บริษัทท่าอากาศยานไทย หรือ AOT เปิดตัวแอพพลิเคชั่น AOT AIRPORTS อำนวยความสะดวกให้คนเดินทางในสนามบินทั้ง 6 แห่งของไทย ประกอบด้วย ท่าอากาศยานเชียงใหม่, ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย, ท่าอากาศยานดอนเมือง, ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าอากาศยานภูเก็ต, ท่าอากาศยานหาดใหญ่ โดยเริ่มต้นนำร่องการใช้งานที่สนามบินสุวรรณภูมิก่อน
ฟังก์ชั่นหลักของแอพพลิเคชั่นมีดังนี้
- Flight Information ตรวจสอบข้อมูลเที่ยวบิน เคาเตอร์เช็คอินและสัมภาระ
- Map and Navigation แผนที่นอาคาร สามารถนำทางไปยังจุดต่างๆ ในอาคารได้
- Transport & Car Park ข้อมูลรถขนส่งสาธารณะและการเดินทางในท่าอากาศยาน
- Facilities & Services แสดงข้อมูลการอำนวยความสะดวกต่างๆ ในท่าอากาศยาน ซึ่งในวิดีโอเปิดตัวมีการนำเสนอฟังก์ชั่นเรียกรถลีมูซีนด้วย
- Shop & Dine รวมข้อมูลสินค้า ร้านอาหาร โปรโมชั่นซื้อของ สามารถสะสมแต้มได้
- Flight Alerts แจ้งเตือนเที่ยวบินที่กำหนดไว้ และสามารถแจ้งเตือนก่อนเวลาบอร์ดดิ้งโดยอิงจากพิกัดของคนเดินทางในสนามบิน เช่น ถ้าคนเดินทางอยู่ไกลจาก gate ก็จะแจ้งเตอนก่อนจะเวลาบอร์ดดิ้งล่วงหน้าเผื่อเวลาให้เดินเท้ามาได้ทัน
- Suggest & Help Desk ช่องทางรับฟังข้อคิดเห็น
- Translation แปลภาษา เบื้องต้นรองรับการแปลคือ ภาษาไทย จีน รัสเซีย อังกฤษ และญี่ปุ่น
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) บอกว่า ปกติทางบริษัทมีการลงทุนในเทคโนโลยีต่างๆ อยู่แล้ว การลงทุนครั้งนี้จึงแทบไม่มีอะไรใหม่ เพียงแต่เชื่อมต่อข้อมูลจุดต่างๆ เข้าด้วยกันมากขึ้น เพิ่มความสามารถในการสื่อสารกันระหว่างส่วนต่างๆ ของสนามบินได้ ไม่ใช่ต่างฝ่ายต่างทำงาน
นายนิตินัย ระบุเพิ่มเติมว่า ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยี การดำเนินงาน AOT จะขึ้นมาอยู่บนโลกเสมือนจริงมากขึ้น ซึ่ง AOT จะพยายามทำระบบนี้ให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกคนเดินทางท่องเที่ยว ลดความแออัด
ในงานเปิดตัวแอพพลิเคชั่น ทาง AOT ได้เปิดตัวพันธมิตรเช่น CAT ร่วมมือกับ Google Station ให้บริการ Wi-Fi ความเร็ว 30/30 Mbps ฟรีในสนามบินทั้ง 6 แห่ง
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
สำหรับคนไม่ได้บินบ่อย ๆ มันเยี่ยมมาก
ดอนเมืองนี่อย่างกะเขาวงกต หิวข้าวโดนข้าวกล่อง 120 ทั้ง ๆ ที่เดินไปอีก 50 เมตรมันมี 7-11 อยู่ตรงบันได
อันนี้พอได้
ใช้ Google Maps หรือ HERE WeGo น่าจะพอ
เปิดแม็พก็ใช้ได้เหมือนกัน
คนจะใช้หรอ?
สะสมแต้มมาอีกละ
อันนี้พอได้อยู่ แต่ถ้าใช้พวก Voice Assistant มันก็ใช้แทนกันได้อยู่แล้ว
จริง ๆ ทำเป็นเว็บก็จบ
จะได้ใช้หรอ คนส่วนใหญ่ใช้ Google Translate, Baidu, Microsoft Translator หมดนิ
โดยรวมมีประโยชน์บ้าง แต่ไม่เห็นพอยต์ที่จะต้องมาทำแอปแยก ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าเอะอะก็ทำแต่แอป ทั้งที่ใช้ประโยชน์จริงไม่มาก
Coder | Designer | Thinker | Blogger
Google Maps/HERE WeGo นี่นำทางในอาคารสนามบินได้เหรอครับ
นั่นน่ะสิครับ แต่ถึงแม้จะใช้ได้ POI มันจะไปสู้ของ AOT ทำเองได้เหรอ Google Map เท่าที่ดูตอนนี้ยังแยกชั้นไม่ได้เลย POI ก็น้อยมาก ๆ
แอพ AOT มีการใช้ Beacon นำทางในอาคารครับ Google Maps ใช้แทนไม่ได้แน่นอนครับ หรือมองจริงๆ ในแง่เทคนิคก็น่าจะรู้กันนะ ว่า GPS ไม่เคยใช้ในอาคารได้อะ
แล้วรถลิมูซีน ต่อให้ไม่มีแอพ ในสนามบินก็มีบริการอยู่แล้วครับ ลองค้น Google ดูก็มีคนถามแม้แต่ในพันทิพย์นะ
ก็เข้าใจครับว่าไม่มีอะไรจะถูกใจทุกคนได้แหละ
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
คือผมไม่ได้มองว่าคนจะใช้บริการลีมูซีนหรือเปล่านะครับ แต่ส่วนตัวผมรู้สึกว่า หน่วยงานรัฐบ้านเราเอะอะก็ทำแต่แอปนะครับ
Disclaimer: ผมเป็นทีมงานที่ทำให้รัฐฯ โครงการหนึ่งอยู่ครับ ความเห็นทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัว เพราะคนออกคำสั่งทำแอปคือหน่วยงานที่จ้างครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ทำเป็น web app ก็น่าจะพอมั้ง
คนบินไม่บ่อย = ใช้ครั้งเดียวก็ลบทิ้งแล้ว
คนบินบ่อย = ไม่ต้องใช้ รู้หมดทุกอย่างแล้ว
จะต้องมีแอพไปทำไมครับ?
ถ้าออกแบบสนามบินดี พื้นไม่เป็นหลุมเป็นบ่อ ไม่ใช่พรมเก่าสมัยสี่สิบปีที่แล้ว แผ่นป้ายบอกสายการบินที่อ่านง่าย บอกสายพานเอากระเป๋าง่าย ตม.ไม่รอนาน automatic gate ที่มันเชื่อถือได้ เสียบแล้วอ่านได้ทันที ไม่ต้องลุ้น พื้นแผ่นหินมีการดูแลให้ใหม่อยู่เสมอ เบาะที่นั่งไม่โทรมราวกับถูกฉีก มีการดูแลรักษาให้เป็นที่เชิดหน้าชูตาชาวโลกได้
ห้องน้ำที่สะอาด ไม่เปียก ไม่เหม็น
แท็กซี่ที่เปิดมิเตอร์ตลอด ไม่โกง ไม่หงุดหงิด ไปไหนก็ได้ ไม่มีมั่ว ไม่ปิดมิเตอร์
มันไม่สำคัญกว่า "แอพ" หรอกหรือครับ
บอกตรงๆ ไปสนามบินที่จีน,สิงค์โปร์มา เทียบกับสุวรรณภูมิและดอนเมืองแล้ว อย่างอายเลยครับ
นั่นสิ จะทำแอพทำไม informative web ที่รองรับมือถือก็พอ
ยุคนี้การ install อะไรสักอย่างคิดแล้วคิดอีก
ตัวแอปนี้มันใช้ location based service เข้ามา ประเด็นการให้ความสะดวกกับผู้โดยสารนั้นก็ส่วนหนึ่ง แต่ข้อมูล location และ movement ของผู้โดยสารที่ AOT จะได้รับจะมีค่ามากครับ การช่วย alert หรือตามหาผู้โดยสารที่ไม่มา boarding นี่เป็นปัญหาที่เกิดบ่อยๆ เลย อีกอย่างก็ใช้วางแผนหารายได้จากพื้นที่ retail ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
มีแอพไม่ว่า แต่ควรเอาข้อมูลที่จำเป็นลงเว็บก่อนมั้ย
ในมุมคนที่ไม่ได้เปิดทางบ่อยไม่มีใครอยากลงแอพให้รกเครื่องหรอก
แจ้งเตอน => แจ้งเตือน
ลองแล้วหา 7-11 ไม่เจอที่ดอนเมือง หรือว่าปิดไปแล้วหว่าไม่ได้ไปนานละ