ที่งาน AWS Public Sector Summit ที่สิงคโปร์ Tan Kok Yam รองเลขาธิการสำนักงานโครงการ Smart Nation และรัฐบาลดิจิตอลของสิงคโปร์ บรรยายถึงการใช้งานคลาวด์เพื่อสร้างบริการให้กับผู้ใช้ซึ่งมีทั้งประชาชนและบริษัท พร้อมกับเปิดเผยแผนการเปิดบริการใหม่ภายในปี 2020
Tan ระบุว่าแนวทางของสิงคโปร์ คือการวางรากฐานของรัฐบาลดิจิตอลด้วยระบบยืนยันตัวตนประชาชนออนไลน์เป็นอย่างแรก โดยระบบล็อกอินกลางของรัฐบาลสิงคโปร์ที่ชื่อว่า SingPass นั้นเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2003 และมีการอัพเกรดอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีมานี้ โดยปี 2015 เริ่มใช้การล็อกอินสองขั้นตอน, ปี 2016 เปิดบริการแชร์ข้อมูลพื้นฐาน MyInfo และบริการล็อกอินสำหรับองค์กร CorpPass, ปี 2018 ก็รองรับการล็อกอินบนโทรศัพท์มือถือ, และปีหน้าจะเปิดให้ภาคเอกชนสามารถขอล็อกอินผู้ใช้ด้วย SingPass ได้ ทำให้บริการกลายเป็นโครงสร้างยืนยันตัวตนของชาติ (National Digital ID - NDI) เต็มรูปแบบ
เขาระบุว่ารัฐบาลต้องทำหน้าที่เป็นจุดยืนยันตัวตนที่น่าเชื่อถือ แล้วจึงเปิดให้เอกชนเข้ามาเชื่อมต่อได้ โดยตอนนี้ NDI มีบริการเพิ่มเติมหลายอย่าง ได้แก่
หลังจากสามารถยืนยันตัวตนประชาชนในช่องทางดิจิตอลได้แล้ว รัฐบาลสิงคโปร์พยายามลดความจำเป็นที่ประชาชนต้องเดินทางไปยังหน่วยงานต่างๆ ด้วยตัวเอง เช่นเดิมเมื่อเด็กคนหนึ่งเกิดมา ผู้ปกครองต้องติดต่อ 4 หน่วยงาน เพื่อแจ้งเกิด, แจ้งขอสิทธิประโยชน์การมีบุตร, ฉีดวัคซีน, ไปจนถึงการหาสถานรับเลี้ยงเด็ก บริการเหล่านี้สามารถทำได้ทั้งกระบวนการผ่านทางแอป Moment of Life (MOL)
ทางฝั่งบริษัทเองบริการทั้งหมดทางรัฐบาลก็พยายามทำให้เป็นบริการออนไลน์ ตั้งแต่การตั้งบริษัท เช่น การลงทะเบียน, จดหมายเลขผู้เสียภาษี, แจ้งหาคนทำงาน, ยื่นขอใบอนุญาต ไปจนถึงการดำเนินกิจการ เช่น การขอใบอนุญาตทำงาน, การยื่นภาษี ไปจนถึงการเลิกกิจการ
ช่วงท้ายของการบรรยาย Tan ระบุถึงแนวทางการพัฒนาที่มีรอบการพัฒนาที่เร็วขึ้นมาก และแทนที่นักพัฒนาจะต้องสนใจกับโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก เขาอยากให้นักพัฒนาทุ่มเวลากับการพัฒนาบริการมากกว่า โดยตอนนี้โครงการ NDI ใช้บริการของ AWS ได้แก่ EC2, KMS, EKS สำหรับจัดการคอนเทนเนอร์, ELB กระจายโหลด, Shield Advance สำหรับป้องกัน DDoS, CloudTrail สำหรับเก็บล็อกเพื่อการตรวจสอบ, และ CloudWatch/GuardDuty เพื่อการมอนิเตอร์ระบบ
Comments
ระบบ ดี จัง
โอ้โห ทำไรได้เยอะมาก เมื่อไร ndid จะได้ออกตัว ไม่ทราบว่าเทียบกับ ndid แล้วเป็นไงบ้างครับ การใช้ blockchain มันช่วยให้เรื่อง trust มันดีกว่ารึป่าว หรือการพัฒนาแบบ singpass มันง่ายกว่าครับ
NDID ของบ้านเราผมมองว่าต้องทำเพราะ "รัฐบาลไม่ทำงาน" ครับ ไม่มีระบบให้ Authen ตัวตนออนไลน์ใดๆ ระบบล็อกอินยื่นแบบภาษีออนไลน์บ้านเรายังสามารถรีเซ๊ตรหัสได้ด้วยชื่อพ่อแม่ ระบบออนไลน์ทุกระบบอ่อนปวกเปียก ทำงานไร้ศูนย์กลาง
เลยต้องมี NDID มาให้เอกชน (ธนาคาร) ไว้แลกข้อมูลกันเองว่า Authenticate มาแล้ว พอเอกชนทำกันเองก็หลอนๆ ว่าเชื่อถือได้ไหม
lewcpe.com, @wasonliw
ส่วนที่เอกชนทำแล้วไม่น่าเชื่อถือ เพราะอะไรครับ ไม่แน่ใจว่าเพราะขั้นตอนการ verify หรือป่าว หมายถึงตอนลงทะเบียนใหม่รึป่าว ที่อาจถูกปลอมแปลงบุคคล
เข้าใจว่าถ้าลงทะเบียนใหม่ถูกต้องแล้ว การทำ authentication หรือการยืนยันตัวตนแต่ละครั้ง น่าจะเชื่อถือได้ หรือว่า authentication ก็อาจมีปัญหารึป่าวครับ
เพราะคิดว่าส่วนสำคัญรัฐบาลจะทำให้น่าเชื่อถือที่สุด คือการเป็นส่วนหนึ่งของ verification แบบกรมการปกครอง เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของปาตี้
Fake News ไม่ทำเหรอ
สิงคโปร์มาถูกทางแล้ว หัวใจของการทำธุรกรรมออนไลน์คือการยืนยันตัวตน
3-4 ปีที่แล้วได้ยินข่าวบ้านเราจะทำ mobile payment สุดท้ายพอ implement ได้พร้อมเพย์มา แอบเศร้าใจว่าคนไทยรู้จักเทคโนโลยีแค่ฉาบฉวย เห็นเค้าโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ ก็ลอกเค้ามาโดยที่ไม่รู้ว่าแก่นแท้ของมันคือเทคโนโลยีการยืนยันตัวตน ที่ลอกเค้ามามันแค่ส่วนที่ต่อยอด
ปล. ผมอยู่ในประเทศที่รัฐเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคลของประชากรทุกคน การทำธุรกรรมออนไลน์ทุกอย่างต้องต่อกับระบบการยืนยันตัวตนของรัฐ ถึงจะได้รับความเชื่อถือและรับรองโดยกฏหมาย ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงิน, ล็อกอินเว็บไซต์, sign เอกสาร etc. และรัฐได้เงินจากการเข้าถืงข้อมูลส่วนบุคคลพวกนี้ด้วย