By: nismod 
on 16 May 2019 - 15:24
Tags:
Topics:
ประธานาธิบดีทรัมป์ออกประกาศภาวะฉุกเฉินด้านความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมลงนามในคำสั่งบริหาร สั่งห้ามไม่ให้บริษัทสัญชาติอเมริกัน ใช้งานอุปกรณ์สื่อสารจากบริษัทที่เป็นภัยต่อความมั่นคง ซึ่งคำสั่งนี้น่าจะพุ่งเป้าไปที่บริษัทสัญชาติจีน โดยเฉพาะ Huawei ที่กำลังมีปัญหากันอยู่
หลังจากนี้ภายใน 150 วัน กระทรวงพาณิชย์จะร่างกฎระเบียบและไกด์ไลน์ในการสกัดกันไม่ให้บริษัทสื่อสารสัญชาติจีนเข้ามาเกี่ยวข้องหรือมีบทบาทใดๆ กับบริษัทสหรัฐ นอกจากนี้ Huawei ยังถูกเพิ่มไปในรายชื่อ Entity List ของ Bureau of Industry and Security (BIS) สังกัดกระทรวงพาณิชย์ด้วย ซึ่งเท่ากับว่าหากบริษัทสหรัฐจะขายสินค้าใดๆ ให้ Huawei ต้องได้รับการรับรองจาก BIS ก่อนด้วย
รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐระบุด้วยว่าคำสั่งบริหารฉบับนี้ถูกพิจารณาและเลื่อนมากว่า 1 ปีแล้ว จุดประสงค์ก็เพื่อป้องกันถูกสอดแนมหรือดักข้อมูลจากบริษัทต่างชาติ อย่างไรก็ตามการลงนามคำสั่งครั้งนี้มีขึ้นไม่กี่วันหลังสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนตึงเครียดมากขึ้น
ที่มา - CNBC, Aljazeera, VOA Thai
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
สงครามการค้าเต็มรูปแบบ
บริษัทสหรัฐฯ ที่ใช้ของ Huawei หรือแบรนด์จีนอยู่ โดนผลกระทบเลยทีนี้ แล้วค่ายมือถือโดนด้วยไหม หรือมีผลเฉพาะอุปกรณ์ Network ขององค์กรอย่างเดียว
จะไปหาของสหรัฐฯ ใช้เองก็แพงอีก หรือของแบรนด์อื่นก็ไม่รู้ว่าจะดีเท่าของเดิมและราคาถูกไหมเนี่ยสิ ดูแล้วเหมือนสหรัฐฯ จะได้ผลกระทบเสียเองนะ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
+1
มีความรู้สึกว่า มะกันโดนผลกระทบเสียเองนะ
ยิ่งเห็นมะกันให้ความร่วมมือกับ Oppo แบบออกหน้าออกตาว่า เราไม่เอา Huawei แน่ๆ ยิ่ง ชัดเจนมากว่าไม่เอา Huawei อีกแล้ว
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ที่ดีกว่า huawei ก็มีเยอะครับ
Cisco, ericsson, nokia (ระดับ 10 ปีก่อน)
แต่ราคาก็คนละระดับเหมือนกัน
แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้แล้ว ออกจากวงการมานานล่ะ
หัวเหว่ยดีขึ้นเยอะครับ แต่ราคาก็แรงขึ้นเยอะเหมือนกัน
ถัวไปถัวมาก็ยังเป็นตัวเลือกแรกๆของกลุ่มโอเปออยู่ดี
กัดหางตัวเอง
Back to Nokia 3310
อยากเห็นจีนหยุดซื้อพันธบัตร US แล้วเทขายทั้งหมด
https://www.bloomberg.com/opinion/articles/2019-05-13/u-s-china-trade-war-how-a-china-bond-selloff-will-help-trump
ทำแบบนั้น จีน เองก็จะเจ็บหนักเหมือนกันละครับ จีนกับ เมกา มองให้เป็นเด็กทะเลาะกันนั้นละ ต่างคนต่างไม่กล้าหักกันแรงหรอกครับ
จีนทำไม่ได้ง่ายๆ หรอกครับ
ถ้าเอาพันธบัตรสหรัฐทั้งหมดที่ถือขายทิ้งออกทันที ระยะสั้นจีนจะเจ็บตัว เนื่องจากมันจะเยอะมาก ไม่มีใครรับซื้อทั้งหมดไหว ราคาซื้อขายในตลาดน่าจะตกมาก เรียกว่าเข้าเนื้อขาดทุนได้
และในระยะยาว จะทำให้หยวนจะแข็งค่าเทียบกับสหรัฐ ของจีนจะแพงขึ้น ปกติจีนได้ดุลการค้าสหรัฐเยอะ แต่ด้วยเหตุผลอะไรไม่แน่ใจ จีนเลือกที่จะไม่ได้แลกเงินกลับเป็นหยวนทันที กลับเอาเงินไปซื้อพันธบัตรสหรัฐถือไว้นอกประเทศแทน ทำให้หยวนอ่อนกว่าความเป็นจริง และทำให้สินค้าจีนถูกเมื่อเทียบกับสหรัฐ ก็กลับไปเสริมความได้เปรียบในด้านราคาขึ้นอีก
จะแบนอะไรในประเทศก็ทำไปเหอะ แล้วแต่สบายใจ เพราะจีนเองก็แบน Google, Facebook
แต่ปัญหาคือที่ผ่านมาสหรัฐมักจะไม่แบนคนเดียว จะหาทางกดกันให้ประเทศอื่นๆร่วมแบนด้วย
บางทีผมก็สงสัยนะ ว่าบริษัทที่เคยมีข่าวคาวอย่าง Huawei ทำไมคนที่ทราบข่าวเป็นอย่างดีถึงชื่อเสียของบริษัทนี้ ทำมั๊ยทำไมถึงยังเชียร์อยู่อีก
ราคาถูก ความคุ้มค่ากับคุณภาพสินค้า และการโปรโมทของ Huawei ไงครับ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
1.ราคาเป็นเหตุผลหลัก 2.คุณภาพเป็นเหตุผลรอง ส่วนเรื่องวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่ง 2 ข้อนี้ บางครั้งในมุมมองของ end user ก็ไม่จำเป็นต้องไปรับรู้ตรงนั้น
Huawei ยืนยัน จะปิดบริษัทหากรัฐบาลจีนขอดักเก็บข้อมูล
แต่บริษัทมีประวัติแบบนี้ ก็น่าจะบ่งบอกว่าคำพูดของบริษัทเชื่อถือไม่ได้แล้วนะครับ แถมรัฐบาลจีนอุ้มขนาดนี้ ยังจะเชื่ออีกเหรอครับว่าไม่มีความสัมพันธ์เป็นพิเศษ (ตอน ZTE ไม่เห็นจะออกหน้าอะไรเท่าไหร่เลย)