หลังการเปิดตัวบริการสตรีมมิ่ง Disney+ ของดิสนีย์เองอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันก่อน ก็มีประเด็นว่าซีอีโอดิสนีย์ Bob Iger อาจต้องลาออกจากการเป็นบอร์ดบริหารของแอปเปิลหรือไม่ เนื่องจากแอปเปิลเองก็เพิ่งเปิดตัวบริการสตรีมมิ่ง Apple TV+ (ชื่อคล้ายกันอีก) ซึ่งมองว่าเป็นธุรกิจคู่แข่งกันได้
โดย Iger ให้สัมภาษณ์กับ CNBC บอกว่าเขารับทราบในประเด็นนี้ รวมทั้งงดเข้าร่วมหารือเมื่อแอปเปิลพูดถึงบริการสตรีมมิ่งในที่ประชุม เขาบอกว่าธุรกิจนี้สำหรับแอปเปิลนั้นถือว่ายังมีขนาดเล็กมาก จึงมองว่าไม่ใช่ปัญหาที่เขายังนั่งอยู่ในบอร์ด แต่ก็จะเฝ้าดูสถานการณ์ต่อไป
ดิสนีย์นั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแอปเปิลมานาน ผ่านการซื้อกิจการ Pixar ของสตีฟ จ็อบส์ โดย Iger ในฐานะซีอีโอดิสนีย์ มารับตำแหน่งบอร์ดบริหารของแอปเปิลตั้งแต่ปี 2011
ที่มา: MacRumos
Comments
ข่าวต่อไป Apple ประกาศซื้อ Disney
คงร่วมกันรุม Netflix ก่อนแหละ ยังไม่ต้องรีบร้อนทะเลาะกัน
สองบริษัทนี้ ระหว่าง Apple กับ Disney บริษัทไหนมี มูลค่ามากกว่ากันหรอครับ
Disney มูลค่าบริษัทประมาณหนึ่งแสนล้านดอลลาร์นิดๆ ครับ เมื่อเทียบกับ Apple มูลค่าบริษัทเข้าสู่หลักล้านล้านดอลล่าร์ไปแล้ว หรือเท่ากับ Apple มีมูลค่าสูงกว่า Disney ถึง 10 เท่าตัว เค้าว่ากันว่าต้องรวมบริษัทที่เป็นอุตสาหกรรมบันเทิงทั้งสหรัฐไว้ทั้งหมด (รวมถึง Disney, Netflix ด้วย) ถึงจะมีมูลค่าล้านล้านเทียบเท่า Apple ได้
ว่าไปก็แปลกดี Disney ที่ทำกิจการเยอะแยะ อย่างหนัง Marvel, Starwars, Pixar สวนสนุกดิสนีย์ทั่วโลก ลิขสิทธิ์การ์ตูนระดับตำนานอย่างมิคกี้เมาส์ และมีบทบาทในอุตสาหกรรมบันเทิงสูงมาก แต่กลับมีมูลค่าแค่ 1 ใน 10 ของบริษัทที่ขายผลิตภัณฑ์หลักแค่ iPhone เพียงเท่านั้น
ดังนั้นที่ว่า Apple จะซื้อ Disney นั้นจริงๆ แล้วสบายมากครับ และอันที่จริงผู้ที่เคยถือหุ้นใหญ่ที่สุดของดีสนีย์ก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็น Steve Jobs นี่เอง (ผ่านการซื้อ Pixar ที่ในตอนนั้น Disney ต้องซื้อเพราะกำลังวิกฤตในอุตสาหกรรม Animation แล้ว อารมณ์เดจาวูเหมือนตอน Apple ซื้อ NeXT แล้ว NeXT ก็กลายมาเป็นเจ้าของ Apple)
เดี๋ยวนะ ดิสนีย์ก็ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์นะยู เอาที่หนักๆเลยละกันก็
- NFL 1.9 พันล้านดอลต่อปี (Monday Night Football, Wild Card, Pro Bowl, Draft)
- NBA 1.4 พันล้านดอล (Regular, Playoffs and Finals, Draft and Draft Lottery)
เอาแค่สองก้อนนี้ก็พอก็เกือบแสนล้านบาท(สามพันล้านดอล)ละ ฝั่ง ESPN
มันมีที่ส่วนจ่ายหนักมากเหมือนกันนะ พวกทีวีเนี่ย แล้ว Disney มีช่องทีวีเยอะนะ ทั้งทำเองอย่าง ABC หรือถือหุ้นอย่าง ESPN(80%), History(50%) อะไรพวกนี้ กำไรมันถึงไม่สูงเท่าบริษัทไอทีไง
ขอบคุณ สำหรับความรู้มากๆนะครับผม
รุมกินโต๊ะเน็ทฟลิกซ์ผมว่ายากนะครับ
- แอปเปิ้ลไม่ดั๊มราคาสู้อยู๋แล้วต้องดูว่าจะจบยังไง ดูอย่าง Apple Music ผมมองว่าแอปเปิ้ลมีไว้แค่ให้มี
เพราะรายได้หลักคือ H/W
- ดิสนี่ย์ชัดเจนว่าจะดั๊มพ์เพราะคอนเทนต์ตัวเองเยอะมากกกกกกกกกก พอฟัดพอเหวี่ยงแน่ๆ
- อเมซอนตอนี้เหมือนปู่นินยุค 2010 ต้นๆคือเป็นผู้แข่งนอกสนามมีตลาดของตัวเอง (คล้าย 3ds)
เพราะอเมซอนมันพ่วงเรื่องของไปด้วยเลยไม่กล้าขยายตลาด
- แอปเปิ้ลซื้อดิสนี่ย์ เป็นไปไม่ได้ในปัจจุบัน เหตุผลก็เพราะแอปเปิ้ลไม่ได้มองว่าบริการเสริมจะสร้างรายได้
ให้กับตัวเอง ประกอบกับผมมองว่า รัฐบาลไม่น่าอนุมัติ เพราะถ้าผมจำไม่ผิดเหมือนช่วงนี้เริ่มมีกระแสว่า
เลือกตั้งงวดหน้าจะเริ่มมีนโยบายแตกบริษัทใหญ่ออกจากกันเพื่อเพิ่มการแข่งขัน (จำไม่ได้ละว่าใคร)
ปกติเวลาซื้อบริษัทกันจะมีกฏหมายกันผูกขาดอยู่นะฮะ อย่างดีลที่ดิสนีย์ซื้อ 21st Century FOX นั้นมีบางส่วนที่ไม่ได้นะฮะ เช่น
- FOX Sport Network ซื้อมาแล้วต้องขายให้ บ.ที่สามในสามสิบวันนะ เพราะ Disney มี ESPN อยู่แล้วเป็น National Network จะมาซื้อ Regional Network อีกมันผูกขาดทั้งตลาด
- Sky Sport UK ซื้อมาแล้วก็ขายเช่นกัน ขายให้ Comcast(NBCUniversal)