Tags:
Node Thumbnail

Tencent ประเทศไทยประกาศยุทธศาสตร์ในปี 2020 เน้นหนักด้านประสบการณ์ออฟไลน์ เช่น การจัดอีสปอร์ต อีเว้นท์เพลง และที่น่าจับตามองมากที่สุดคือ สตรีมมิ่ง WeTV ที่แม้เพิ่งจะเปิดตัวในไทยไม่ถึงปี แต่ก็เริ่มเดินหน้าสร้างซีรีส์ไทยลงแพลตฟอร์ม และตั้งเป้าว่าฐานคนดูกลุ่มต่อไปคือคนจีน

ธุรกิจกลุ่มบันเทิง ปัจจุบันใน Tencent ไทย มี Joox, Tencent Games, WeTV
ซึ่งที่ผ่านมา Tencent ทำอีเว้นท์เพลง เช่น คอนเสิร์ต, งานประกาศรางวัล Joox Music Award และดึงคนดังในโลกออนไลน์มาทำคอนเทนต์บน Joox เช่น ดึงเก๋ไก๋สไลเดอร์ ยูทูเบอร์ชื่อดังมาร้องเพลงคาราโอเกะบน Joox หรือการใช้ข้อมูลคนฟังเพลง Joox มาสร้างคอนเทนต์เพลงใหม่ๆ ด้านเกม Tencent จัดอีสปอร์ตแข่งเกมมาแล้ว 15 ครั้งใน 12 จังหวัด ซึ่ง Tencent จะดำเนินแนวทางนี้ต่อไปเพื่อสร้าง engagement ในกลุ่มผู้ใช้งาน

No Description

ด้านผลิตภัณฑ์ใหม่ WeTV สตรีมมิ่งจีน ที่แม้เพิ่งเปิดตัวในไทยไม่ถึงปีแต่ก็สามารถสร้างกระแสในกลุ่มผู้ใช้งานในไทยได้จากซีรีส์จีนเรื่อง "ปรมาจารย์ลัทธิมาร" หรือ The Untamed ที่มีกระแสในโซเชียลจน Tencent ดึงนักแสดงมาจัดแฟนมีตในไทย โดยนายกฤตธี ระบุว่า แอพพลิเคชั่น WeTV ตอนนี้มียอดดาวน์โหลดเฉลี่ย 1 ล้านดาวน์โหลด นับจากเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซีรีส์เรื่องนี้ช่วยดันยอดผู้ใช้งานโตขึ้นจากเดิม 250% Tencent จึงตั้งเป้ายึดแนวทางนี้และเตรียมจัดแฟนมีตดาราจีนในไทยอย่างต่อเนื่อง

No Description

ในปี 2020 Tencent จะลงทุนสร้าง original content ของไทย และที่เริ่มสร้างไปแล้วคือ ซีรีส์ฉลาดแกมโกง และตั้งเป้าจะสร้างคอนเทนต์ใหม่ลง WeTV ทุกไตรมาส โดยตั้งเป้าว่าคนดูกลุ่มต่อไปคือคนจีน

ปัจจุบัน WeTV ให้บริการรูปแบบดูฟรี แต่ถ้าสมัคร VIP จะได้ดูซีรีส์เร็วกว่าแบบดูฟรี โดยค่าบริการมีหลายราคาตั้งแต่แพ็กเกจรายเดือน 149 บาท ราย 3 เดือน 389 บาท

No Description

Get latest news from Blognone

Comments

By: tom789
Windows Phone
on 17 October 2019 - 16:04 #1133694

ไทย ไม่ทำระบบ สตีม มาแข่งกับ ชาวบ้านเค้าเลยเหรอ หรือมันลงทุนสุง ละครไทย กระแส ดี ที่จีน มากเลยนะ

By: akira on 17 October 2019 - 16:28 #1133701 Reply to:1133694

ต้องระดับช่อง TV นั่นแหล่ะครับถึงจะทำไหว ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ Platform อยู่ที่ Content ที่จะเอามาลงมากกว่า เพราะตอนนี้ต้องสู้กันด้วย original content ไม่สามารถทำแบบเดิมๆ ได้แล้ว ที่จะไปขอซื้อลิขสิทธิ์มาลงอย่างเดียว เพราะถึงมีเงินแต่เจ้าของไม่ขายก็เกมส์ ตอนนี้เจ้าของลิขสิทธิ์ก็ทำ Platform ของตัวเองกันเยอะแล้ว ต้นทุนค่าทำ Content เรื่องนึงสูงมากเลยนะครับ ขนาดช่อง 3 ยังต้องปรับตัวเป็น Content Provider เลย เพราะ Platform ที่พัฒนาไม่ติดตลาด