J. Allen Brack ประธานของ Blizzard เปิดงาน BlizzCon 2019 ด้วยการเอ่ยปาก "ขอโทษ" ต่อความผิดพลาดของ Blizzard ในการแบนโปรเพลเยอร์ Hearthstone เรื่องการเมืองฮ่องกง
Brack ยอมรับว่า Blizzard ตัดสินใจแบนโปรเพลเยอร์ "เร็วไป" และออกมาพูดคุยกับแฟนๆ "ช้าไป" เขาบอกว่าท่าทีของบริษัทในเรื่องนี้ถือว่าทำได้ต่ำกว่ามาตรฐานของบริษัทเอง (we did not live up the high standards that we setup for ourselves) ในฐานะประธานบริษัท เขาจึงขอโทษและขอรับผิดชอบ
คำกล่าวขอโทษของ Brack ได้รับเสียงปรบมือจากผู้เข้าร่วมงาน BlizzCon 2019 อย่างล้นหลาม
ที่มา - VentureBeat
Comments
แต่ก็ยังไม่ให้ผู้เล่นไทยเข้าแข่ง OW เนื่องจากเหตุผลด้าน Visa โดยไม่บอกสาเหตุทั้งๆที่ขอถูกประเภทแล้ว
อ้าว ประธานออกมาบอกว่าเชิงว่าการแบนเป็นความผิดพลาด แล้วคนที่เห็นด้วยกับการแบนที่บอกว่าเหมาะสมแล้วล่ะครับ?
คนที่บอกว่าเหมาะสมทำไมเหรอครับ? ผมว่าคนคิดต่างกันก็เป็นเรื่องปกตินะ หรือว่าไม่ใช่?
ส่วนตัวผมว่าแยกการเมืองออกจากกีฬาก็ดีแล้ว เหมือนกับที่สมาคมกีฬาอื่นๆเค้ายึดถือปฏิบัติกัน
ผมบอกว่าห้ามคิดต่าง หรือห้ามเห็นด้วยกับการแบนเหรอครับ?
e sport แยกออกจากการเมือง แสดงว่ากฎหมายจะไม่รองรับ และฝ่ายการเมืองไม่สนใจ e sport ให้เอกชนจัดการกันเอง ไม่มีการทำทีมชาติ ไม่มีสวัสดิการนักกีฬา แบบนี้เหรอครับ?
หรือต้องการแค่การ support จากการเมือง แต่ด้านอื่นให้แยกออกไป
หรือมีความเห็นอื่นครับ?
เรื่องของเรื่องคือ Blizzard ยังไงก็ต้องทำอะไรกับ Blitzchung ไม่งั้น Blizzard อาจโดนจีนเล่นงาน
Blizzard เอ่ยปากขอโทษตรงนี้ แต่งมาอย่างดี โดยเลี่ยงไม่พูดถึง Blitzchung / hong kong เลยแม้แต่น้อย ... คนที่สังเกตุดีจะบอกว่า ลมปากดี แต่ไม่มีอะไร
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เห็นด้วยครับ แบนเพราะเอาใจจีน มาขอโทษเพราะเอาใจเกมเมอร์
ยอดขายมาก่อน
+1 อันนี้ผมเห็นตรงกัน 100%
blizz ผิดพลาดตรง แบนเร็ว และ ลงโทษรุนแรง คนเลยมองว่าเลียจีน ส่วนคนที่เห็นด้วยในกรณีที่โดนแบนไม่ได้มองถึงกรณีเหล่านี้ แต่มองว่าเกมเมอร์เอาการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องสมควรโดนแบน
e sport ไม่เกี่ยวกับการเมืองอย่างไร อภิปรายได้ครับ
e-sport ก็เหมือนกีฬาประเภทหนึ่ง ที่เราๆต่างก็ซึมซับวัฒธรรมของมันมา พอขึ้นชื่อว่าการแข่งเชิงกีฬา เราจะไม่นำการเมือง ศาสนา เพศ หรือการเหยียดต่างๆเข้ามาปะปน .......
ถ้าท่านกล่าวแบบนี้แสดงว่าในมุมมองของคุณ e-sport เกี่ยวกับการเมือง ?
ควรมีการสนับสนุน และรองรับ สวัสดิการ กฎหมาย อนุญาตให้จัดการแข่ง ฯลฯ เหล่านี้ก็ทำโดยฝ่ายการเมืองทั้งนั้นครับ
ไม่ใช่ว่ามันควรเกี่ยวนะครับ มันเกี่ยวไปแล้ว
อย่างเรื่องการขอวีซ่าเข้าไปแข่งขันในอเมริกา ก็ต้องขอวีซ่าให้ถูกประเภท เหล่านี้ก็เป็น regulation จากฝ่ายการเมือง
ทีมชาติ esport นี่ก็เกี่ยวกับการเมืองครับ
ไปทำงานในเมืองเขาก็ต้องขอวีซ่าเป็นเรื่องปรกติครับ ไม่ใช่เฉพาะแค่ esport ครับ แค่คุณเป็นตากล้องพาคู่บ่าวสาวไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งต่างประเทศแล้วไม่ขอวีซ่าให้ถูกประเภท (+work permit ด้วย) ก็โดนส่งกลับได้แล้วครับ
คือถ้ามองว่ามันเป็นเรื่องการเมือง ลำพังแค่คอนเซปท์ของประเทศก็เป็นเรื่องการเมืองได้ ซึ่งก็ถูกต้อง แต่ผมว่ามันจะยิบย่อยเกินไปทำให้เวลาคุยกันมันจะลึกเกินไปนะผมว่า
ผมจะบอกว่าการเมืองมันอยู่รอบตัวตั้งแต่เกิดครับ แค่ทำเป็นไม่สนใจ อาจเพราะมองว่าการเมืองมันโสมม หรือเพราะคิดว่ามันไกลตัว เลยไม่อยากยุ่งกับการเมือง และ/หรือไม่อยากให้ใครมาพูดเกี่ยวกับการเมืองในโซนที่ตัวเองคิดว่าจะใช้เป็นที่หลบจากการเมืองมันก็ไม่ได้ทำให้คุณพ้นจากการเมืองครับ ผมมองว่ามันเหมือนเอามือปิดตาตัวเองแล้วไปยืนกลางฝูงชนแล้วคิดเอาเองว่าตรงนั้นไม่มีคนอ่ะครับ
คือคุณเกี่ยวข้องการเมืองตลอด แค่ไม่พูดถึงมันก็ไม่ได้ทำให้คุณห่างไกลจากการเมืองเลย
ก็แบบที่คุณตาหวานบอกว่าการเมืองมีหลายระดับ แค่แสดงออกด้วยการยกป้ายนี่้เบาจะตายครับ ยังไม่ถึงขั้นมาเรียกร้อง หรือประท้วงอะไรแบบฮาร์ดคอร์เลย
การแข่งกีฬา อย่างเช่น โอลิมปิค
จุดประสงค์การแข่งกีฬาคือเพื่อสร้างมิตรภาพระหว่างประเทศ
เป็นการแข่ง"ตัวแทนประเทศ" แต่ห้ามยุ่งเกี่ยวการเมืองที่มีแต่จะนำความแตกแยกมานะครับ
แล้วมันก็เป็นมาตรฐานต่อๆกันมาหมด ทั้งบอลโลก asian game ฯลฯ
ฝ่ายไหนเป็นคนให้สวัสดิการต่างๆ รวมถึงนโยบาย และจัดตั้งทีมล่ะครับ ก็ฝ่ายการเมืองใช่มั้ยล่ะ
ผมมองว่าปัญหาคือคนชอบทะเลาะกัน มันทะเลาะกันทุกเรื่องอ่ะครับ แฟนแมนยูต่อยกับแฟนลิเวอร์พูลก็มีบ่อย นักบอลตีกัน นักกีฬาฮ็อกกี้ตีกันในสนามก็บ่อย จะบอกว่าคนทะเลาะกันเพราะการเมืองนี่ผมเกาหัวเลยครับ ผมก็เห็นว่าคนมันชอบทะเลาะกันทุกเรื่อง เพียงแต่การเมือง ศาสนานี่มันสเกลใหญ่แค่นั้นแหละ
สาเหตุจริงๆ คือการแสดงความเห็นทางการเมืองมันอาจไปเจอจุดใต้ตำตอครับ ไม่ได้ห้ามเพราะจะทะเลาะกัน
อย่างข่าวบลิซซาร์ดแบนผู้เล่นฮ่องกงที่ต้านจีนนี่แหละครับ "จุดใต้ตำตอ" ไปวิจารณ์ตลาดผู้เล่นขนาดใหญ่
เอาเป็นว่า งานแข่งกีฬาโดยเฉพาะระหว่างประเทศอย่างโอลิมปิก
มีไว้เพื่อเป้าประสงค์แรกคือ "เสริมสร้างความสามัคคี"
ถ้าคุณไม่เข้าใจตรงนี้ คุณไม่มีทางเข้าใจว่า
ทำไมเขาถึงแยกการเมืองออกจากกีฬา
ถ้าคุณไม่เข้าใจว่าคำว่าสามัคคีในเกมกีฬาเป็นแค่เป้าหมายที่ไม่มีจริง คุณก็คงไม่เข้าใจอะไรเลยครับ
ผมยังยืนยันว่า Blizz เค้าคิดมาดีและทำถูกแล้ว หากเกิดกรณีคนจีนแบน NBA จะได้ไม่คุ้มเสีย ออกมาขอโทษแก้เกี้ยวก้ถูกแล้วครับ จะได้ลดแรงเสียดทานลงไป
ผมเห็นด้วยจากมุมธุรกิจครับ
ใครเรียน microexpression ดูวินาทีที่ 11-12 แล้วจะเก็ตเลยว่าสำนึกผิดอย่างจริงใจมากกกกก(เสียงสูง)
/ในคลิปนี้ผมแยกเสียงปรบมือกับเสียง "ฮี่ๆ กรับๆ" ไม่ออกนะ
ฮ่าๆๆๆๆ ไม่ต้องดูผมยังรู้เลยว่าขอโทษเพื่อเอาใจคนที่ไม่เห็นด้วยกับการแบน
ชัดเจนว่า e sport ไม่ใช่กีฬา
Politic problems ruined everyone. Get rid of them first.
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว