CNBC รายงานว่า ตอนนี้ FedEx บริษัทขนส่งรายใหญ่ของสหรัฐฯ ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาการส่งสินค้ากับ Amazon แล้ว โดยสัญญาที่ว่านี้คือ FedEx Express ที่ Amazon จะใช้บริการขนส่งทางอากาศของ FedEx
คำแถลงของ FedEx ระบุว่า ทางบริษัทตัดสินใจจะไม่ต่อสัญญา FedEx Express ซึ่งเป็นสัญญาส่งสินค้าภายในสหรัฐฯ กับ Amazon ซึ่งการตัดสินใจนี้จะไม่มีผลต่อสัญญาอื่น ๆ ที่มีต่อระหว่าง Amazon และหน่วยงานอื่นของ FedEx หรือส่วนที่เกี่ยวข้องกับบริการระหว่างประเทศ
ปัจจุบัน การส่งสินค้าของ Amazon Prime แบบสองวันถึงนั้นส่วนใหญ่จะใช้บริการ UPS ในขณะที่ Amazon จะใช้บริการอื่นของ FedEx เพื่อจัดการลอจิสติกส์อื่น ๆ ซึ่งรวมถึงการปิดช่องว่างที่ UPS ทำไม่ได้ด้วย โดย FedEx ระบุว่าปีที่แล้วบริษัทมีรายได้จาก Amazon ราว 1.3% ดังนั้นการไม่ต่อสัญญา FedEx Express กับ Amazon ซึ่งเป็นเพียงสัญญาเดียวจากหลาย ๆ สัญญาระหว่างสองบริษัทก็คงจะไม่ได้มีผลต่อรายได้ของ FedEx มากนัก
สิ่งที่น่าสนใจในการเลิกสัญญานี้ คือทุกคนต่างก็รู้ดีว่า Amazon เองกำลังพัฒนาระบบลอจิสติกส์ของตัวเองอยู่ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือจัดส่งเองทั้งหมดเพื่อลดรายจ่ายด้านการขนส่งที่จะต้องไปจ่ายให้บริษัทอื่น อย่างเช่น FedEx, UPS หรือ USPS และทำให้บริษัทควบคุมการจัดส่งสินค้าได้ดีขึ้นอีกด้วย และข่าวนี้ก็คงจะยืนยันความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างบริษัทได้ดี
ส่วนฝั่ง FedEx เองก็กำลังพัฒนาบริการขนส่งสู้กับ Amazon เช่นกัน อย่างบริการ FedEx Extra Hours ที่จะส่งสินค้าให้ภายใน 1-2 วันเหมือนกับ Amazon Prime โดยเน้นจับกลุ่มลูกค้าเป็นผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซ
ที่มา - The Verge
Comments
ไม่ต่ออ่ะดีแล้วตอนไปอยู่อเมริกาผมยังแจ้งAmazon เลยว่าสินค้าของผมที่สั่งทุกชิ้นห้ามส่งด้วยบริการของ FedEx เด็ดขาดเพราะไม่เคยส่งมาให้ตรงเวลาสักที ต้องถ่อไปไกลๆเพื่อเอาของที่ศูนย์อีก จ่ายแพงแต่บริการห่วย แถมหยิ่งอีก สู้ USPS ไม่ได้
ทำเองควบคุมคุณภาพได้ก็จริง แต่ทว่ามันก็จะไม่เกิดการกระจายรายได้ มันเหมือนแบ่งจมูกกันหายใจ มันก็ทำให้หากมีปัญหามันก็จะแก้ไขได้ยากขึ้น เพราะไม่ได้ดีลกับใครแล้ว
ยากยังไงครับ ทำเองหมด การแก้ปัญหาควรจะเร็วขึ้นถึึงจะถูก
ผมว่ามันจะเป็นแนว CP ไงครับ ทำทุกอย่างเองหมด
ถัาสลับ FedEx <-> amazon ล่ะ lol