Bernie Sanders หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต เป็นนักการเมืองอีกรายที่ออกมาสนับสนุนลดอิทธิพลบริษัทเทคโนโลยี ส่วนคนที่มีบทบาทโดดเด่นกว่าในนโยบายนี้คือ Elizabeth Warren จากพรรคเดโมแครตเช่นกัน
ล่าสุด Sanders ออกมาประกาศในงาน 2019 Young Leaders Conference ว่าเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าที่บังคับใช้งานโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นไม่ควรนำมาใช้งานในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นแผนส่วนหนึ่งของเขาในนโยบายปฏิรูปเรื่องการจับกุมและกระบวนการยุติธรรมรวมถึงระบบการจำคุก ซึ่งเขาระบุในเว็บไซต์ว่า มีคนจำนวนมากในสหรัฐฯต้องติดคุกโดยที่ไม่ได้ก่ออาชญากรรมรุนแรง แต่ต้องติดคุกเพราะไม่สามารถประกันตัวเองได้ อ่านเพิ่มจากเว็บไซต์ Bernie Sanders
ภาพจาก Facebook Bernie Sanders
ความเคลื่อนไหวของ Sanders ออกมาในช่วงที่ ซานฟรานซิสโก และ Somerville, Massachusetts ผ่านกฎหมายห้ามการใช้ซอฟต์แวร์จดจำใบหน้าของตำรวจ ด้วยเหตุผลด้านความยุติธรรม ความโน้มเอียงทางเชื้อชาติ และความเป็นส่วนตัว ส่วนฝ่ายนิติบัญญัติมิชิแกนและรัฐนิวเจอร์ซีย์กำลังพิจารณากฎหมายที่คล้ายกัน
แต่ก็ยังมีฝ่ายตำรวจในดีทรอยต์ และ ชิคาโก ที่กำลังพิจารณายกระดับการใช้ซอฟต์แวร์จดจำใบหน้าในกล้องวงจรปิดทั่วเมือง
ซอฟต์แวร์การจดจำใบหน้ายังคงมีด้านเสี่ยงถ้าจะนำมาใช้อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะถ้าเป็นการบังคับใช้โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไมโครซอฟท์เป็นบริษัทที่ออกมาเคลื่อนไหวแนวหน้าให้ใช้อย่างเหมาะสมถูกต้อง ไม่กระทบต่อสิทธิพลเมือง และควรมีกฎหมายกำกับเทคโนโลยีนี้ได้แล้ว
ที่มา - Venture Beat
Comments
ว่ากันไปแล้วปัจจุบันบริษัทเทคโนโลยีเริ่มมีอิทธิพลขึ้นเรื่อยๆ สุดท้าย ถ้าโลกเราถูกเชื่อมต่อโดยไร้พรมแดน และเขตแดน บริษัทเอกชนมีอิทธิพลต่อประชาชน (ในความหมายเชิงความสัมพันธ์ ความเชื่อ ความน่าเชื่อถือ ไม่ใช่อำนาจปกครอง) มากว่ารัฐ มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างนะ