Tags:
Node Thumbnail

นอกจากจะเปิดตัว iPhone 11 ในงาน Keynote ครั้งล่าสุดแล้ว Apple Watch Series 5 ก็ได้รับฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพิ่มเข้าไปใกล้เคียงกับนาฬิกาที่เราคุ้นเคยมากยิ่งขึ้น แต่จากการทดสอบของสื่อต่างประเทศหลายเจ้าแล้ว Apple Watch Series 5 ก็ยังมีเรื่องให้เปรียบกับรุ่นก่อน ๆ อยู่หลายส่วนเช่นกัน

จุดเด่นอย่างแรกคงหนีไม่พ้นฟีเจอร์ Always-On เพราะรุ่นที่ผ่าน ๆ มาตอนจะดูเวลาต้องพลิกข้อมือขึ้นมาตลอด แต่ Series 5 นั้นแค่เหลือบตาดูก็ได้ ช่วยให้เหมือนใช้นาฬิกาจริง ๆ อยู่ แม้จะดูเล็กน้อยแต่ก็สะดวกขึ้นมาก ที่สำคัญคือใช้พลังงานไม่เยอะมากอีกด้วย

No Description

ส่วนข้อเสีย สื่อหลายเจ้าบอกว่าแสงจากหน้า Always-On ก็ยังแยงตาถึงแม้จะปรับลดความสว่างลงสุดแล้วก็ตาม นอกจากนี้ฟีเจอร์ Always-On จะทำงานต่อเมื่อเซนเซอร์จับได้ว่า Apple Watch อยู่บนแขนของเรา ดังนั้นถ้าฟีเจอร์นี้จะไม่ทำงานถ้ากำลังชาร์จแบตเตอรีอยู่ ส่วนการใช้งานแอพ ก็อาศัยการแตะหน้าจอให้ออกจากโหมด Always-On ก่อนถึงจะใช้งานต่อได้ตามปกติ

ส่วนของเข็มทิศที่เพิ่งใส่มาให้ใน Series 5 แม้เผิน ๆ จะดูไม่มีอะไรมาก แต่ทาง CNET ได้ทดสอบกับแอพแผนที่แล้วกลับมีประโยชน์กว่าเดิม เพราะรุ่นก่อน ๆ เราจะเห็นตัวเราในแผนที่เป็นแค่จุดบอกตำแหน่งเท่านั้น แต่เข็มทิศจะทำให้เรารู้ว่าตอนนี้เรากำลังหันไปทางไหนด้วย โดยแสดงเป็นวงรัศมีขึ้นมาทำให้เราเดินทางสะดวกขึ้นมาก

No Description

แต่ในทางกลับกัน แบตเตอรีของ Apple Watch Series 5 ก็ยังใช้งานได้ไม่เกิน 1 วัน (เฉลี่ยราว 18 ชั่วโมง) อยู่ดี ในขณะที่ยี่ห้ออื่น ๆ ไม่ว่าจะ Huawei Watch GT, Amazfit Bip, Fitbit Versa 2, Samsung Galaxy Watch ฯลฯ นั้นสามารถใช้งานได้เกินวัน อาจจะยาวเป็นสัปดาห์ถึงจะชาร์จครั้งหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งเป็นจุดแรกที่ต้องทำใจ

จุดต่อมาคือยังใช้ Apple Watch กับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นนอจาก iPhone ไม่ได้เช่นเดิมและไม่เปิดให้บริษัทอื่น ๆ ปรับแต่งหน้าปัดนาฬิกาได้ตามใจชอบ ส่วนฟีเจอร์ส่ง SOS (International SOS) ที่แอปเปิ้ลทำให้ Apple Watch Series 5 ส่งสัญญาณ SOS ไปยังเบอร์ฉุกเฉินได้กว่า 150 ประเทศทั่วโลกโดยไม่ต้องใช้สัญญาณโทรศัพท์นั้น แม้จะดีมากแต่ถ้าไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ ก็ไม่ต่างกับฟีเจอร์ส่ง SOS ที่เคยมีในรุ่นก่อน ๆ เช่นกัน

ด้วยของใหม่ที่ใส่เข้ามาใน Series 5 มีไม่เยอะมาก (ว้าวสุดก็น่าจะเป็น Always-On) ทำให้อาจดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่นักกับการอัพเกรดขึ้นมาจาก Series 4 ขณะที่สำหรับคนที่กำลังพิจารณาจะซื้อ Apple Watch ที่ตอนนี้มีทั้ง Series 5 เป็นรุ่นท็อปสุดและ Series 3 และ 4 ที่ถูกกว่าแต่ฟีเจอร์ต่างกันไม่มาก เว็บไซต์ CNET ก็ได้เปรียบเทียบในเชิงการใช้งานในแต่ละรุ่นมาให้พิจารณาด้วย

No Description

  • ถ้าไม่รำคาญที่ต้องพลิกข้อมือขึ้นมาดูเวลาบ่อย ๆ ก็ซื้อ Series 3 ได้เพราะราคาไม่แพงแล้ว
  • ขอแค่นาฬิกาที่เป็นอุปกรณ์ตรวจจับการออกกำลังกายก็พอ ใช้ Series 3 ก็เพียงพอ
  • อยากได้หน้าจอใหญ่หน่อย Series 4 มีหน้าจอ 40, 44 มิลลิเมตรเท่ากับ Series 5
  • ถ้าต้องการวัดคลื่นหัวใจ (ECG) ซื้อ Series 4 ก็พอ (แต่ยังใช้ในไทยไม่ได้)
  • ถ้าส่วนใหญ่อยู่ในประเทศ Series 3, 4 ก็มีระบบ SOS เช่นกัน

รวมคะแนนรีวิว

  • Cnet 8.3/10
  • The Verge 9/10
  • WIRED 8/10

ที่มา : CNET, The Verge, WIRED, TechCrunch, TechRadar

Get latest news from Blognone

Comments

By: 白羊
In Love
on 19 September 2019 - 15:13 #1129065
白羊's picture

Apple Watch 4s นั่นเอง

By: naphob
ContributoriPhone
on 19 September 2019 - 15:21 #1129067

ดังนั้นถ้าฟีเจอร์นี้จะไม่ทำงานถ้ากำลัง...???? (เดาว่ากำลังชาร์ท) กลับมาพิมพ์ต่อให้จบประโยคด้วยครับ

By: sarawutnakarb
UbuntuWindows
on 19 September 2019 - 15:50 #1129073
sarawutnakarb's picture

หลังจากเปิดตัวไม่รู้สึกหลังหัก ที่เพิ่งซื้อ Series 4 มาได้ไม่นาน

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 19 September 2019 - 16:34 #1129083
hisoft's picture

อยู่บนแขนของเรา ดังนั้นถ้าฟีเจอร์นี้จะไม่ทำงานถ้ากำลัง ส่วนการใช้งานแอพ

ถ้ากำลัง??

รุ่นอื่นนอจาก

นอจาก -> นอกจาก

By: errin on 19 September 2019 - 16:49 #1129085

เพิ่มความจุจาก Series 4 16GB เป็น 32GB ด้วยครับ

By: horakung
iPhoneAndroidWindows
on 19 September 2019 - 17:02 #1129088
horakung's picture

รอว่าเมื่อไหร่จะใช้กับ iPad ได้มาหลายรอบแล้ว...

By: readonly
iPhone
on 19 September 2019 - 18:44 #1129107
readonly's picture

รอมานานแล้ว always on ที่รออีกอย่างคือ custom watchface. แต่คงจะไม่รอแล้ว เอานี่แหละ อัพเกรดจาก 0 ก็ได้เยอะพอดูละ. อย่างน้อยก็ยังมีบอดี้สแตนเลสให้เลือก

By: sirabhat24
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 19 September 2019 - 21:52 #1129134
sirabhat24's picture

ปัจจุบันมีsmart watch ของเจ้าใด ที่สามารถรับและโทรได้ ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งสมาร์ทโฟน

By: nexusZenith
ContributoriPhoneIn Love
on 19 September 2019 - 22:10 #1129138 Reply to:1129134

จริงๆ ตัวนี้ก็กึ่งๆ นะครับ ตั้งแต่ Apple Watch Series 3 ที่ใส่ซิมได้เป็นรุ่นแรกเป็นต้นมา คือมันทำงาน standalone กับมือถือครับ มีซิม (eSim) ในตัวมันเอง

By: tg-thaigamer
ContributoriPhoneAndroidBlackberry
on 20 September 2019 - 10:43 #1129241
tg-thaigamer's picture

ถือ S4 ยาวๆ ไปก่อนและกันนะ สงสัยปีนี้แอปเปิ้ลทำตัวใหม่แอบไว้ Major Change ปีหน้าชัวร์


มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ