By: mk 
on 18 May 2019 - 22:55
Tags:
Topics:
Samsung Electronics เปิดตัวเทคโนโลยีการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระดับ 3 นาโนเมตรแล้ว
เทคนิคของซัมซุงเรียกว่า 3GAE ถือเป็นกระบวนการแบบ 3nm Gate-All-Around (GAA) เวอร์ชัน 0.1 ที่เริ่มทดสอบกับคู่ค้าแล้ว หากเทียบกับกระบวนการ 7 นาโนเมตรในปัจจุบัน จะลดขนาดพื้นที่ชิปลงได้ 45% พร้อมใช้พลังงานน้อยลง 50% (ที่ประสิทธิภาพเท่าเดิม) หรือได้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 35% (ที่พลังงานเท่าเดิม)
การก้าวเข้าสู่โลกของ 3 นาโนเมตร ทำให้กระบวนการผลิตต้องเปลี่ยนจากเทคนิค FinFET ในปัจจุบัน ที่เปลี่ยนตัวเกตจากรูปครีบ (fin) มาเป็นเทคนิค Gate-All-Around (GAA) หรือ GAAFET ที่เป็นช่อง (channel) แทน (ดูภาพประกอบ)
เทคนิค GAA โดยทั่วไปใช้การวางเส้น nanowire ที่มีขนาดผอม ทำให้กระแสไฟผ่านได้น้อย แต่ซัมซุงได้คิดวิธีที่เรียกว่า MBCFET (Multi-Bridge Channel Field Effect Transistor) เปลี่ยนจากการวางเส้นมาเป็นวางแผ่น nanosheet ที่ให้กระแสไฟผ่านได้มากขึ้น (ดูภาพและคลิปประกอบ)
ซัมซุงยังไม่ได้ระบุช่วงเวลาว่า 3 นาโนเมตรจะพร้อมเมื่อไร แต่บอกคร่าวๆ ถึงแผนการลดขนาดกระบวนการผลิตดังนี้
- ครึ่งหลังของปี 2019 จะเริ่มผลิตขนาด 6 นาโนเมตรเป็นจำนวนมาก (mass production) และพัฒนากระบวนการผลิตขนาด 4 นาโนเมตร (ยังเป็น FinFET) เสร็จสิ้น
- ครึ่งแรกของปี 2020 จะเริ่มผลิตขนาด 5 นาโนเมตรเป็นจำนวนมาก
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
where's Intel
เมื่อก่อนเทคนิคผลิตชิปพวกนี้ intel จะนำเจ้าอื่นไปเป็นปี แต่เดี๋ยวนี้อย่าว่านำเลยตามเขาหลายปีด้วยซ้ำ ต้องขอบคุณการเติบโตของตลาดชิปโมบายนี่ล่ะที่ทำให้เงินเทเข้าตลาดนี้จนพัฒนาไปไวมากๆ
ผมคิดว่า intel ก็มีแผน กับ how to อยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้นเอง ของพวกนี้เค้าคิดปุ๊บเค้าไม่เข็นออกมาทำขายทันทีหรอกครับ ต้องค่อยๆขยับรุ่นไปตามกลไกตลาด
เห็นด้วยครับว่าเดี๋ยวนี้เทคโนโลยี intel ตามหลังเจ้าอื่นไปหลายปี แต่ก็เห็นด้วยว่าจริงๆ intel คงมีแผนกับ know how อยู่แล้วแต่ยังกั๊กไว้อยู่ เพราะตลาด CPU ของ PC นี่คู่แข่งอ่อนแอไปหน่อย แทบจะผูกขาดอยู่เจ้าเดียว อย่างตอนนี้ CPU intel ขาดตลาด โลกยังต้องง้อเลย แบบนี้ยังไม่ต้องรีบเข็นเทคโนโลยีใหม่ออกมาก็ได้
แต่มีบริษัทนึงที่กำลังหัวเสีย คือ Apple เพราะตอนแรกเปลี่ยนมาใช้ intel เพราะ intel ยุคนั้นพัฒนานำชาวบ้านเขาแต่ IBM PowerPC พัฒนาช้ามาก แต่พอมายุคนี้ดันเจอ intel พัฒนาไปช้าเหมือนกัน ดูทรงว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ไปอีกจริงๆ คงได้เจอ Apple เปลี่ยนไปใช้ ARM จริงๆ แน่ (ตัว MacOS มันพร้อมอยู่แล้ว เรื่องเปลี่ยนสถาปัตยกรรมแอปเปิลก็เชี่ยว คงสอดไส้อะไรไว้รอเปลี่ยนอยู่แล้ว เหลือแต่จุดขายฝั่ง Windows ซึ่งถ้าเปลี่ยนเป็น ARM จริงก็คงเสียจุดเด่นตรงนี้ แต่ยังแก้เกมได้ด้วยการรวมร่างกับ iOS ซึ่งมีแอพมหาศาลได้) แต่จะว่าไป intel ก็คงไม่แคร์อยู่ดี เพราะตลาด Mac ตอนนี้มันเล็กมาก
ตอนนี้ Intel น่าจะไปทุ่มกับการแก้ปัญหาตัว Arch มากกว่า
Intel รอขาย CPU ควอนตั้มอยู่ครับ ???
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
ผิดที่AMDครับที่แต่ก่อนตามINTELไม่ทัน
INTELเลยไม่รีบ เพราะคิดว่ายังไงก็ขายได้
รู้สึกตัวอีกทีว่าล้าหลังเลยต้องตีบวก +++++++++++
แอบคิดว่า ถ้า Samsung ซื้อ VIA จนสามารถผลิต x86/x64 ขาย, Intel,AMD จะสะเทือนแค่ไหน
แค่ตลาด Mobile อย่างเดียว Samsung ก็ผลิตไม่ทันแล้ว
ประเด็นคือพอยิ่งเล็กจะยิ่งลดยาก เป็นแผนให้คู่แข่งเข้าเส้นชัยก่อนหมดมุขก่อนหรือเปล่า ในขณะที่ Intel ยังคงประกาศลดขนาด node ลงเรื่อยๆได้ และเป็นการลดแบบ no regret เพราะรีดเทคโนโลยีที่ได้จากการผลิตไซส์นั้นๆได้จนคุ้ม (โดยการออกรุ่น +, ++, +++) แต่ไม่แน่ซักพัก Intel คงประกาศตัวเลขใหม่ที่จะใช้ในการตลาด เพราะที่ผ่านมาก็เคยสร้าง Megahertz war, core/thread war, node war พอคู่แข่งตามทันก็ประกาศตัวเลขใหม่ออกมาตลอด
เทคโนโลยีต่อไป
BOBAFET
ส่วนตัวผมมองว่า
แต่ก่อนอินเทลเป็นผู้ผลิต CPU ซับซ้อนที่จำนวนมากที่สุด เพราะ demand เกือบทั้งหมด ไปที่ wintel platform
ดังน้้นจึงสมเหตุสมผลที่จะ ผูกขาดไม่เปิด Fab ให้คนอื่นมาใช้ ทำมากประสบการณ์มาก มีข้อมูลจากการทำจริงมาก การผลิต cpu ให้มี density สูง ๆ จนได้ yield ที่เป็น High Volume ต้องได้ข้อมูลจากการทดลองทำปรับแต่งค่า แต่ละรอบต้นทุนสูงมาก เจ้าอื่นๆ อยากแข่งก็ไม่สามารถแข่งได้
ต่อมาเป็นยุคหลัง Post-PC demand cpu ซับซ้อน ปริมาณมากที่สุด คือ arm บนมือถือ ไม่ใช่ cpu intel อีกต่อไป FAB อื่นๆ ที่ผลิต ARM ก็ได้งานมาทำได้สะสมข้อมูลความรู้มากขึ้น ๆ ค
นอกจากนั้นการทำธุรกิจที่เป็น FAB อิสระยังหมายถึงต้องมีความยืดหยุ่นพอที่จะรับความหลากหลาย จากลูกค้าจากหลายๆทางที่ส่งแบบมาให้ผลิต มีองค์ความรู้เพิ่มอีกหลายๆแบบ เพิ่มองค์ความรู้ในแง่ความหลากหลายในรูปแบบที่ต้องผลิตเพื่อตอบสนอง สังเกตได้จาก FAB อิสระสามารถขยับขึ้นมาแข่ง intel ได้มากขึ้นเรื่อยๆ
การให้ Fab เป็นหน่วยงานภายในแทนที่จะตั้งเป็นบริษัทแยก ยังทำให้เกิดการผูกขาดภายใน ไม่มีการแข่งขันอิสระ
บางทีมันไม่ใช่แค่ บริษัทฉันมีคนฉลาดกว่าบริษัทอื่น
+1
GLOBALFOUNDRIES ถูกทิ้งห่าง
tsmc จะมีทีเด็ด ตามมาไหม
จะไปยากอะไร ก็ลดความรอบคอบการผลิต ลดความปลอดภัย แล้วเอาไปเพิ่มสมรรถนะสิ หุหุ