา
โอ้โห ป.5 นี่ไม่เด็กไปรึ สอนพวกตรรกะ ความเป็นเหตุเป็นผล เงื่อนไขต่าง ๆ ยังเข้าใจได้ แต่ที่ยกตัวอย่างมานี่แอบโหดอยู่นะเนี่ย หรือใช้ scratch หว่า?
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว โรงเรียนผมก็บังคับเรียนภาษา Basic ตอน ป.5 กะ ป.6 นะ ถามว่าได้อะไรจาก class นั้นไหม ก็เข้าใจเรื่อง if-then-else กะ loop และจำได้ลางๆว่า ข้อสอบปลายภาคคืองานกลุ่ม 2 คนให้วาดรูปเครื่องบิน
ผมเรียน Logo ตอน ป.6 ครับ (เมื่อ 25+ ปีที่แล้ว)
ผมเรียน Logo ตอน ป.2 ครับ
ประเด็นคือเพิ่งมารู้ว่ามันคือการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Logo เมื่อไม่กี่ปีนี่เอง - -"
ผมว่าเหมาะสมนะ การเรียนรู้ไม่ว่ายุคไหนการสอนบางเรื่องที่ไกลตัวมันจะเรียนรู้ยาก
แต่เรื่องนี้ไม่ได้ไกลตัวพวกเขาเลย พวกเขาเกิดมาก็เจอมัน พวกเขาใช้ชีวิตโดยพึ่งพามันมากกว่าเราเมื่อ20ปีก่อน มันคือเรื่องใกล้ตัวพวกเขามากๆ ส่วนความยากง่ายนั้นคนยุคเราไม่อาจตัดสินได้
ผมเคยได้ยินเพื่อนที่เป็นหมอพัฒนาการเด็กบอกประมาณว่า เด็กวัยประมาณ ป.5 จะเข้าใจตรรกะที่ซับซ้อนได้มากขึ้นนะครับ เป็นเหตุผลที่เด็ก ป.5 จะเริ่มเรียนสมการในวิชาคณิต
อีกหน่อยไอทีล้นตลาดเปล่าเนี่ย
ไม่มีทางล้นครับ มีอะไรให้เรียนใหม่ๆได้ทุกปีจนสมองคนๆนั้นเริ่มรับไม่ไหว ไม่ใช่เพราะน้ำเต็มแก้ว แต่เป็นความสามารถของสมองจริงๆ
ไม่ต่างอะไรจากนางงามในตู้กระจกหรอกมั๊งที่พออายุ 40 ถ้าไม่ลาออกเองก็โดนเขี่ยให้ออกอยู่แล้วและพร้อมที่จะมีหน้าใหม่เข้ามาเป็นเหยื่อได้เรื่อยๆ
นั่นสินะ ฟังละน้ำตาคลออยากไปทำอย่างอื่นเลย
18 ปีที่แล้วตอนผมอยู่ป.5 ก็ได้เรียนเขียนเว็บด้วย Netscape แค่ให้พอรู้ concept ก็ใช่ว่าทุกคนจะชอบแล้วไปในสายนี้นะ แต่บางคนก็ปลดล๊อคไปถึงขั้นเขียนคำสั่งหุ่นยนต์ตอนม.ต้น-ม.ปลายเลย ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่ให้เด็กได้ค้นพบตัวเองเร็วขึ้นด้วย
เรียนท่านผู้ดูแลเว็บ
ขออนุญาตเสนอให้เพิ่มข้อมูลท้ายบทความเพื่อเป็นประโยชน์กับผู้อ่านดังนี้
ประเทศไทยมีหลักสูตรสอนเขียนโปรแกรมแล้วเช่นกันโดยเริ่มตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง เน้นการฝึกให้นักเรียนมีทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ การใช้เหตุผลเชิงตรรกะ หลักสูตรนี้ชื่อว่าหลักสูตรวิทยาการคำนวณ
เว็บไซต์ของท่านมีผู้อ่านจำนวนมาก ข้อมูลนี้น่าจะเป็นประโยชน์ครับ ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ
ขอแสดงความนับถือ
ผนวกเดช สุวรรณทัต
มีคนเคยให้ความเห็นว่า วิชานี้ก็ไม่เชิงว่าสอนให้เด็กเขียนโปรแกรมได้ แต่เน้นให้รู้จักกับคอมพิวเตอร์และแนวคิดเชิงตรรกศาสตร์มากขึ้นมากกว่า
ผมก็ไม่รู้ว่าจริงมั้ยเพราะไม่เคยมาอ่านหลักสูตรครับ
ผมว่าดีนะ ตอนนี้ของขาดด้วย อาจมีเด็กมอต้นรับจ๊อบเขียนเว็บละ ไม่แปลกอะไร
ภาพประกอบนี่ One Surface per Child แน่เลยครับ (ฮา)
เขียนคำสั่งให้หลอดไฟ LED กะพริบ -> เขียน Program ต่อ PLC Box คุยกะ Controller ตั้งกะ 10 ขวบ ก็สมกับเป็นญี่ปุ่นดีนะครับ
ผมเป็นครูคอม รร เอกชน ตอนนี้หลักสูตร ป.4 เรียนเลขฐาน ป.5 เรียนวาด Diagram พื้นฐาน จากโจทย์ปัญหาป.6 จะเป็นเขียนโปรแกรม โดย รร.ให้ครูเลือกสอนว่าจะสอนภาษาอะไรให้เด็ก นร. ส่วนใหญ่นักเรียนใน Class ชอบ แต่ถ้าให้การบ้านจะเป็นปัญหามาก เพราะผู้ปกครองส่วนใหญ่ไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย
ปัญหาก็จะคล้าย ๆ การเรียนการสอนภาษาที่3 ในโรงเรียนระดับประถมแหละครับ อย่างเช่นภาษาจีน เป็นต้น พ่อแม่ผู้ปกครองบางท่าน ก็ไม่สามารถช่วยลูก ๆ ในการทำการบ้านได้เลย คงต้องเริ่มต้นเรียนรู้ไปพร้อมกับคุณลูก แต่ก็อีกนั่นแหละ พ่อแม่ผู้ปกครองก็อายุมากเกินกว่าจะเรียนภาษาที่3 ไหวแล้ว