ผู้ให้บริการสตรีมมิงอย่าง Netflix กับรางวัลภาพยนตร์เป็นปัญหาที่ถกเถียงและขัดแย้งกันมาหลายปี ซึ่งถึงแม้ Roma ของ Netflix จะคว้ารางวัลใหญ่อย่างกำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
แต่ก็ใช่ว่าปัญหานี้จะหมดไปเพราะบอร์ดของ the Academy และพ่อมดวงการภาพยนตร์อย่าง Steven Spielberg ก็ยังคงค้านที่จะให้หนังสตรีมมิงมีสิทธิในการรับรางวัล และจะพูดคุยกับ the Academy เรื่องการจำกัดรางวัลจากหนังสตรีมมิง ซึ่งประเด็นนี้เองได้เข้าตาของกระทรวงยุติธรรม เพราะเกรงว่าจะเกิดการผูกขาดขึ้น
Makan Delrahim หัวหน้าฝ่ายต่อต้านการผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมได้ส่งจดหมายหาซีอีโอของ the Academy แสดงความกังวลว่าหาก the Academy ออกกฎใหม่ที่จำกัดการให้รางวัลหนังสตรีมมิงจริง จะบั่นทอนสถานการณ์การแข่งขันและเป็นการกีดกันผู้เล่นรายอื่น ซึ่งละเมิดวรรค 1 ของกฎหมายต่อต้านการผูกขาด Sherman
ที่มา - Variety
Comments
เจ้มจ้นขึ้นเรื่อยๆ
ทำไมเขาถึงจำกัดคอนเทนต์ที่เป็น streaming only เท่านั้นล่ะ คำว่า movie ตอนนี้มันไม่ควรจำกัดเฉพาะ คอนเทนต์ที่ฉายในโรงอย่างเดียว
The Dream hacker..
ส่วนนึงผมว่ามันเป็นอีโก้ของคนทำหนังครับ
คือเขามองว่าคอนเท้นท์พวก "ฉายทีวี" มันควรไปอยู่กับงานอย่าง Emmy มากกว่า
เพราะ "ภาพยนตร์" แบบ "ฉายทีวี" มันมีมานานแล้วครับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นภาพยนตร์คุณภาพต่ำมาก
(ซึ่งผมว่าสาเหตุที่คุณภาพมันต่ำ เพราะพวกผู้กำกับดังๆ ไม่ค่อยลงไปทำกัน เพราะมีโอกาสได้กล่องน้อย)
แต่พวก streaming ที่ทำ content ฉายเอง เขาอยากให้ content เขาได้รับการยอมรับ เขาเลยต้องเอาไปออกงานอย่าง Oscar หรือ Cann เพื่อให้มีกล่องมาประดับบ้าง
แต่ในมุมมอง ผกก เขาก็มองว่า พวกนี้มันเป็นระดับหนังทีวี เลยไม่อยากให้มาปนกับ หนังโรง ซึ่งบางเจ้าอย่าง amazon ก็แก้ปัญหาด้วยการ ฉายโรงก่อนไปเลย (ฉายพร้อมก็ไม่ได้นะ)
ผมว่าที่เค้าจำกัดว่าต้องฉายโรงก็เพื่อกรองหนังคุณภาพต่ำส่วนนึงออกด้วยมั้งครับ เพราะหนังในโลกนี้ ปีๆนึงมันมีเยอะมากนะครับ
และอีกอย่างถ้าหนังนั้นๆไม่ฉายโรงเลย มันก็จะพิจารณาองค์ประกอบต่างๆ ของหนังได้ค่อนข้างยากด้วยครับ ใช่อยู่ที่ว่าค่ารายเดือนกับค่าตั๋วหนังมันไม่ได้ต่างกันมาก แต่ประสบการณ์การรับสารมันต่างกันมากนะครับ
ระหว่างจอทีวี กับจอโรงหนัง โรงหนังมันสังเกตรายละเอียดได้ดีกว่ามากแม้ความละเอียดจะต่ำกว่าทีวีก็เถอะ
ไหนจะระบบเสียงอีก ใช่ว่าทุกบ้านเค้าจะมีเครื่องเสียงดี ๆ กันทุกบ้านด้วย
ถ้าพูดถึงหนังโรงที่จะเข้าชิงรางวัลก็จะมีสองประเภทคือ หนังตลาดที่ทำเงินได้เยอะ กับ หนังรางวัลซึ่งส่วนใหญ่เข้าโรงไม่ได้เงินเท่าไหร่แต่จะมีโอกาสได้รางวัลมากกว่า ถ้ายอมให้หนังรางวัลไม่เข้าโรงให้ลง Netflix แล้วมาแข่งได้เลยก็จะมีหนังรางวัลหลายเรื่องมาแข่ง ผู้กำกับหนังตลาดเลยไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่
ต้นทุนของหนังที่จะลงโรงภาพยนตร์ได้อาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่หากให้ Netflix เข้ามา จะเกิดความไม่เท่าเทียม
ภาพยนตร์ NETFLIX เคยผ่าน Distributor รายอื่นไหม -.-?