ในงาน F8 ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กชี้ว่า อนาคตคือความเป็นส่วนตัว แนวโน้มของแชทคือการเข้ารหัส แะยังจะเชื่อมระบบแชทระหว่าง Facebook Messenger และ WhatsApp เข้าไว้ด้วยกัน อย่างไรก็ตาม การเข้ารหัส ถูกมองว่าเป็นปัญหาเวลาสืบสวนคดีร้ายแรง เช่น ก่อการร้าย การครอบครองรูปโป๊ของผู้เยาว์
ล่าสุด อัยการสูงสุดสหรัฐฯ William P. Barr ระบุว่า กระทรวงยุติธรรม ต้องการความชอบธรรมทางกฎหมายในการจะเข้าถึง backdoor ของแอพแชทเข้ารหัส เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนคดีร้ายแรง และยังบอกด้วยว่า บริษัทเทคโนโลยี ไม่ควรออกแบบระบบใดๆ ที่ป้องกันการสืบสวนคดี โดย Barr ได้เขียนจดหมายถึงเฟซบุ๊กและมีฝ่ายอัยการในอังกฤษและออสเตรเลียร่วมลงนามในจดหมายด้วย
ในจดหมายยกกรณีตัวอย่างว่า ถ้าเฟซบุ๊กทำการเข้ารหัส Facebook Messenger และ WhatsApp จริงๆ จะส่งผลกระทบต่อการสืบคดีคือ การรายงานเข้ามาที่ศูนย์คนขายและการล่วงละเมิดเด็กในสหรัฐ พบว่ามีถึง 8,000 กรณีที่คนร้ายพยายามล่อลวงและนัดเจอเด็กผ่านออนไลน์ รวมถึงการล่อลวงให้ส่งรูปภาพไม่เหมาะสม ซึ่งถ้ามีการเข้ารหัสเกิดขึ้นจะทำให้การสืบสวนยากขึ้น
ความขัดแย้งระห่างอำนาจรัฐ กับบริษัทไอทีทำนองนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี 2015 จากเหตุการณ์กราดยิง San Bernardino ซึ่งตำรวจต้องการเข้าถึงแชทของโทรศัพท์ iPhone คนก่อเหตุ แต่แอปเปิลไม่ได้ปลดล้อกให้ด้วยเหตุผลความเป็นส่วนตัวของเจ้าของเครื่อง จนศาลสหรัฐฯ สั่งแอปเปิลทำรอมพิเศษข้ามการตั้งค่าความปลอดภัย
ด้านโฆษกเฟซบุ๊ก Andy Stone ออกมาพูดว่า การเข้ารหัสที่รัดกุม คือการปกป้องผู้ใช้งานทั่วโลก ทั้งประชาชนทั่วไป นักข่าว นักเคลื่อนไหว ดังนั้นเฟซบุ๊กจึงคัดค้านการสร้าง backdoor ให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าถึงได้
ที่มา - The New York Times, BuzzFeed
Comments
กลายเป็นว่าทึกอย่างมีข้อดี ข้อเสีย
ตอนแรกก็บอกว่าเก็บข้อมูล พอจะลดการเก็บข้อมูลโดยลงรหัสก็บอกว่าช่วยคนร้าย...
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เหมือน ตอนแรกเก็บข้อมูล
พอโดนโวยว่าเก็บข้อมูล
เลยใส่รหัสซะ จะได้ไม่รู้ว่าเก็บ
มากกว่านะ :P
แสดงว่าปัจจุบัน นี่ พร้อมขอดูได้ตลอดสินะ
เมื่อก่อน การคุยในบ้านในห้องกันสองต่อสองเป็นเรื่องความส่วนตัว แต่เทคโนโลยีก็มอบเครื่องดักฟังมา
ไม่แปลกที่อนาคตที่เราจะคุยกันในห้องแชท ส่วนตัวแล้วจะมีเครื่องดักฟังในห้องแชทด้วย
ต้อง"กา"ความชอบธรรม => ต้อง"การ"ความชอบธรรม
ไม่รู้จะเข้าข้างใคร เพราะมันดีเสียต่างกัน
ถ้า Facebook มี backdoor ให้อ่านแชทได้จริงๆ ต่อไปสงสัยใครก็คงเข้าไปขอดูแชทซินะ
แต่ถ้าไม่ดูก็ไม่มีข้อมูลสืบคดีซินะ
ยากจริงๆ
ผมว่าเรื่องนี้น่าจะพอตกลงกันได้ถ้าออกแบบการเข้ารหัสแบบใหม่ที่สอดคล้องกับชีวิตจริงที่เป็นอยู่มากขึ้น เช่นเวลาจะเริ่มคุยกันมีบอกก่อนเลยว่านอกจากจะดูกันได้แค่สองคนแล้วอาจจะมีคนได้รับการรับรองจาก CA นี้จะดูได้ด้วย แล้วเวลาปกติก็คุยกันไปแค่สองคนยืนยันได้ว่ายังไม่มีใครแอบดู แต่ถ้ามีคนที่สามมาดูเมื่อไหร่สองคนแรกต้องรู้ทันทีว่าไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว แล้วก็ต้องประกาศตัวคนที่สามที่เข้ามาเปิดดูแบบสาธารณะด้วย จะได้เหมือนกับการที่ตำรวจจะค้นอะไรต้องไปขอหมายศาลก่อนแล้วก็ประกาศให้ทุกคนรู้ไม่ใช่แอบ ๆ ทำ คล้าย ๆ ที่ Microsoft เคยเสนอ blockchain แบบใหม่ที่ทำให้นับคะนนเลือกตั้งได้โดยไม่รู้ว่าใครเลือกใครและโกงไม่ได้ด้วย
เค้าดูย้อนหลังน่ะสิครับ คงไม่สามารถรู้ได้ทันที แต่น่าจะแจ้งเตือนไว้ได้
A. บอกให้รักษาข้อมูลความปลอดภัยผู้ใช้งาน
B. กังวลว่าการเข้ารหัสจะทำให้สืบคดี หาคนร้ายยากขึ้น
FB : WAT !!! สรุปจะเอายังไง ไปคุยกันให้เคลียร์
รักษาความปลอดภัยจากคนอื่น แต่รัฐบาลขอผูกขาดดูได้คนเดียว
ส่วนจะเชื่อมั่นรัฐบาลได้แค่ไหนก็...
สรุปง่ายๆ นะครับ
ไม่ว่าซ้ายขวาหน้าหลัง จะไปทางไหน รัฐบาลก็ผิดวันยังค่ำ