GitHub แบนนักพัฒนาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่รัฐบาลสหรัฐฯ คว่ำบาตรโดยไม่ได้ประกาศต่อสาธารณะ แต่นักพัฒนาที่เคยใช้ไอพีที่อยู่ในเขตเหล่านั้นจะถูกจำกัดการใช้งานและขึ้นข้อความแจ้งเป็นรายคน
ไม่แน่ชัดว่านักพัฒนาพื้นที่ใดบ้างที่ได้รับผลกระทบ แต่พื้นที่ที่มีข่าวออกมาแล้ว ได้แก่ อิหร่าน, เกาหลีเหนือ, คิวบา, ซีเรีย, และคาบสมุทรไครเมีย
นักพัฒนาที่ถูกจำกัดยังคงใช้งาน public repository ได้ต่อไป แต่ไม่สามารถเข้าถึง private repository ได้ในตอนแรก แต่ภายหลัง GitHub ก็เปิดตัวเลือกให้เปลี่ยนเป็น public ได้ แต่พื้นที่บริการอื่น เช่น Gist ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงได้
ผู้ใช่ GitHub ชื่อบัญชี 1995parham ได้สร้าง repository เพื่อเรียกร้องให้ GitHub แจ้งเตือนล่วงหน้าหากจะมีการแบนเช่นนี้, ประกาศการแบนต่อสาธารณะ, และควรแบนจากข้อมูลที่อยู่อาศัย ไม่ใช่การแบนโดยอาศัยประวัติไอพี
Comments
Microsoft แน่ใจนะ
MS ไม่ควรทำแบบนี้นะ การเมืองไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
ไม่ยุ่งไม่ได้ครับ เป็นบริษัท US ก็ต้องทำตามกฎหมายที่นั่น ไม่งั้นผู้บริหารจะติดคุกเอา
ส่วนว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ควรใช้อำนาจแบบนี้ไหม นี่อีกเรื่อง
lewcpe.com, @wasonliw
อึม.. ก็จริง คงต้องให้ชาวโลกประท้วง US แทนมั๊ง
กฎหมายต้องทำตามไว้ก่อนครับ จะดีไม่ดีนั่นอีกเรื่องหนึ่ง(มีปัญหาค่อยไปฟ้องร้องความเสียหายกับรัฐเอาทีหลัง ถ้าทำได้นะ) ไม่อย่างงั้นจะวุ่นวายถ้าเข้าข้างแต่ความถูกต้องของตัวเอง อยู่ในประเทศไหนก็ต้องทำตามกฎประเทศนั้น MS ถ้าไม่ทำนี่จะโดนผลเสียหนักน่ะสิ และจะเสียหายหนักกว่าด้วยเพราะโดนรัฐในประเทศแม่ลงโทษ
ฮ่าๆๆๆๆๆ ตลกดีครับข่าวนี้ ใครที่คิดว่าไทยถอยหลัง เจออเมริกาช่วงนี้มีตกขอบโลกอ่ะ เพราะอเมริกาช่วงนี้ยังกะอยู่ยุคโลกแบนฮะ
อย่างน้อยๆ การกระทำมันมีฐานอยู่บนกฎหมายของรัฐ มีแหล่งอ้างอิงอำนาจทางกฎหมาย มีการตรวจสอบย้อนกลับ ถ้าเป็นเพราะเรื่องการเมืองระดับชาติ ของแบบนี้มีขึ้นมีลง ประกอบกับนโยบายระหว่างประเทศมันเปลี่ยนแปลงกันได้ ถ้าผลประโยชน์ลงตัว ที่โน้นมันมีการคานอำนาจกันไป-มาเยอะแยะมาก แต่ถ้ากฎระเบียบมันออกมา ยังไงก็ต้องอ้างอิง และทำไปก่อน ส่วนได้รับผลกระทบจนมีปัญหา ก็ต้องรายงานต่อรัฐว่าเอกชนได้รับผลกระทบ ต้องผ่อนปรน หรือทำไงต่อไป
แล้วยิ่งเคสนี้คือ "รัฐบาลสหรัฐฯ คว่ำบาตร" อันนี้ต้องดูเลยว่าจะปิดกั้นอย่างไรให้ถูกต้อง และผลกระทบน้อยที่สุด ตัวอย่างบริษัทที่โดนมาก่อนหน้านี้คือ หัวเห่วย เพราะมีความเชื่อมโยงกับการทำธุรกิจกับอิหร่าน ซึ่งสหรัฐฯ คว่ำบาตร อยู่
กลับมาฝั่งไทย .... อย่าให้พูดเลยระบบตรวจสอบ-คานอำนาจ การบังคับใช้กฎหมายมันแย่กว่าเยอะ ตีความก็แล้วแต่เจ้าหน้าพนักงานก็มี
เรื่องการตรวจสอบได้นี่เห็นด้วยครับ และไม่คิดเถียงเลย 5 ปีที่ผ่านมาตรวจสอบอะไรไม่ได้หลายอย่างมาก แต่หลายๆ คนที่เชียร์ลุงยังกล้าเคลมว่าดีกว่า "นักการเมือง"
นี่หลายคนตอบเม้นผมเพราะคิดว่าผมอวยลุงตู่/ชาตินิยมสุดขีด และดูถูกอเมริการึเปล่าครับเนี่ย?
ถ้าคิดแบบนั้นผมขอชี้แจงว่าผมจะชี้ให้เห็นว่าการปกครองของหลายประเทศกำลังกลับไปเป็นชาตินิยม อนุรักษ์นิยม แม้กระทั่งอเมริกาก็ตาม
แค่นั้นแหละฮะ
ถึงแม้หลายประเทศจะกลับไปชาตินิยม และอนุรักษ์นิยมอยู่ในบางสมัยเลือกตั้ง แต่สิทธิ์พื้นฐานหลายๆ อย่างไม่ได้ถูกริดรอนไปนะครับ และแน่นอนว่าเลือกตั้งรอบหน้า กระแสชาตินิยมและอนุรักษ์นิยม อาจเป็นกระแสรองแทน แล้วฝ่ายหัวก้าวหน้า ทุนนิยมกลับมาแทน แต่ทั้งหมดก็ยังอยู่ระบอบการปกครอง และระบบการตรวจสอบเดิมอยู่ดี
ผมกำลังรอดูว่าหลังได้นายกคนใหม่แล้ว เราจะตรวจสอบอะไรได้มากกว่านายกคนก่อนมั้ยนะครับ
ผมพูดเหมือนคนละคนกันเนอะ
คิดว่าได้เพิ่มขึ้น แต่ประเทศเราอำนาจมันมีทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ดูกันยาวๆ
อย่างน้อยเค้าก็ไม่ได้ทำร้ายตัวเองนะคับ อี้อี้
เห็นแบบนี้อัตราว่างงานต่ำสุดในรอบสิบปีนะคับ อี้อี้
ผมเรียนปริญญาตรีสิบกว่าปีก่อน หน้ากล่องอุปกรณ์วิจัยจากสหรัฐฯ มีคำเตือนห้ามส่งออกไปยังประเทศที่ว่านี้ทั้งหมดมาตลอดนะครับ เมื่อก่อนมีพม่าด้วย เพิ่งมาถอดออกไปไม่กี่ปีมานี้
สหรัฐฯ เป็นอย่างนี้มาตลอดครับ คุณแค่เพิ่งมารู้
lewcpe.com, @wasonliw
เรื่องการกีดกันทางการค้านี่ผมรู้มาก่อนเคยศึกษามาตลอด แต่กรณีของไมโคซอฟท์ท่เป็นเจ้าของปัจจุบันของ Github มันเพิ่งมาเป็นแบบนี้นี่ครับ
หรือว่า GitHub ก็ไม่ให้ประเทศที่ถูกคว่ำบาตรเข้าใช้มาตั้งแต่ก่อนทรัมพ์ได้ขึ้นเป็น potus เหรอครับ?
ถ้าตัวไมโครซอฟท์เองก็ห้ามส่งออกซอฟต์แวร์ไปประเทศเหล่านี้อยู่แล้วครับ (เป็นมาตลอด)
ถ้าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมว่าคงเป็นเรื่อง compliance ที่อยู่กับบริษัทใหญ่ขึ้น พวกระบบตรวจสอบภายในก็เข้มขึ้น พอเจอว่ายังมีคนจากประเทศต้องห้ามสามารถ "ซื้อ" บริการได้ ฝ่ายตรวจสอบภายในก็ไม่ยอม
lewcpe.com, @wasonliw
งั้นที่นโยบายมาถึง Github ไวเป็นเพราะมาอยู่ใต้ไมโครซอฟท์ด้วยมั่ยครับ เพราะ Gitlab เองก็ยังไม่บล็อคประเทศในกลุ่มเดียวกัน (แต่ผมว่าอาจมาได้ทุกเมื่อ)
Gitlab เองบล็อคประเทศกลุ่มเดียวกันครับ เข้าไม่ได้ตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยบอกเหตุผลว่า Google Cloud ห้ามให้บริการประเทศเหล่านี้
กลับไปอ่านความเห็นคุณเองที่ว่า "เจออเมริกาช่วงนี้มีตกขอบโลกอ่ะ" อันนี้ไม่จริงครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ขอบคุณครับ ผมจะได้ทำความเข้าใจใหม่
ชอบการ discuss แบบนี้ครับ ทำให้ได้ความรู้เยอะขึ้นเลน ขอบคุณนะครับ
ผมเป็นคนโง่ก็สบายแบบนี้แหละครับ ไม่เข้าใจก็ถามลูกเดียว แล้วก็ยอมรับว่าโง่ มันเลยจบง่ายไม่งัดกันด้วยอีโก้ ไม่แตกประเด็นยิบย่อย
ไม่หรอกครับ :) เป็นเพราะคุณรับฟังเหตุผลมากกว่าครับ
แล้วถ้าเราอยู่ในพื้นที่ที่ถูกแบนเราจะสามารถอพยพไปอยู่ในที่แห่งใดได้บ้าง
ตอนนี้ทั้ง github,gitlab ก็อยู่ใน US เหมือนกัน
VPN ออก เพื่อใช้งานน่าจะง่ายกว่าย้ายถิ่นฐานนะครับ
Bitbucket is Australian
แต่ก็ซี้กับ USA อยู่ดี ไม่แน่ว่าจะรอด 555
อันนี้แย่มากเลย บาง project มี core team จากประเทศพวกนี้ โดนแบนที project แทบจะหยุดพัฒนา โคตรแย่
เพราะแบบนี้เค้าถึงกลัวเรื่องโดนคว่ำบาตรทางการค้าจากชาติมหาอำนาจ เพราะมันทำให้เอกชน และประชาชนเดือดร้อน ถ้ารัฐฯ ทำอะไรที่มันสุ่มเสี่ยงเป็นประเด็นกับชาติมหาอำนาจ ผลกระทบก็ตกกับเอกชน และประชาชน ที่มีผลประโยชน์ร่วมกันอยู่
อันนี้นี่กระทบเอกชนประเทศอื่นด้วยน่ะซิ ใน Twitter นี่ทั้งบ่นทั้งด่ากันเยอะเลย
แต่ก็ทำไรไม่ได้ ต้องทำตามกฏหมาย US ?
นี่ถ้า US แบน GitHub จากจีนด้วยนี่ community Vue กับ React นี่หายวูบเลย
ไม่ใช่ว่าจีนแบน GitHub เหรอครับ อันนี้ผมยังไม่ได้เช็คข้อมูลนะ แค่เดาๆ
เรื่องจีนแบนไหม ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่ว่าบน GitHub นี่ Dev จีนเยอะมากเหมือนกันนะ ไม่รู้ว่ามากันไง แต่ profile เขาใส่ที่อยู่เป็นเมืองในจีนเลยเท่าที่ไปส่องมา
เยอะล้นอ่ะครับ บาง repo นี่ภาษาจีนเยอะตาลายเลย โดยเฉพาะพวก repo เกี่ยวกับ image recognition ต่างๆ อ่ะ คนจีนเยอะมาก
คงต้องหันไปพึ่งจีนหรือทำขึ้นมาใช้เองแล้วหละมั้ง แบบนี้
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว